ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ควง อภัยวงศ์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
2T (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 38:
 
== ประวัติ ==
พ.ต.ควง อภัยวงศ์ เกิดเมื่อวันที่ [[17 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2445]] ณ [[จังหวัดพระตะบอง]] ซึ่งขณะนั้นอยู่ใน [[มณฑลบูรพา]] ของราชอาณาจักรสยาม (ปัจจุบันอยู่ในประเทศ[[กัมพูชา]]) เป็นบุตรของ [[เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่ม อภัยวงศ์)]] ผู้สำเร็จราชการจังหวัดพระตะบอง กับคุณหญิงรอด สมรสกับ คุณหญิง[[เลขา อภัยวงศ์]]
 
เคยรับราชการเป็น นายช่างผู้ช่วยโท แผนกกองช่างโทรเลข กรมไปรษณีย์โทรเลข จนได้ดำรงตำแหน่ง อธิบดี[[กรมไปรษณีย์โทรเลข]]
 
และได้รับพระราชทานยศพันตรี (พ.ต.) ปฏิบัติหน้าที่ราชองครักษ์พิเศษ เมื่อคราวร่วม[[กรณีพิพาทอินโดจีน|สงครามอินโดจีน]] [[พ.ศ. 2484|พ.ศ. 2484]] และได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ เป็น '''หลวงโกวิทอภัยวงศ์''' แต่ต่อมาได้ลาออกจาก บรรดาศักดิ์ เมื่อวันที่ [[4 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2484|พ.ศ. 2484]]
 
ซึ่งในสงครามครั้งนี้ ได้ทำหน้าที่เป็นนายทหารช่างผู้คุมงานก่อสร้างถนนไป[[เชียงตุง]] และต่อมาได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานการรับมอบดินแดน[[มณฑลบูรพา]]จาก[[อินโดจีนฝรั่งเศส]]อีกด้วย
 
พ.ต.ควง อภัยวงศ์ ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ [[15 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2511]] รวมอายุได้ 66 ปี ด้วยโรคทางเดินหายใจขัดข้อง
 
=== สกุลอภัยวงศ์ ===
{{บทความหลัก|สกุลอภัยวงศ์}}''<br>
 
จากนามสกุล คือ "อภัยวงศ์" เป็นสกุลที่สืบเชื้อสายมาจากเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์และเจ้าพระยาคฑาธรธรนินทร์ ซึ่งเป็นผู้ปกครองดินแดนมณฑลบูรพา ซึ่งเป็นเขตแดนในประเทศกัมพูชาในปัจจุบัน ตั้งแต่[[รัชกาลที่ 1]] ถึง[[รัชกาลที่ 5]]
 
เส้น 68 ⟶ 67:
==== บทบาททางการเมืองในช่วงแรก ====
[[ไฟล์:035xxx.JPG|thumb|200px|right|พันตรีควง อภัยวงศ์ อดีตนายกรัฐมนตรี]]
พันตรีพ.ต.ควง อภัยวงศ์ หรือ รองอำมาตย์เอก หลวงโกวิทอภัยวงศ์ เป็นหนึ่งในสมาชิก [[คณะราษฎร]] สายพลเรือน ในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475 เนื่องจากเป็นนักเรียนไทยในฝรั่งเศส รุ่นเดียวกับ [[ปรีดี พนมยงค์|นายปรีดี พนมยงค์]] และ [[แปลก พิบูลสงคราม|จอมพล ป. พิบูลสงคราม]]
 
ในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พันตรีควงมิได้รับรู้แผนการในเชิงลึกเหมือนแกนนำคนอื่น ๆ เพียงแต่ระหว่างการประชุมวางแผนจะเป็นผู้ดูต้นทางหรือลาดเลาให้ ซึ่งในวันที่ทำการเปลี่ยนแปลงการปกครองจริง ๆ พันตรีควงได้รับให้ไปปฏิบัติหน้าที่ตามที่ถนัด คือ การตัดสาย[[โทรศัพท์]]และ[[โทรเลข]]ร่วมกับ นาย[[วิลาศ โอสถานนท์]], นาย[[ประยูร ภมรมนตรี]] และ[[กองทัพเรือไทย|ทหารเรือ]]อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งพันตรีควงได้กล่าวถึงเหตุการณ์ตอนนี้ว่า
เส้น 76 ⟶ 75:
ทำการเสร็จแล้วไปถึงที่นัดหมายที่[[ลานพระบรมรูปทรงม้า]] แต่ไม่พบกลับกลุ่มที่นัดหมาย จนนึกว่าทำการไม่สำเร็จ จึงกลับไปบ้าน แต่การเปลี่ยนแปลงการปกครองก็สำเร็จจนได้ <ref>[http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=326&contentID=166572 ควง อภัยวงศ์ ในวันเปลี่ยนแปลงการปกครอง, [[นรนิติ เศรษฐบุตร]] [[ศาสตราจารย์|ศ.]]ดร. คอลัมน์ ส่วนร่วมสังคมไทย: [[วันศุกร์|ศุกร์]]ที่ [[30 กันยายน]] พ.ศ. 2555 [[เดลินิวส์]]ฉบับที่ 22,632]</ref>
 
ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พันตรีพ.ต.ควง อภัยวงศ์ ขณะยังมีบรรดาศักดิ์เป็น หลวงโกวิทอภัยวงศ์ ได้เดินทางไปประชุมสากลไปรษณีย์ ที่กรุง[[บัวโนสไอเรส]] [[ประเทศอาร์เจนตินา|ประเทศอาร์เจนติน่า]] พร้อมด้วย ขุนชำนาญ (หลุย อินทุโสภณ) เลขานุการ และเมื่อเดินทางกลับจาก ประเทศอาร์เจนติน่า ได้ไปดูงานโทรศัพท์อัตโนมัติที่ประเทศอังกฤษ และมีโอกาสเข้าเฝ้า พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ ที่เครนไลน์ โดยพระเจ้าอยู่หัวทรงเลี้ยงอาหารค่ำ และได้ทรงตรัสถึงเรื่องต่างๆ ให้พันตรีควงได้รับรู้ และนับแต่ครั้งนั้น ความคิดความเห็นของพันตรีควง ก็เปลี่ยนไปเป็นอันมาก มักบ่นกับคนที่ชอบพอ และญาติใกล้ชิดว่า ''"เรามันผิดไปเสียแล้ว ควรที่จะถวายพระราชอำนาจคืน"'' (ณัฐวุฒิ สุทธิสงคราม, 2511) ซึ่งข้อความนี้[[หนังสือพิมพ์]]บางฉบับได้นำไปโจมตีว่า พันตรีควงมีหัวนิยมเจ้า ทั้งๆ ที่บางฉบับกล่าวหาว่าพันตรีควงมีหัวโน้มเอียงไปทาง[[คอมมิวนิสต์]] (จรี เปรมศรีรัตน์, 2550)
 
ก่อนหน้าการดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี พันตรีพ.ต.ควง อภัยวงศ์ เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ในรัฐบาลพระยาพหลพลพยุหเสนา และ จอมพล ป. พิบูลสงคราม
 
* '''การดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ในรัฐบาล พระยาพหลพลพยุหเสนา''' พันตรี ควง อภัยวงศ์ เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ในรัฐบาลของ [[พระยาพหลพลพยุหเสนา]] ใน คณะรัฐมนตรี ชุดที่ 6 - (22 กันยายน 2477 - 9 สิงหาคม 2480) ต่อมาคณะรัฐมนตรีชุดนี้สิ้นสุดลง เพราะเหตุที่ [[เลียง ไชยกาล|เลียง ไชยกาล]] ผู้แทนราษฎรจังหวัดอุบลราชธานี ตั้งกระทู้ถามเกี่ยวกับการขายที่ดิน ของพระคลังข้างที่ ให้แก่บุคคลบางคน ต่อจากนั้น [[ไต๋ ปาณิกบุตร|ไต๋ ปาณิกบุตร]] ผู้แทนราษฎรจังหวัดพระนคร ได้เสนอญัตติ เปิดอภิปรายทั่วไปว่าด้วยการจัดระเบียบทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ อภิปรายกันจนหมดเวลา และได้เลื่อนไปอภิปรายในวันต่อไป แต่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ได้กราบถวายบังคม ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อให้โอกาสแก่ทุกฝ่าย ได้สอบสวนตามความชอบธรรม (ลาออกเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2480 ประกาศลงวันที่ 9 สิงหาคม 2480)
 
ต่อมาพันตรี พ.ต.ควง ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ในรัฐบาลของ พระยาพหลพลพยุหเสนา อีกครั้ง ใน [[คณะรัฐมนตรีคณะที่ 8 ของไทย]] (21 ธันวาคม 2480 - 16 ธันวาคม 2481) คณะรัฐมนตรีชุดนี้สิ้นสุดลง จากการยุบสภาผู้แทนราษฎร
 
* '''การดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ในรัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม''' หลังจากนั้นพันตรีควง ได้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการ[[กระทรวงธรรมการ]] เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2481 และไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการ[[กระทรวงคมนาคม]] เป็นคนแรกของกระทรวง เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2484 ในรัฐบาล [[แปลก พิบูลสงคราม|นายพันเอก หลวงพิบูลสงคราม]] (ยศ และบรรดาศักดิ์ในขณะนั้น) ใน [[คณะรัฐมนตรีคณะที่ 9 ของไทย]] (16 ธันวาคม 2481 - 7 มีนาคม 2485) คณะรัฐมนตรีคณะนี้สิ้นสุด เนื่องจาก นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้กราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่ง เพื่อที่จะให้โอกาสได้มีการเปลี่ยนแปลง คณะรัฐมนตรี ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน
 
พันตรีพ.ต.ควง ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ[[กระทรวงคมนาคม]] ต่ออีก ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2485 และไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2485 ในรัฐบาล [[แปลก พิบูลสงคราม|จอมพล ป. พิบูลสงคราม]] ใน [[คณะรัฐมนตรีคณะที่ 10 ของไทย]] (7 มีนาคม 2485 - 1 สิงหาคม 2487) ต่อมาพันตรีควง ลาออกจากตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการ[[กระทรวงพาณิชย์]] เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2486
 
หลังจากนั้นอีก 1 ปีเศษคณะรัฐมนตรีชุดนี้ก็สิ้นสุดลง เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎร ลงมติไม่อนุมัติ ร่างพระราชบัญญัติ อนุมัติ พระราชกำหนด ระเบียบบริหารราชการบริหารนครบาลเพชรบูรณ์ พุทธศักราช 2487 (ย้ายเมืองหลวงจากกรุงเทพฯ ไปอยู่เพชรบูรณ์) และ ร่างพระราชบัญญัติ อนุมัติพระราชกำหนดจัดสร้างพุทธบุรีมณฑล พุทธศักราช 2487 นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี จึงกราบถวายบังคมลาออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2487
เส้น 93 ⟶ 92:
[[ไฟล์:Kuang in first prime minister period.jpg|thumb|250px|นายควง อภัยวงศ์ (ที่ 3 จากซ้ายแถวหน้า) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยแรก เยี่ยมชม[[สมาคมนักข่าว นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย]] เมื่อวันที่ [[22 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2487]]]]
* '''การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยแรก''' ([[คณะรัฐมนตรีคณะที่ 11 ของไทย]] , [[1 สิงหาคม]] [[พ.ศ. 2487]] - [[31 สิงหาคม]] [[พ.ศ. 2488]])
พ.ต.ควง อภัยวงศ์ ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2487 พร้อมกับการจัดตั้ง [[คณะรัฐมนตรีคณะที่ 11 ของไทย]] ภายหลัง จอมพล ป. พิบูลสงคราม ลาออกจากตำแหน่ง การขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ เป็นไปโดยสถานการณ์บังคับ จากการได้รับเลือกโดยสภาฯ ในขณะที่ไม่มีผู้อื่นยินดีรับตำแหน่ง เนื่องจากเกรงจะถูกรัฐประหารโดย จอมพล ป. พิบูลสงคราม ในครั้งนั้นเขาได้ปรึกษากับอธิบดีกรมตำรวจ และตัดสินใจเดินทางไปอธิบายกับ จอมพล ป. ถึงค่ายทหารที่จังหวัดลพบุรีจนเป็นที่เข้าใจและยอมรับของจอมพล ป. ที่จะสนับสนุนให้เขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ พร้อมกับการรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ เขายังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ[[กระทรวงการคลัง]] และ [[กระทรวงคมนาคม]] อีกด้วย
 
รัฐบาลของ พ.ต.ควง อภัยวงศ์ ได้ประกาศสันติภาพกับฝ่ายสัมพันธมิตร ในวันที่ 16 สิงหาคม 2488 หลังจาก ประเทศญี่ปุ่น ประกาศยอมแพ้สงครามแล้ว 2 วัน โดยมี [[ปรีดี พนมยงค์|ปรีดี พนมยงค์]] ลงนามในฐานะ [[ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์]] ระบุให้ การประกาศสงครามต่อ สหรัฐอเมริกา และอังกฤษ ของจอมพล ป. เป็นโมฆะ พ.ต.ควง อภัยวงศ์ ลาออกจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ในวันรุ่งขึ้น ด้วยเหตุผล เพื่อให้เป็นไปตามประเพณีนิยมแห่งวิถีการเมือง และเปิดโอกาสให้ผู้มีความเหมาะสม ในอันที่จะยังมิตรภาพ และดำเนินการเจรจา ทำความเข้าใจอันดีกับฝ่ายพันธมิตร ได้เข้าบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อความวัฒนาถาวรของชาติสืบไป
 
หลังการลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของเขา ซึ่งมี [[ทวี บุณยเกตุ|ทวี บุณยเกตุ]] เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีประมาณ 17 วัน และผู้มารับช่วงต่อคือ [[เสนีย์ ปราโมช|ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช]] อัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน หัวหน้า[[เสรีไทย]] สายสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้เดินทางกลับมารับช่วงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2488 และดำเนินการเจรจา กับประเทศอังกฤษ ในขณะที่ [[ปรีดี พนมยงค์|นายปรีดี พนมยงค์]] ประสานขอความสนับสนุน จากประเทศจีน ให้ช่วยรับรอง จนประเทศไทย สามารถพ้นจากสถานะ ประเทศผู้แพ้สงครามในที่สุด
 
ในระหว่างที่ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พ.ต.ควง อภัยวงศ์ ได้รับมอบหมายจาก ม.ร.ว.เสนีย์ ให้เป็นผู้ดำเนินการจัดส่ง[[ข้าว]]ให้อังกฤษ ซึ่งท่านได้ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ไม่มีการคอร์รัปชั่น จนทางอังกฤษเอ่ยชมเชย
 
* '''การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2''' ([[คณะรัฐมนตรีคณะที่ 14|คณะรัฐมนตรีคณะที่ 14 ของไทย]], [[31 มกราคม]] [[พ.ศ. 2489]] - [[24 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2489]])
หลังจากเจรจากับอังกฤษจนสำเร็จ และประเทศไทยพ้นสถานะประเทศผู้แพ้สงครามแล้ว [[เสนีย์ ปราโมช|ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช]] ได้ยุบสภาเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2488 เพื่อจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพราะสมาชิกสภาชุดที่ถูกยุบนั้นได้รับเลือกตั้งมา ตั้งแต่ วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2481 แต่เมื่อหมดวาระ 4 ปียังไม่ได้เลือกตั้งใหม่ เพราะติดช่วงสงครามโลก
 
การเลือกตั้งมีขึ้นวันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2489 เขาพ.ต.ควงได้รับความเห็นชอบจากสภาฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมกับการจัดตั้ง [[คณะรัฐมนตรีคณะที่ 14]] ของไทย มี ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แต่หลังจากตั้งรัฐบาลได้เพียง 2 เดือน สภาฯ ได้ผ่านร่างพระราชบัญญัติ คุ้มครองค่าใช้จ่ายของประชาชนในภาวะคับขัน (พ.ร.บ.ปักป้ายราคาสินค้าอุปโภคบริโภค หรือ "'''พ.ร.บ.ปักป้ายข้าวเหนียว'''") ที่เสนอโดย [[ทองอินทร์ ภูริพัฒน์|ทองอินทร์ ภูริพัฒน์]] ส.ส.อุบลราชธานี (ผู้ใกล้ชิด [[ปรีดี พนมยงค์|ปรีดี พนมยงค์]] ในฐานะ หัวหน้าขบวนการ[[เสรีไทย]] เขตอุบลราชธานี) ซึ่งเป็นกฎหมายที่รัฐบาลนาย พ.ต.ควง ไม่เห็นด้วยในหลักการ เนื่องจากไม่มีมาตรการ ในการควบคุมราคา คณะรัฐมนตรีได้แถลงให้สภาทราบแล้วว่า คณะรัฐมนตรีไม่สามารถปฏิบัติตาม ร่างพระราชบัญญัตินั้นได้ และเกรงจะเป็นการเดือดร้อน แก่ประชาชนทั่วไป แต่สภาฯได้ลงมติรับหลักการ ด้วยคะแนน 65 ต่อ 63 เสียง รัฐมนตรีทั้งคณะจึงได้กราบถวายบังคม ลาออกจากตำแหน่ง ในวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2489 โดยมีนายปรีดี พนมยงค์ ได้รับการสนับสนุนจากสภา ให้ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี และต่อมาได้ควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อีกตำแหน่งหนึ่งด้วย
 
* '''การก่อตั้งพรรคประชาธิปัตย์''' ([[6 เมษายน]] [[พ.ศ. 2489]])
หลังจากพ้นวาระในสมัยนี้แล้ว ควง อภัยวงศ์ ได้ร่วมกับ [[เสนีย์ ปราโมช|ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช]] และ [[คึกฤทธิ์ ปราโมช|ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช]] รวมทั้งนักการเมืองกลุ่มหนึ่ง อาทิเช่น [[ใหญ่ ศวิตชาติ|นายใหญ่ ศวิตชาต]], [[เลียง ไชยกาล|นายเลียง ไชยกาล]], [[โชติ คุ้มพันธ์|ดร.โชติ คุ้มพันธ์]], [[พระยาศราภัยพิพัฒ]], [[บุญเท่ง ทองสวัสดิ์|นายบุญเท่ง ทองสวัสดิ์]] และ [[ฟอง สิทธิธรรม|นายฟอง สิทธิธรรม]] ก่อตั้ง '''[[พรรคประชาธิปัตย์]]''' ขึ้นเมื่อวันที่ [[6 เมษายน]] [[พ.ศ. 2489]] โดย พ.ต.ควง อภัยวงศ์ ดำรงตำแหน่ง '''หัวหน้าพรรคคนแรก''' มี ม.ร.ว.เสนีย์ เป็นรองหัวหน้าพรรค ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ เป็นเลขาธิการพรรค และมี นายชวลิต อภัยวงศ์ ผู้มีศักดิ์เป็นน้องชายของท่าน เป็น รองเลขาธิการพรรค มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นพรรคฝ่ายค้านค้านอำนาจรัฐบาลของปรีดี ที่ขณะนั้นมีอำนาจอย่างสูง เข้าแทนที่รัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม
 
* '''การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 3''' ([[คณะรัฐมนตรีคณะที่ 19 ของไทย]], [[10 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2490]] - [[21 กุมภาพันธ์]] [[พ.ศ. 2491]])
พ.ต.ควง อภัยวงศ์ รับดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่ 3 พร้อมทั้งรับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการ[[กระทรวงเกษตราธิการ]] หลังการ[[รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2490|รัฐประหาร]] เพื่อจัด[[การเลือกตั้ง]] วันที่ [[6 มกราคม]] พ.ศ. 2491 นับเป็น [[คณะรัฐมนตรีคณะที่ 19 ของไทย|คณะรัฐมนตรีคณะที่ 19]] มี ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็น รัฐมนตรีว่าการ[[กระทรวงยุติธรรม]] และ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็น รัฐมนตรี หลังจัดการเลือกตั้งแล้วจึงพ้นวาระไป
 
* '''การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 4''' ([[คณะรัฐมนตรีคณะที่ 20 ของไทย]], [[21 กุมภาพันธ์]] พ.ศ. 2491 - [[8 เมษายน]] [[พ.ศ. 2491]])
พ.ต.ควง อภัยวงศ์ กลับเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต่อเป็นสมัยที่ 4 เนื่องจากผลการเลือกตั้ง [[พรรคประชาธิปัตย์]] ได้เสียงข้างมาก นายพ.ต.ควง ในฐานะหัวหน้าพรรค จึงได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อเนื่องอีกสมัย พร้อมทั้งดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการ[[กระทรวงมหาดไทย]] นับเป็น [[คณะรัฐมนตรีคณะที่ 20 ของไทย|คณะรัฐมนตรีคณะที่ 20]] มี ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เป็น รัฐมนตรีว่าการ[[กระทรวงศึกษาธิการ]] มี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช และ [[ชวลิต อภัยวงศ์|นายชวลิต อภัยวงศ์]] เป็น รัฐมนตรี แต่ต่อมาเมื่อวันที่ [[รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2491|6 เมษายน พ.ศ. 2491]] กลุ่มนายทหารชุดเดียวกับ[[รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2490|คณะรัฐประหาร พ.ศ. 2490]] ก็บีบบังคับให้ท่านลาออก และ สภาฯ มีมติให้ท่าน พ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2491 เรียกการปฏิวัติครั้งนี้ว่า "'''[[รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2491|ปฏิวัติเงียบ]]'''" หลังการรัฐประหาร [[แปลก พิบูลสงคราม|จอมพล ป. พิบูลสงคราม]] ได้กลับเข้า ดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี อีกครั้งหนึ่ง
 
* '''ชีวิตหลังพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี''' ([[8 เมษายน]] [[พ.ศ. 2491]] - [[15 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2511]])
[[ไฟล์:Kuang building.jpg|thumb|250px|right|ด้านหน้าอาคารควง อภัยวงศ์ ที่ทำการพรรคหลังแรก]]
หลังจากนั้น พ.ต.ควง อภัยวงศ์ ยังคงอยู่ในแวดวงการเมือง ด้วยการนำพรรคประชาธิปัตย์ ทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภาฯ อย่างแข็งขัน ในรัฐบาลหลายชุด ทั้ง รัฐบาล[[แปลก พิบูลสงคราม|จอมพล ป. พิบูลสงคราม]] สมัยสุดท้าย, รัฐบาล[[สฤษดิ์ ธนะรัชต์|จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์]] และ รัฐบาล[[ถนอม กิตติขจร|จอมพลถนอม กิตติขจร]]
 
จนกระทั่งเมื่อจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ทำ[[รัฐประหาร 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501|รัฐประหารเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2501]] ซึ่งได้ยกเลิก[[รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2475 แก้ไขเพิ่มเติม พุทธศักราช 2495]] ซึ่งเป็น[[รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย|รัฐธรรมนูญ]]ที่ใช้อยู่ขณะนั้น และใช้[[ธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักร พุทธศักราช 2502]] แทน ซึ่งมีบทบัญญัติให้ยกเลิกสถาบันทางการเมืองต่าง ๆ เช่น พรรคการเมือง เป็นต้น ทำให้บทบาททางการเมืองของนาย พ.ต.ควงต้องยุติไปโดยปริยาย ซึ่งเขาได้รอคอยการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เสร็จสิ้น และตั้งความหวังไว้ว่าจะลงเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง แต่ได้อสัญกรรมลงเสียก่อน
 
===เสียชีวิต===
นายพ.ต.ควง อภัยวงศ์ ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคระบบทางเดินหายใจขัดข้อง เมื่อวันที่ [[15 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2511]] ขณะอายุได้ 66 ปี โดยดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต
 
หลังการถึงแก่อสัญกรรมของท่าน พรรคประชาธิปัตย์ได้ก่อตั้ง '''มูลนิธิควง อภัยวงศ์''' ขึ้น ตามเจตนารมณ์ของเขา และให้ชื่ออาคารที่ทำการของพรรคหลังแรกว่า "'''อาคารควง อภัยวงศ์'''" เพื่อรำลึกถึงเขาด้วย
 
== ผลงานสำคัญ ==