ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ทรงศักดิ์ เปรมสุข"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Taweethaも (คุย | ส่วนร่วม)
Songsak premsuk (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
คุณทรงศักดิ์ เปรมสุข สำเร็จการศึกษศึกษา จากคณะสถาปัตยกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า (KMIT) และจบหลักสูตรโครงการยุทธศาสตร์การจัดการตลาด จากฮาร์วาร์ด บิสิเนส สคูล ประเทศสหรัฐอเมริกา
 
คุณทรงศักดิ์ ผ่านประสบการณ์อย่างกว้างขวางในด้านการโฆษณา การตลาด และการบริหารสถานีโทรทัศน์ โดยเริ่มจากการร่วมเริ่มต้นกับเพื่อน ๆ ตั้งบริษัทออกแบบงานโฆษณาชื่อ Matchbox แม้กิจการเริ่มจะดำรงอยู่ในช่วงเวลาสั้นไม่ประสพความสำเร็จ แต่ก็สร้างประสบการณ์ที่หาค่ามิได้พร้อมด้วยจิตใจที่รักการบุกเบิกสร้างสรรค์สิ่งแปลกใหม่อยู่เสมอ
 
ระหว่างปี ค.ศ. 1984 ถึงปี ค.ศ. 1991 คุณทรงศักดิ์ เติบโตบนเส้นทางอาชีพคนโฆษณาอย่างรวดเร็ว มีโอกาสเข้าร่วมงานกับริษัทโฆษณาข้ามชาติหลายแห่ง จนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง ครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ ของดีวายแอนด์อาร์ DY&R เอเจนซี่สัญชาติญี่ปุ่น-อเมริกัน และย้ายมารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ควบเก้าอี้ครีเอทีฟ ไดเร็คเตอร์ บริษัท เอสซี แมทช์บ็อกซ์ เอเจนซี่เลือดไทย SC Matchbox เอเจนซีที่ร่วมก่อตั้ง และร่วมลงทุนกับกลุ่มชินวัตร ในปี 1991
 
ภายในเวลา 3 ปี คุณทรงศักดิ์ สร้าง เอสซี แมทช์บ็อกซ์ จากเอเจนซี่ที่ไม่มีใครรู้จักกลายเป็นเอเจนซี่แถวหน้าแนวหน้าในอุตสาหกรรม ด้วยผลงานรางวัลด้านการโฆษณาและการตลาดมากมาย ในช่วงที่คุณทรงศักดิ์ลาออกจากบริษัทในปี ค.ศ. 2001 เอสซี แมทช์บ็อกซ์ ติดอันดับหนึ่งในห้าเอเจนซี่ชั้นนำของประเทศไทย และเป็นเบอร์หนึ่งในกลุ่มเอเจนซี่สายเลือดไทย
 
ระหว่างปี ค.ศ.2001 ถึงปี ค.ศ.2002 คุณทรงศักดิ์ ย้ายไปรับตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอทว๊านซ์แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส จำกัด (เอไอเอส) ในบทบาทนี้คุณทรงศํกดิ์ สามารถพลิกภาพลักษณ์ของ “เอไอเอส” ให้กลายเป็นเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่นำสมัยและครองใจคนรุ่นใหม่
 
ระหว่างปี ค.ศ.2001 ถึงปี ค.ศ.2002 คุณทรงศักดิ์ ย้ายไปรับตำแหน่งรองกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอทว๊านซ์ อินโฟ เซอร์วิส จำกัด (เอไอเอส) ในบทบาทนี้คุณทรงศํกดิ์ สามารถพลิกภาพลักษณ์ของ “เอไอเอส” ให้กลายเป็นเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่นำสมัยและครองใจคนรุ่นใหม่
 
จากนั้นคุณทรงศักดิ์ ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) ที่นี่คุณทรงศักดิ์ใช้เวลาสองปี พลิกสถานะ “ไอทีวี” จากสถานี โทรทัศน์ที่มีเรตติ้งคนดูต่ำสุด กลายเป็นช่องที่มีเรตติ้งอันดับสามของประเทศ