ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สัทธรรมปุณฑรีกสูตร"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Xiengyod (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Xiengyod (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 20:
ภาษาต้นฉบับนั้นก็ไม่ปราฏชัด มีข้อเสนอว่า อาจแต่งเป็นภาษาถิ่น[[ปรากฤต]] จากนั้นจึงแปลเป็นภาษาสันสกฤต ทำให้มีเป็นที่แพร่หลายมากขึ้น และมีการแปลเป็น[[ภาษาจีน]]ถึง 6 สำนวน แต่สามฉบับแรกต้นฉบับสาบสูญไปแล้ว เหลือเพียงสามฉบับหลัง ที่หลงเหลือในปัจจุบันฉบับพระภิกษุธรรมรักษ์มีความเก่าที่สุดแปลในปี พ.ศ. 829 แต่ฉบับที่ได้รับความนิยมว่าแปลได้สละสลวยที่สุดคือฉบับของ[[พระกุมารชีพ]]ชาวเอเชียกลาง แปลเมื่อพ.ศ. 934 และฉบับแปลโดยท่านชญานคุปตะและท่านธรรมคุปตะ แปลในพ.ศ. 1144 เนื้อความของแต่ละฉบับมีความแตกต่างกันในบางส่วน สัทธรรมปุณฑรีกสูตรถือเป็นคัมภีร์หลักอีกเล่มหนึ่งที่มีการแปลเป็นภาษาจีน ทั้งยังเป็นพระสูตรยุคแรกสุด ที่ระบุคำว่า "[[มหายาน]]"ด้วย
 
ท่านวสุพันธุ ได้รจนาอรรถกถาพระสูตรนี้เป็นฉบับย่อ ให้ชื่อว่า '''สัทธรรมปุณฑรีกสูตรอุปเทศ ''' ในประเทศจีนได้มีคัมภีรชั้นฎีกาเกิดขึ้นมากมาย เช่น ของท่านเต้าเซิง, ฝ่าอวิ่น, [[จื้ออี]], จี้จ้าง และกุยจี เป็นต้น แม้แต่ท่านจื้ออี (มหาคุรุเทียนไท้) ผู้สถาปนา[[นิกายเทียนไท้]] ก็ได้อาศัยพื้นฐานจากพระสูตรเล่มนี้ ในญี่ปุ่น [[เจ้าชายโชโตกุ]] ก็ทรงแต่งอรรถาธิบายพระสูตรนี้ในชื่อว่า "ฮอกเกกิโช" [[พระนิชิเรนไดโชนิน]] ผู้สถาปนานิกาย[[นิชิเรนโชชู]] ก็ได้อาศัยพระสูตรเล่มนี้และเชื่อว่าเป็นพระสูตรที่สามารถทำให้บรรลุพุทธภาวะได้ ซึ่งพระสูตรเล่มนี้มีอิทธิพลอย่างมาก จนเกิดเป็นองค์กรทางศาสนาและสวดท่องพระสูตรนี้ เช่น นิกาย[[นิชิเรนโชชู]] ในปัจจุบันมีสมาชิกมากกว่า 30 ล้านคนในประเทศญี่ปุ่นและหลายๆประเทศทั่วโลก,[[สมาคมสร้างคุณค่า]] มีสมาชิกมากกว่า 12 ล้านครอบครัวใน 192 ประเทศเขตแคว้นเป็นต้น
 
== ฉบับภาษาไทย ==