ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ประวัติศาสตร์ของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศในประเทศไทย"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
Tiemianwusi (คุย | ส่วนร่วม) →จุดเริ่มต้น: มิใช่แปลมา แต่เป็นคำแปลของ |
||
บรรทัด 7:
นอกจากนี้ในพระไตรปิฎก ยังได้ระบุคำสำคัญอย่าง "กะเทย" หรือ "บันเดาะ" หรือ "บันเฑาะก์" ที่มีความหมายว่า "ชายที่มีราคะจัด ชอบประพฤตินอกรีตในการเสพกามและยั่วยวนชายอื่นให้ประพฤติตาม" และยังบัญญัติบุคคลที่ไม่สามารถบวชได้ในทางพุทธศาสนา "บันเฑาะก์" เป็นข้อห้ามที่ไม่ยินยอมให้บวช และใน[[ไตรภูมิพระร่วง]] ยังกล่าวถึงคน คนที่เกิดเป็นกะเทยเนื่องจากผลกรรมที่ทำไว้ในชาติก่อนๆ คือ เป็นชายที่ผิดเมียผู้อื่น ซึ่งหากตกนรกปีนต้นงิ้วแล้ว ยังต้องไปเกิดเป็นกะเทยอีก 1000 ชาติ จึงจะพ้นกรรม<ref>[http://gotoknow.org/blog/thaikm/151017 กะเทย / บั๊ณเฑาะก์ / ขันที / นักเทษ] gotoknow.org</ref>
คำว่ากะเทย (เขียนว่า "กเทย") ยังพบอยู่ใน "พะจะนะพาสาไท" ที่เขียนโดย [[พระสังฆราชปาลเลอกัวซ์|บาทหลวงปาลเลอกัวซ์]] ในปี พ.ศ. 2397 โดยเป็นคำแปล
จากหลักฐานใน[[พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์]] ร.2 เขียนไว้เกี่ยวกับ พระสังฆราช[[วัดมหาธาตุ]]มีพฤติกรรม[[รักร่วมเพศ]]กับลูกศิษย์หนุ่ม ในการสัมผัสจับต้อง ลูบคลำอวัยวะเพศ ได้ถูกถอดจากสมณศักดิ์และเนรเทศให้ออกไปจาก[[วัดมหาธาตุ]]
|