ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ"
หน้าใหม่: http://th.wikipedia.org/wiki/ศ.นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ '''ศาสตราจารย์ นายแพทย์สุทธ... |
(ไม่แตกต่าง)
|
รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:43, 7 มิถุนายน 2554
http://th.wikipedia.org/wiki/ศ.นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ
ศาสตราจารย์ นายแพทย์สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ ปัจจุบันดำรงแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) [1]
ภูมิลำเนาและประวัติการศึกษา เป็นคนกรุงเทพมหานคร จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนปานะพันธุ์วิทยา
และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา (รุ่นที่ 34) สำเร็จแพทยศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยม)
จากคณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเข้าศึกษาในปี พ.ศ.2516
จบแล้วเข้าเป็นอาจารย์ด้านกายวิภาคศาสตร์อยู่ 2 ปี ก่อนเบนเข็มมาศึกษาต่อแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยศาสตร์ทั่วไป
และกุมารศัลยศาสตร์ และได้รับทุนบริติชเคาน์ซิลกับทุนไชน่าเมดิคอลบอร์ด
ไปศึกษาเพิ่มเติมด้านศัลยศาสตร์ทารกแรกคลอดและการผ่าตัดตับและทางเดินน้ำดีในเด็ก
ที่โรงพยาบาลเกรทออร์มอนด์สตรีท (Great Ormond Street Hospital)
และโรงพยาบาลคิงส์คอลเลจ มหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ชีวิตครอบครัว ได้สมรสกับแพทย์หญิงกุหลาบ จิตต์มิตรภาพ มีบุตรชาย 2 คน
คือ นายแพทย์ศัลยวิทย์ จิตต์มิตรภาพ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรสาสตร์และโรคระบบทางเดินอาหาร
และนายภาวิชญ์ จิตต์มิตรภาพ กำลังศึกษาอยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
การทำงาน แล้วกลับมารับราชการต่อที่ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เป็นผู้บุกเบิกวิธีการผ่าตัดใหม่ ๆ ในเด็กและทารกของประเทศไทยจน
ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์เมื่ออายุ 39 ปี
จากนั้นเริ่มเข้าสู่แวดวงบริหารการศึกษา เป็นรองคณบดี ผู้ช่วยอธิการบดีจนถึงรองอธิการบดี
ด้านการวิจัยและวิรัชกิจของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ปี 2539 – 2552)
ในขณะเดียวกันก็ได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกอบรมปฐมพยาบาล
และสุขภาพของสภากาชาดไทย (ปี 2545 – 2552)
- เข้าศึกษาในวิทยาลัยเสนาธิการทหาร (วสท.รุ่นปี 2540)
- วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.รุ่นปี 2551)
- ได้รับรางวัลทางวิชาการมากมายทั้งในระดับประเทศ (มากกว่า 20 รางวัล)
รวมถึงรางวัลแพทย์ดีเด่นสมเด็จพระวันรัตของแพทยสมาคมแห่งประเทศ ที่มอบแก่แพทย์ที่ทำคุณประโยชน์อย่างสูงให้แก่ประเทศไทย และรางวัลวิชาการระดับนานาชาติ (จากวิทยาลัยศัลยแพทย์อเมริกัน ราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งอังกฤษ สมาคมกุมารศัลยแพทย์แห่งสหราชอาณาจักร และสมาคมศัลยแพทย์แห่งประเทศญี่ปุ่น) ได้รับเลือกให้เป็นนายกสมาคมกุมารศัลยแพทย์แห่งภาคพื้นเอเชีย (ปี 2551 – 2553) นับเป็นคนไทยคนแรกและคนเดียวที่ได้รับเกียรตินี้ และเป็นประธานราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย (ปี 2553 – 2555) ในระหว่างนี้ มีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะปฏิรูประบบวิจัยของประเทศและพัฒนาสภาวิจัยแห่งชาติที่รับผิดชอบอยู่ซึ่งรายงานตรงต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อให้งานวิจัยสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศไทย
“ผมจะเชื่อมโยงการวิจัยซึ่งเปรียบเสมือนสมองของประเทศ ไปยังทุกภาคส่วนเพื่อเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหรือพัฒนา”
- ↑ www.nrct.go.th