ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ซีเอสไอ: นิวยอร์ก"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ELUNIUMMAN (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 59:
* '''เจ้าหน้าที่พิสูจน์ที่เกิดเหตุ นักสืบระดับ 1 โจเซฟฟิน "โจ" แดนวิลล์ - CSI Detective First Grade: Josephine "Jo" Danville''' (แสดงโดย Sela Ward) สมาชิก CSI คนใหม่ ที่มาแทน สเตลล่า โบนาเซร่า เคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ FBI ที่ [[เวอร์จิเนีย]] มาก่อน เธอมีความเชี่ยวชาญในการหาหลักฐานทาง DNA มุมมองด้านปรัชญาของเธอจะมองทุกคนว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ไว้ก่อน จนกว่าจะมีการพิสูจน์ทางด้านวิทยาศาสตร์ อย่างไรก็ตาม เธอเองก็มีภูมืหลัง ทางด้านจิตวิทยาทางอาญาด้วย เธอมีบุตรบุญธรรมชาย 1 คน การมาถึงที่แล็บอาชญากรรม ทำให้เธอตกใจเมื่อพบศพอยู่บนพื้น ที่แล็บอาชญากรรม
 
* '''เจ้าหน้าที่พิสูจน์ที่เกิดเหตุ นักสืบระดับ 1 แดนนี่ เมสเซอร์ - CSI Detective First Grade: Danny Messer''' (แสดงโดย Carmine Giovinazzo) เขาเติบโตมาจากครอบครัวที่เต็มไปด้วยกรอบและระเบียบวินัยในการดำเนินชีวิต แต่ส่วนตัวเขากลับสร้างสไตล์การทำงานตลอดจนการดำเนินชีวิตให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นั่นคือการผสมผสานแนวความคิดในโลกของพวกที่ไม่ยอมรับและชอบแหกกฎ กับโลกของผู้สร้างกฎและควบคุมมัน เขาเคยทำธุรกิจเกี่ยวกับดนตรีในช่วงเวลาที่สั้น และเคยเป็นนักเบสบอลที่ยอดเยี่ยม เขาเล่นมาตั้งแต่ชั้นประถมจนถึงวิทยาลัย แต่ข้อมือหักระหว่างปะทะคู่ต่อสู้ ทำให้ต้องเลิกเล่นไปในที่สุด หลังจากนั้นเขาไปศึกษาต่อที่ โรงเรียนตำรวจ และสำเร็จการศึกษาเป็นอันดับ 1 ในชั้น เขาได้รับการคัดเลือกเป็นการส่วนตัวจาก แม็ค มาเป็นส่วนหนึ่งของทีม CSI เขาสนิทสนมกับ ดอน แฟล็ค เป็นคนที่ไม่ค่อยเชื่ออะไรง่ายๆ นัก ในซีซั่นที่ 3 ตอน Snow Day เขาเริ่มมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งกับเพื่อนร่วมทีม ลินด์เซย์ มอนโร และถูกจับเป็นตัวประกัน พร้อมกับเพื่อนร่วมทีม อดัม อยู่ในคลังสินค้า ในซีซั่นที่ 5 ตอน The Box แดนนี่ได้รู้ว่าลินด์เซย์กำลังตั้งครรภ์ และในตอน Green Piece แดนนี่ได้แต่งงานกับลินด์เซย์ ในซีซั่นที่ 6 ตอน Epilogue เขาได้บาดเจ็บจากยิงถล่มบาร์ของกลุ่มคนไม่ทราบชื่อ ทำให้เป็นอัมพาตชั่วคราว ภายหลังเขาก็หายดีตามปรกติ
 
* '''เจ้าหน้าที่พิสูจน์ที่เกิดเหตุ นักสืบระดับ 3 ลินด์เซย์ มอนโร - CSI Detective Third Grade: Lindsay Monroe''' (แสดงโดย Anna Belknap) เธอเคยทำงานอยู่ในทีม CSI เป็นเวลา 3 ปีที่ [[มอนทานา]] แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจตามฝันย้ายมาอยู่ที่ [[นิวยอร์ก]] หญิงสาวผู้กระตือรือล้นและพร้อมที่จะเรียนรู้ตลอดเวลา ความกระหายที่จะไขความลับเป็นแรงกระตุ้นให้เธอพร้อมอุทิศชีวิตในการทำงานให้กับทีม CSI เป็นเพราะว่าถิ่นที่เธอกำเนิด ทำให้ แดนนี่ เมสเซอร์ เรียกเธอด้วยความรัก ว่า '''มอนทาน่า''' หรือ '''สาวลูกทุ่ง''' อยู่เป็นประจำ ตลอดช่วงซีซั่นที่ 3 เธอพยายามอยู่ห่างจากแดนนี่ตลอดเวลา ในขณะเดียวกัน เธอพยายามลืมความทรงจำที่ถูกกระตุ้น จากความลับในอดีตของเธอที่ผ่านมา (ความทรงจำนั้นก็คือ เพื่อนๆ ของเธอถูกฆาตกรรมทั้งหมด แต่เธอรอดชีวิตเพียงคนเดียว) แต่หลังจากตอน Sleight Out of Hand เธอจึงได้ใกล้ชิดกับแดนนี่มากขึ้น และตอน Snow Day พวกเขามีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง ในซีซั่นที่ 5 ตอน The Box เธอได้รับผลการตรวจที่โรงพยาบาลว่าเธอตั้งครรภ์ และในตอน Green Piece ลินด์เซย์ได้แต่งงานกับแดนนี่
บรรทัด 65:
* '''เจ้าหน้าที่นิติวิทยา ด็อกเตอร์ ซิด แฮมเมอร์แบ็ค - Medicial Examiner: Doctor Sid Hammerback''' (แสดงโดย Robert Joy) เจ้าหน้าที่นิติวิทยา ที่ถูกนิยามคำจำกัดความว่า '''"Off-the-charts Genius"''' หรือ '''"ยอดอัจฉริยะระดับแนวหน้า"''' ก่อนหน้านี้เคยเป็น หัวหน้าพ่อครัว และมาเป็นเจ้าหน้าที่นิติวิทยา ในเวลาต่อมา เขาเป็นคนชอบพูดและแสดงความคิดเห็นมากเกินไปในบางครั้ง แต่เขาก็มีความเข้าใจที่ลึกซึ้งและความห่วงใยที่จริงใจ ต่อเพื่อนร่วมทีมของเขา (เห็นได้จากการที่เขาเชิญ แม็ค ไปร่วมงาน เทศกาล [[วันขอบคุณพระเจ้า]] กับครอบครัวของเขา เพราะไม่อยากให้ แม็ค ใช้ชีวิตในวันหยุดอยู่คนเดียว) ในซีซั่นที่ 3 ตอน The Ride In เขาเกือบจะเสียชีวิตจากอาการแพ้อย่างรุนแรง อันเนื่องมาจาก แซนด์วิชเนื้อที่เขากินเข้าไป แต่ สเตลล่า ช่วยเหลือไว้ได้ทันเวลา ปัจจุบันเขาแต่งงานแล้ว มีลูกสาว 2 คน ซึ่งคนหนึ่งกำลังศึกษาอยู่ที่ [[วิทยาลัย]] และซีซั่นที่ 5 ตอน Page Turner เขาเกือบจะเสียชีวิต อันเนื่องมาจาก พิษกัมมันตภาพรังสีของผู้เคราะห์ร้าย ในห้องเก็บศพ
 
* '''เจ้าหน้าที่เทคนิค ห้องทดลอง อดัม รอส - Laboratory Technician: Adam Ross''' (แสดงโดย A.J. Buckley) เจ้าหน้าที่แล็บเทคนิค จาก [[ฟินิกซ์]], [[แอริโซนา]] เขามีความชำนาญด้าน พิสูจน์ร่องรอยจากหลักฐาน เป็นพิเศษ บางครั้งก็มาพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่น ไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อ สร้าง หรือรวบรวมหลักฐานขึ้นมาใหม่ เขาไม่ชอบหิมะและอากาศเย็น เนื่องจากเขาพูดอยู่เสมอว่าเขามาจาก ฟินิกซ์ และเห็นว่าอากาศที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 85 [[องศาฟาเรนไฮต์]] นั้นเย็นมากสำหรับเขา เขาเคยยอมรับว่า ระหว่างที่เขาเผากระดูกบางอย่างอยู่นั้น ก็ถูกพ่อของเขาข่มขู่และต่อว่า หลังจากนั้นเขาจำได้ว่า จะรู้สึกสะดุ้งและหวาดระแวงเป็นอย่างมากเวลามีใครบางคนตะหวาดและมาตีที่ไหล่เขา ซึ่งทำให้เห็นว่า เขาถูกข่มขู่และทารุณกรรม ตั้งแต่เด็ก เขาได้ให้ความช่วยเหลือ สเตลล่า โดยใช้ชุดทดสอบ [[PCR]] เพื่อหาเชื้อ HIV เนื่องจากว่า เธอได้ถูกเศษกระจกบาด จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุแห่งหนึ่ง และสงสัยว่าเศษกระจกที่เปื้อนเลือดเหล่านั้นมีเชื้อ HIV ติดอยู่ และภายหลังพบว่าผลเลือดของเธอเป็น ลบ ในซีซั่นที่ 3 ตอน Snow Day เขากับเพื่อนร่วมทีม แดนนี่ ถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ในคลังสินค้า และถูก[[บุหรี่]]เผาที่มือของเขาด้วย ซีซั่นที่ 5 ตอน Enough เขาได้รับจดหมายเตือนเกี่ยวกับเวลาการทำงานของเขาได้สิ้นสุดลงแล้ว อดัม ได้ไปพูดคุยกับ แม็ค ซึ่งเขาก็ไม่ทราบเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน แม็ค ได้โต้เถียงกับ หัวหน้านักสืบ ซินแคลร์ เกี่ยวกับการตัดงบประมาณการจ้างเจ้าหน้าที่ เพื่อซื้อเครื่องตรวจ ดีเอ็นเอ เครื่องใหม่ รวมทั้งสเตลล่าในภายหลังด้วย เพราะ เขาต้องการให้เธอยกเลิกการสั่งซื้อเครื่องตรวจ ดีเอ็นเอ เครื่องใหม่ โดยเธอคิดว่าเครื่องตรวจ ดีเอ็นเอ ใหม่ สามารถตามตัวฆาตกรได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และ ใช้เจ้าหน้าที่น้อยลง แต่เมื่อสิ้นสุดการโต้เถียง แม็ค เลือกที่จะให้ อดัม อยู่ที่แล็บต่อไป ซึ่งภายหลัง ระหว่างการโต้เถียงของแม็ค และ สเตลล่า เขาก็ได้ยินเรื่องราวนี้ทั้งหมดอยู่ที่หน้าห้อง ในซีซั่นที่7 ตอน Unfriendly Chat เขาถูกแม็คสั่งพักงาน 3 วัน เพราะแอบแฮ็กเข้าไปในเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ต้องสงสัย ภายหลัง เขาก็กลับมาทำงานตามปรกติ
 
* '''เจ้าหน้าที่พิสูจน์ที่เกิดเหตุ นักสืบระดับ 3 ด็อกเตอร์ เชลดอน ฮอว์คส์ - CSI Detective Third Grade: Doctor Sheldon Hawkes''' (แสดงโดย Hill Harper) ก่อนหน้านี้เป็นหัวหน้าทีมด้านทีมนิติเวชของทีม CSI ซีรีส์นี้ เขาชื่นชอบความท้าทายในการชันสูตรศพในห้องเงียบๆ เป็นชีวิตจิตใจ ด้วยพรสวรรค์ระดับยอดอัจฉริยะในการเรียน เขาสำเร็จการศึกษาระดับ[[มหาวิทยาลัย]]ตั้งแต่อายุ 18 ปี ตอนอายุ 24 ปี เขาเป็นถึงหนึ่งในสมาชิกทีม[[ศัลยกรรม]]ชั้นนำของ สหรัฐอเมริกา ในซีซั่นที่ 2 เขาออกจากห้องชันสูตรศพและเริ่มออกงานภาคสนามกับเพื่อนร่วมทีม ในซีซั่นที่ 3 ตอน Rising Shane เขาถูกจับกุมในฐานะเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีปล้นและฆาตกรรมรายหนึ่ง แต่ท้ายที่สุดก็รอดพ้นจากข้อกล่าวหา เพราะ เพื่อนร่วมทีมช่วยกันหาหลักฐานมัดตัว เชนส์ คาเซย์ ฆาตกรต่อเนื่องได้ (ฮอว์คส์ถูก เชน คาเซย์ ใส่ร้าย เนื่องจากก่อนหน้านั้นเขาเคยเป็นเจ้าหน้าที่นิติวิทยา ชันสูตรศพ แลน คาเซย์ ซึ่งเป็นพี่ชายของ เชนส์ คาเซย์ ว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่เขาไม่เชื่อว่าพี่ชายจะฆ่าตัวตายและแค้นใจมาก จึงได้ฆาตกรรมผู้เกี่ยวที่ข้องกับนี้คดี 3 คนที่เป็นพยาน และฮอว์คส์จึงตกเป็นเป้าหมายคนต่อไป ในฐานะคนที่เคยชันสูตรศพพี่ชายของเขา)