ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สตีเวน เจอร์ราร์ด"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 46:
'''ฤดูกาล 2003-2004''' เจอร์ราร์ดลงเล่นในเกมลีก 34 นัด ยิงได้ 4 ประตู และลงเล่นในเกมยูฟ่าคัพ 8 นัด ยิงได้ 2 ประตู และในฤดูกาลนี้เจอร์ราร์ดได้รับแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมคนใหม่ของลิเวอร์พูล แทนที่ [[ซามี ฮูเปีย]]
'''ฤดูกาล 2004-2005''' เจอร์ราร์ดลงเล่นในเกมลีก 30 นัดทำได้ 7 ประตู และพาทีมลิเวอร์พูลเข้าชิง[[ลีกคัพ]]กับ [[เชลซี]] แต่แพ้ไป 3-2 โดยเขาทำเข้าประตูตัวเองซึ่งเป็นประตูตีเสมอ 1-1 อีกด้วยแต่ก็สามารถพาทีมคว้าถ้วย[[ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก]] โดยเอาชนะทีม[[เอซี มิลาน]] จากการดวล[[จุดโทษ]] ซึ่งในครึ่งแรกทีมเอซี มิลานนำอยู่ถึง 3-0 แต่ในครึ่งหลัง เจอร์ราร์ด ทำประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-3 และลิเวอร์พูลกลับมาตีเสมอ 3-3 ส่วนในเกมลีก เจอร์ราร์ดลงเล่นในเกมลีก 30 นัดทำได้ 7 ประตู และช่วยให้ลิเวอร์พูล ได้อันดับ 5 ทำให้ ลิเวอร์พูล ไม่ได้อันดับไปเล่นยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก แต่จากการที่ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก
[[ไฟล์:Gerrard.jpg|thumb|left|เจอร์ราร์ด ในปี 2005]]
'''ฤดูกาล 2005-2006''' เจอร์ราร์ดทำประตูตีเสมอ [[เวสต์แฮม ยูไนเต็ด]] (3-3) ในรอบชิงชนะเลิศ [[เอฟเอคัพ]] ส่งให้ลิเวอร์พูล เป็นแชมป์ในท้ายที่สุด ประตูจากการยิงไกลระยะ 35 หลานี้เป็นหนึ่งในประตูยอดเยี่ยมของรอบชิงชนะเลิศตลอดกาล และทำให้ สตีเวน เจอร์ราร์ด เป็นนักเตะเพียงคนเดียวที่ทำประตูในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วย 4 รายการใหญ่ เช่น [[ลีกคัพ]] กับ [[สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด|แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด]] , [[ยูฟ่าคัพ]] กับ อลาเบส , [[ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก]] กับ [[เอซี มิลาน]] และ [[เอฟเอคัพ]] กับ [[เวสต์แฮม ยูไนเต็ด|เวสต์แฮม]] ส่วนในเกมลีก เจอร์ราร์ดลงเล่น 32 นัด ยิงได้ 10 ประตู และช่วยให้ลิเวอร์พูล ได้อันดับ 3 เป็นรองแค่ [[เชลซี]] กับ [[แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด]] เท่านั้น