ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อเล็กซานเดอร์ แฮมิลตัน"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 160:
 
ในท่ามกลางความขัดแย้งในยุโรปของสองมหาอำนาจ นโยบายต่อการเป็นฝ่ายอังกฤษ หรือฝรั่งเศส
เมื่อ ฝรั่งเศสและอังกฤษได้ประกาศสงครามต่อกันในช่วงเดือนมกราคม ค.ศ. 1793 ผู้นำของสหรับสหรัฐได้มีการหารือกับบุคคลสำคัญในคณะรัฐมนตรีทั้ง 4 คน และได้มีมติเป็นเอกฉันท์ที่จะวางตัวเป็นกลางในสงครามดังกล่าว แฮมิลตัน และเจฟเฟอร์สัน ได้เป็นสถาปนิกหลักในการทำรายละเอียดในการที่จะบังคับใช้เพื่อรักษาความเป็น กลางเป็นกลางอย่างเคร่งครัด
 
ในช่วง แฮมิลตัน ร่วมในคณะรัฐมนตรีปีสุดท้าย นโยบายต่ออังกฤษได้กลายเป็นเรื่องสำคัญในทั้งสองพรรคการเมือง แฮมิลตัน และกลุ่ม Federalists หวังว่าจะเพิ่มการค้ากับทางอังกฤษ ซึ่งจะทำให้เกิดรายได้จากการค้าที่มาจากภาษีอากรต่างๆ ฝ่ายพวก DemocraticRepublicansDemocratic-Republicans ต้องการบังคับใช้นโยบายห้ามการค้ากับอังกฤษ เพื่อทำให้อังกฤษต้องหันมาให้ความเคารพสิทธิประเทศสหรัฐ และยกเลิกป้อมค่ายต่างๆที่ยังตั้งอยู่ในแผ่นดินอเมริกัน ที่ตรงกันข้ามกับสัญญาที่ได้กระทำที่กรุงปารีส (Treaty of Paris)
 
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสงคราม ประธานาธิบดี วอชิงตัน ได้ส่งหัวหน้าฝ่ายยุติธรรม ชื่อ John Jay ไปเจรจากับอังกฤษในปี ค.ศ. 1794 ฝ่าย แฮมิลตัน เป็นฝ่ายเขียนในรายละเอียด ผลจึงได้เกิดสนธิสัญญาใหม่ที่เรียกว่า Jay's Treaty สนธิสัญญานี้ไม่เป็นที่ชื่นชอบนัก และฝ่าย Democratic-Republicans ได้ต่อต้านเนื่องจากในสัญญาไม่ได้ให้ความสำคัญต่อข้อเรียกร้องที่มีมาก่อน หน้านี้ ไม่ได้เป็นการบ่งบอกถึงการที่อังกฤษได้ฝ่าฝืนความเป็นกลางของสหรัฐในช่วง สงครามกับฝรั่งเศส
 
ในช่วงความขัดแย้งดังกล่าว หลายประเทศในยุโรปได้จัดตั้งกลุ่มเป็นกลางทางการทหาร (League of Armed Neutrality) คณะรัฐมนตรีของรัฐบาลประธานาธิบดี วอชิงตัน ในช่วงดังกล่าวได้หารือกันที่จะไม่เข้าร่วมกับกลุ่มเป็นกลางหรือกลุ่มใดๆ แต่ยังเก็บไว้เป็นความลับ Jay ในขณะนั้นอยู่ที่กรุงลอนดอน ได้ขู่ฝ่ายอังกฤษว่าจะเข้าร่วมกับกลุ่มหากสิทธิสภาพของสหรัฐได้รับการคุกคาม แต่ แฮมิลตัน ได้เปิดเผยการตัดสินใจกับ George Hammond ซึ่งเป็นรัฐมนตรีของอังกฤษประจำสหรัฐ และโดยที่ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับ Jay หรือคนอื่นๆ ความมาเปิดเผยเอาในปี ค.ศ. 1920 ซึ่งอาจเป็นผลทีทำให้การเจรจาความที่ส่ง Jay ไปนั้น กระทำได้อย่างจำกัด Jay ได้มีการขู่อังกฤษในการเจรจา แต่อังกฤษไม่ได้จริงจังกับเรื่องของ League มากนัก
เกษียณอายุจากรัฐบาลกลางRetirement from federal service