ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อดัม โคปแลนด์"

ในศึก [[รอยัลรัมเบิล (2011)]] เอดจ์ จะต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ โดยถ้า เอดจ์ ใช้ท่า '''สเปียร์''' ซิกก์เลอร์ ก็จะเป็นแชมป์ทันที แต่ เอดจ์ ได้ใช้ท่า '''Killswitch''' ท่าไม้ตาย ของ คริสเตียน ทำให้ เอดจ์ เป็นฝ่ายชนะและป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ ในศึก สแมคดาวน์ ต่อมา เอดจ์ จะต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ อีกครั้ง โดยมี วิกกี้ เกอร์เรโร่ เป็นกรรมการพิเศษ แต่สุดท้าย เอดจ์ เป็นฝ่ายชนะและป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ ในศึก สแมคดาวน์ ตอนของวันที่ [[18 กุมภาพันธ์]] (ฉลองตอนที่ 600 ของ สแมคดาวน์) เอดจ์ หลังจากมีแมตช์การปล้ำแทคทีมแบบ 12 คน และทีม เอดจ์ ก็เป็นผ่ายชนะ แต่ วิกกี้ ได้มาบอกว่า เอดจ์ นั้นโดนไล่ออก และได้มีการมอบเข็มขัดแชมป์ให้กับ ซิกก์เลอร์ ตามที่วิกกีได้พูดไว้เมื่อ ในศึก รอว์ (ก่อนที่จะถึง สแมคดาวน์ 4 วัน) แต่ไม่นาน [[ทีโอดอร์ ลอง]] ก็กลับมาพร้อมกับบอกว่า เขาจะจ้าง เอดจ์ กลับมาอีกครั้ง แล้วก็มีแมตช์ระหว่าง เอดจ์ กับ ซิกก์เลอร์ และ เอดจ์ เป็นฝ่ายชนะ แต่เมื่อจบแมตช์ ทีโอดอร์ ลอง ก็มาอีกครั้งแล้วไล่ ซิกก์เลอร์ ออกแทน เอดจ์ และ ซิกก์เลอร์ ก็ไม่ได้เข้าร่วมแมตช์ Elimination Chamber ในที่สุด ต่อมา ในศึก [[อิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2011)]] เอดจ์ ต้องป้องกัน แชมป์โลกเฮฟวี่เวท ในกรงเหล็กมรณะ หรือ Elination Chamber กับนักมวยปล้ำถึง 5 คน ได้แก่ เรย์ มิสเตอริโอ, เคน, [[ดรูว์ แมคอินไตย์]], [[เวด บาร์เร็ตต์]] และ บิ๊กโชว์ สุดท้าย เอดจ์ เป็นฝ่ายชนะและป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ หลังจากจบแมตช์ อัลเบอร์โต เดล ริโอ ได้ออกมาลอบทำร้าย เอดจ์ แต่ คริสเตียน ออกมาช่วย เอดจ์ ไว้ได้ทัน ในศึก SmackDown ต่อมา เอดจ์ จับคู่กับ คริสเตียน เจอกับ อัลเบอร์โต เดล ริโอ และ [[โบรดัส เคลย์]] สุดท้าย [[เอดจ์ และ คริสเตียน]] ก็เอาชนะไปได้สำเร็จ ต่อมาในศึก [[เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 27]] เอดจ์ จะต้องป้องกันแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ อัลเบอร์โต เดล ริโอ สุดท้าย เอดจ์ เป็นฝ่ายชนะและป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ, ต่อมาในรอว์ วันที่ 11 เมษายน ค.ศ.2011 เอดจ์ได้ประกาศว่าเขาจะเลิกปล้ำ เพราะมีอาการบาดเจ็บ และขอสละแชมป์เฮฟวี่เวท<ref>{{cite web|url=http://www.wwe.com/inside/edge-announcement|title=Injury forces Edge to retire