ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระยาสุมังคละโพธิสัตว์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 28:
เหตุที่พระยาแสนสุรินทร์ลือชัยใช้นามข้างต้นนี้ เพราะว่าพระยาแสนสุรินทร์ฯ มีความสัมพันธ์กับพระหน่อแก้วกุมารในฐานะ พระอัยกา (ตา) เนื่องจากได้ถวายลูกสาวของตนให้เป็นพระสนมของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช
 
พระสุมังคละโพธิสัตว์อัยการาชาครองราชสมบัติในกรุงเวียงจันทน์ได้เพียง 2-3 ปี ใน [[พ.ศ. 2118]] กองทัพพม่าของ[[พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง]]สามารถตีกรุงเวียงจันทน์ได้สำเร็จเป็นครั้งที่ 2 พระองค์จึงหลบไปซ่อนตัวอยู่ในป่า ทางกองทัพพม่าจึงตั้งให้[[พระมหาอุปราชาวรวังโส]] เจ้ามหาอุปราชวรวงษา พระราชอนุชาของ[[พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชธิราช]]ปกครองกรุงเวียงจันทน์แทน
 
เมื่อกองทัพพม่าถอนทัพกลับไปแล้ว พระสุมังคละโพธิสัตว์อัยการาชาจึงออกจากป่ามาเข้าร่วมกับพระ[[พระเจ้าศรีวรวงษาธิราช]](เจ้ามหาอุปราชวรวังโสวงษา) แต่กลับถูกพระมหาอุปราชวรวังโส[[พระเจ้าศรีวรวงษา]]จับตัวส่งไปให้[[อาณาจักรหงสาวดี]]แทน ซึ่งทางฝ่ายหงสาวดีก็ให้การดูแลรับรองพระองค์เป็นอย่างดี ตราบจนกระทั่งเมื่อเกิดเหตุวุ่นวายในอาณาจักรล้านช้างจนทำให้พระมหาอุปราชาวรวังโสสิ้นพระชนม์[[พระเจ้าศรีวรวงษาธิราช]][[สวรรคต]]ใน [[พ.ศ. 2123]] [[พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง]]จึงส่งตัวพระสุมังคละโพธิสัตว์อัยการาชาให้กลับมาปราบปรามเหตุวุ่นวายและปกครองอาณาจักรล้านช้างอีกครั้ง โดยมีกองทัพพม่าคอยกำกับดูแลด้วย ในครั้งนี้พระองค์อยู่ในราชสมบัติต่อมาเพียง 2 ปีก็สวรรคตใน [[พ.ศ. 2125]]
 
พระสุมังคละโพธิสัตว์อัยการาชามีพระราชโอรสที่สืบราชสมบัติ 1 พระองค์ คือ [[พระยานครน้อย]]