ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระนิกโก"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
OctraBot (คุย | ส่วนร่วม)
replaceViaSearch
Iamcem (คุย | ส่วนร่วม)
→‎พระประวัติ: แก้ไขคำผิด (100 วัของ => 100 วันของ) และเคาะวรรคไม้ยมกให้ถูกต้อง
บรรทัด 5:
 
== พระประวัติ ==
ว่ากันว่าพระนิกโค เข้าเป็นศิษย์ของ [[พระนิชิเร็นไดโชนิน]] ระหว่างปี ค.ศ. 1258 และ ปี ค.ศ. 1260 ซึ่งไม่ระบุเวลาที่แน่ชัด ท่านได้ตามรับใช้พระนิชิเรนอย่างใกล้ชิด จนถึงวันที่ท่านดับขันธ์ จากบันทึกของนิชิเรนโชชู พระนิกโคยังได้โดนเนรเทศพร้อมๆพร้อม ๆ กับพระนิชิเรนถึงสองครั้ง และยังเป็นผู้ทำการเก็บรักษาบทธรรมนิพนธ์ที่พระนิชิเรนเขียนไว้อย่างมหาศาล โดยได้ทำการเก็บรักษาอย่างดีและระมัดระวัง
 
ในวันที่ [[8 ตุลาคม]] [[ค.ศ. 1282]] พระนิกโคได้รับการแต่งตั้งเป็น หนึ่งในหกของ พระสงฆ์อาวุโส ซึ่งพระนิชิเรนคาดหวังไว้ให้เป็นผู้เผยแผ่คำสอนหลังจากการดับขันธ์ของท่าน ต่อมาในวันที่ 13 ตุลาคม พระนิชิเรนได้แต่งตั้งให้ พระนิกโคเป็นเจ้าอาวาสแห่งวัดคุอนจิ แห่งเขามิโนบุ ซึ่งเป็นสถานที่พระนิชิเรนได้ใช้ชีวิตอยู่ในปีที่สุดท้ายของชีวิต อย่างไรก็ตามนิกาย[[นิชิเรนชู]] และนิกายอื่นๆอื่น ๆ ได้ปฏิเสธเรื่องนี้ วันต่อมาพระนิชิเรนได้ดับขันธ์ ณ คฤหาสถ์ตระกูลอิเคนามิในโตเกียว
 
หลังจากพิธีศพของพระนิชิเรน พระนิกโคได้เดินทางออกจากบ้านตระกูลอิเคนามิในวันที่ 21 ตุลาคม และนำอัฐิ ของพระนิชิเร็นกลับไปยังเขามิโนบุ จนถึงเขามิโนบุในวันที่ 25 ตุลาคม หลังจากครบ 100 วัของวันของจากดับขันธืของดับขันธ์ของพระนิชิเรน พระนิกโคและพระสงฆ์อาวุโสอื่นๆอื่น ๆ ทั้ง 5 และลูกศิษย์ ได้ร่วมพิธีรำลึกการดับขันธ์ครบ 100 วันของท่าน
 
หลังจากนั้น พระนิกโค ได้ทำหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสวัดคุอนจิ สอนลูกศิษย์และดูแลฆราวาสที่นับถือ หน้าที่หลักที่สำคัญที่สุดของท่านคือการดูแลและปกป้องรักษา[[ไดโงะฮนซน]] (สิ่งสักการบูชาสูงสุดของนิชิเรนโชชู) ดูแลรักษาสุสานของพระนิชิเรน และ ทำหน้าที่รวบรวมคำสอนและบทธรรมนิพนธ์ของพระนิชิเรน ระหว่างนั้นนั่นเอง พระสงฆ์อาวุโสอีก 5 รูป ได้มาเยือนเขามิโนบุนานๆนาน ๆ ครั้งเท่านั้น และค่อยๆค่อย ๆ เบี่ยงเบนและถอยห่างจากพระนิกโคที่ดำเนินคำสอนและการปฏิบัติตามแบบพระนิชิเรนซึ่งเป็นแบบดั้งเดิม อาทิเช่น บางท่านได้เริ่มปั้นพระพุทธรูปของ[[พระพุทธเจ้าศากยมุนี]] หรือ ไปเข้ากับ [[นิกายเทียนไท้]] สำหรับพระนิโคนั้น ได้ถูก ฮาการิ ซาเนะนากะ ยุยงให้ไปนับถือ[[นิกายสุขาวดี]] และเคารพเทพเจ้าของชินโตอีกด้วย
 
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ ส่งผลให้พระนิกโคเล็งเห็นว่า การเผยแผ่ธรรมของพระนิชิเรนคงไม่อาจดำเนินต่อไปได้ ณ [[วัดคุอนจิ]] แห่งเขามิโนบุอีกต่อไป ในฐานะที่เป็นพระสงฆ์ที่พระนิชิเรนแต่งตั้งให้เป็นพระสังฆราช พระนิกโคได้วางแผนว่าถึงเวลาแล้วที่จะไปจากเขามิโนบุ พระนิกโคจึงได้เดินทางออกจากเขามิโนบุ พร้อมกับได้นำไดโงะฮนซน อัฐิของพระนิชิเรน และของตกทอดต่างๆต่าง ๆ จากพระนิชิเรน และได้ออกจากเขามิโนบุพร้อมกับลูกศิษย์ในฤดูใบไม้ผลิ ปี [[ค.ศ. 1289]] นันโจะ โทะชิมัตุ ฆราวาสที่นับถือได้มอบที่ดินบริเวณใกล้ภูเขาไฟฟูจิให้กับพระนิกโค ภายหลังได้บริจาคให้สร้างเป็นวัด ซึ่งต่อมาคือ[[วัดไทเซขิจิ]] ซึ่งเป็นวัดใหญ่และศูนย์กลางของ[[นิชิเรนโชชู]]
 
หลังจากการก่อตั้งวัดไทเซขิจินั้น พระนิกโคได้แต่งตั้งศิษย์ขึ้นมาเป็นผู้สืบทอดคือ [[พระนิชิโมขุ]] ([[ค.ศ. 1260]]– [[ค.ศ. 1333]]) และได้เกษียณอายุและเดินทางไกลไปยัง โอโมะสุ ซึ่งท่านได้สร้างโรงเรียนสอนธรรมะ และได้สอนลูกศิษย์จนกระทั่งได้ดับขันธ์ใน เดือนที่ 2 ตามจันทรคติ ในปี [[ค.ศ. 1333]] เมื่ออายุได้ 87 พรรษา