ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มหาเวสสันดรชาดก"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ล แก้คำพิมพ์ผิด |
|||
บรรทัด 9:
=== กัณฑ์ทศพร ===
เริ่มตั้งแต่[[พระพุทธเจ้า]]ตรัสรู้ แล้วเสด็จไปเทศนาโปรด[[พระเจ้าพิมพิสาร]] ต่อจากนั้นเสด็จไปโปรดพุทธบิดาและพระประยูรญาติที่[[กรุงกบิลพัสดุ์]] เกิดฝนโบกขรพรรษ พระสงค์สาวกกราบทูลอาราธนาให้ทรงแสดงเรื่องมหาเวสสันดรชาดก เริ่มตั้งแต่เมื่อกัปที่ ๙๘ นับแต่ปัจจุบัน พระนางผุสดี
=== กัณฑ์หิมพานต์ ===
บรรทัด 18:
=== กัณฑ์วนปเวสน์ ===
พระเวสสันดรทรงพาพระนางมัทรีและพระชาลี ( โอรส ) พระกัณหา (ธิดา ) เสด็จจากเมืองผ่านแคว้น เจตราษฎร์ จนเสด็จถึงเขาวงกตในป่าหิมพานต์ อานิสงส์ของผู้บูชากัณฑ์นี้คือ จะได้รับความสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้าจะได้เป็นบรมกษัตริย์ในชมพูทวีป เป็นผู้ทรงปรีชาเฉลียวฉลาดสามารถปราบอริราชศัตรูให้ย่อยยับไป
=== กัณฑ์ชูชก ===
[[ชูชก]]พราหมณ์ ขอทานได้นางอมิตตาบุตรสาวของเพื่อนเป็นภรรยา นางใช้ให้ชูชกไป
=== กัณฑ์จุลพน ===
บรรทัด 27:
=== กัณฑ์มหาพน ===
ชูชกลวงอัจจุตฤๅษี ให้บอกทางผ่านป่าไม้ใหญ่ไปยังที่ประทับของพระเวสสันดร อานิสงส์ของผู้บูชากัณฑ์นี้คือ จะเสวยสมบัติใดในดาวดึงส์เทวโลกนั้นแล้ว จะได้ลงมาเกิดเป็นกษัตริย์มหาศาล มีทรัพย์ศฤงคารบริวารมากมี อุทยานและสระโบกขรณีที่เป็นประพาส เป็นผู้บริบูรณ์
=== กัณฑ์กุมาร ===
ชูชกทูลขอสองกุมาร ทุบตีสองกุมารเฉพาะพระพักตร์พระเวสสันดร แล้วพาออกเดินทาง อานิสงส์ของผู้บูชากัณฑ์นี้คือ
=== กัณฑ์มัทรี ===
บรรทัด 36:
=== กัณฑ์สักกบรรพ ===
พระอินทร์
=== กัณฑ์มหาราช ===
ชูชกเดินทางเข้าไปแคว้นสีวีราษฎร์ พระเจ้ากรุงสญชัย ทรงไถ่สองกุมาร ชูชกได้รับพระราชทานเลี้ยง และ ถึงแก่กรรมด้วยกินอาหารมากเกินควร อานิสงส์ของผู้บูชากัณฑ์นี้คือ จะได้มนุษย์สมบัติ สวรรค์สมบัติ และนิพพานสมบัติเมื่อเกิดเป็นมนุษย์จะได้เป็นพระราชาเมื่อจากโลกมนุษย์ไปก็จะไปเสวยทิพยสมบัติ ในฉกามาพจรสวรรค์มีนางเทพอัปสรเป็นบริวาร ครั้นบารมีแก่กล้าก็จะได้นิพพานสมบัติอันตัดเสีย
=== กัณฑ์ฉกษัตริย์ ===
บรรทัด 48:
== การดัดแปลงในสื่อต่างๆ ==
เรื่องมหาเวสสันดรชาดก ถูกนำไปใช้ประกอบการเรียนการสอนวิชา[[พระพุทธศาสนา]] อีกทั้งมีการสร้างเป็นเทป[[ละครโทรทัศน์]] [[ภาพยนตร์]] และ [[สารคดี]] เพื่อเผยแพร่แก่ประชาชนมานับครั้งไม่ถ้วน โดยเฉพาะละครโทรทัศน์ฉบับปี [[พ.ศ. 2530|พ.ศ. ๒๕๓๐]] ซึ่งสร้างโดย [[มูลนิธิแผ่นดินธรรม]] เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๖๐ พรรษา ของ[[พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช]] ออกอากาศครั้งแรกทาง[[สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก]] ใน[[วันเสาร์]]และ[[วันอาทิตย์]] เวลา ๑๘.๓๐ - ๑๙.๓๐ น. ตั้งแต่วันที่ ๖ [[ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2529|พ.ศ. ๒๕๒๙]] ถึง ๑๔ [[กุมภาพันธ์]] [[พ.ศ. 2530|พ.ศ. ๒๕๓๐]] จำนวนทั้งสิ้น ๑๘ ตอน ตอนละ ๔๕ นาที นำแสดงโดย [[ปกรณ์ พรพิสุทธิ์]] รับบทเป็น พระเวสสันดร, [[สราลี กิติยากร|ม.ล. สราลี กิติยากร]] เป็น พระนางมัทรี, [[ไพโรจน์ ใจสิงห์]] เป็น พระเจ้ากรุง
นอกจากนี้ในปี พ.ศ. 2539หลังจบละคร[[มณีนพเก้า]]สามเศียรได้ผลิตละครชื่อว่า[[กัณหาชาลี]]ซึ่งเป็นเนื้อเรื่องเดียวกัน
|