ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สงครามอังกฤษ–พม่าครั้งที่หนึ่ง"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ZéroBot (คุย | ส่วนร่วม)
r2.7.1) (โรบอต เพิ่ม: pt:Primeira Guerra Anglo-Birmanesa
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 25:
'''สงครามพม่า-อังกฤษครั้งที่หนึ่ง''' ({{lang-en|Pagoda War, First Anglo-Burmese War}}) เป็น[[สงคราม]]ระหว่าง[[จักรวรรดิอังกฤษ]]กับ[[ราชวงศ์อลองพญา]]ของ[[พม่า]] เป็นระยะเวลา 2 ปี ในระหว่าง ค.ศ. 1824-1826 ถือเป็นสงครามครั้งแรกของ[[สงครามพม่า-อังกฤษ]] ซึ่งเกิดขึ้นทั้งหมด 3 ครั้ง รวมทั้งครั้งนี้
 
สงครามครั้งนี้เกิดจาก พม่าได้ครอบครอง[[แคว้นอัสสัม]]ของ[[อินเดีย]]ได้สำเร็จ ในรัชสมัย[[พระเจ้าจังกายจักกายแมง]] ก็ต้องเผชิญหน้ากับจักรวรรดิอังกฤษที่กำลังอยู่ในระหว่างล่าอาณานิคมอยู่ในรัชสมัย[[สมเด็จพระนางเจ้าวิคตอเรีย]] ซึ่งในช่วงเวลานั้นอังกฤษก็กำลังคุกคามอินเดียอยู่
 
ในระยะแรก กองทัพอังกฤษยังไม่จัดเจนในการสงครามครั้งนี้ เนื่องจากไม่คุ้นกับสภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศ และยุทธวิธีการรบ แต่ทว่า ผลของการสู้รบมาถึงจุดพลิกผันที่ให้ถึงที่สิ้นสุดเอาเมื่อถึงวันที่ [[1 ธันวาคม|1]]-[[14 ธันวาคม]] [[ค.ศ. 1824]] ซึ่งเป็นสมรภูมิใน[[ปริมณฑลย่างกุ้ง]] [[มหาบัณฑุละ]] แม่ทัพใหญ่ของฝ่ายพม่า ซึ่งนำกองกำลังประมาณ 60,000 นาย จากกรุง[[อังวะ|รัตนปุระอังวะ]] ซึ่งเป็น[[เมืองหลวง]] ปะทะกับกองทัพอังกฤษ ซึ่งประกอบด้วย ทหารสัญชาติอังกฤษไม่เกิน 1,300 นาย และทหารแขก ([[ซีปอย]]) 2,500 นาย ในเวลาเพียง 15 วัน กองทัพพม่าสูญเสียเป็นอย่างยิ่ง จนมหาบัณฑุละเหลือกำลังทหารเพียง 7,000 นายเท่านั้น ต้องถอยร่นไปตั้งรับที่เมืองดนูพยู หรือทุนพยู ลนลำน้ำปันฮะลาย ซึ่งเป็นลำน้ำสำคัญที่ตัดออกสู่[[แม่น้ำอิระวดี]] ซึ่งเป็นแม่น้ำสายใหญ่ มหาบัณฑุละใช้ยุทธวิธีการรบแบบสมัยโบราณ ที่เคยกระทำใช้ได้ผลสำเร็จมาแล้วในการรบแต่ละครั้งในประวัติศาสตร์ภูมิภาค[[เอเชียอาคเนย์]] คือ การตั้งค่ายและป้อมปืนขึ้นริมน้ำทั้งสองฟากเพื่อดักยิงเรือของข้าศึกที่ผ่านมา แต่ด้วยเทคโนโลยีทางอาวุธที่ทันสมัยกว่าและระเบียบวิธีการรบของกองทัพอังกฤษ มหาบัณฑุละเป็นฝ่ายแพ้อย่างยับเยิน และหลังจากนั้นในวันที่ [[1 เมษายน]] ปีถัดมา มหาบัณฑุละก็เสียชีวิตลงด้วยสะเก็ดปืนใหญ่ระเบิดที่เมืองดนูพยูนั่นเอง เมื่อถูกฝ่ายอังกฤษใช้ปืนใหญ่ที่ทันสมัยกว่ารวมทั้ง[[ปืนครก]] ขึ้นตั้งเป็นหอรบระดมยิงกระหน่ำค่ายของพม่า <ref>B.R. Pearn, 'The War of 1824' in A History of Rangoon (Rangoon, 1939), pp. 111-129</ref>