ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อำเภอแก้งสนามนาง"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Konkorat (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 18:
 
==ประวัติศาสตร์==
คำว่า “แก้ง” เป็นภาษาท้องถิ่น ที่ใช้กันของ[[อีสาน]] หมายถึง “แก่งหินกลางลำน้ำ” ชุมชนที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นอำเภอแก้งสนามนางในทุกวันนี้ มีความสำคัญในฐานะที่ในอดีต อาณาบริเวณนี้ใช้เป็นท่าสำหรับข้าม[[แม่น้ำชี]] เพื่อเดินทางไปติดต่อสัมพันธ์กันระหว่างผู้คนในเขตการปกครองเมืองเ[[มืองชัยภูมิ]] กับผู้คนในเขตบัวใหญ่ (สมัยนั้น) ของ[[เมืองโคราช]] ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อหรือไปมาหาสู่ ค้าขายหรือแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ชุมชนที่เป็นท่าข้ามลำน้ำชีดำเนินความสำคัญเรื่อยมา จนมาถึงยุคที่มีรถไฟวิ่งมาถึงกลาง[[ภาคอีสาน]]
 
การนำสินค้าจาก[[จังหวัดชัยภูมิ]]เข้าสู่เมืองหลวง ก็จะลำเลียงข้ามแม่น้ำชีมาขึ้นรถไฟที่[[อำเภอบัวใหญ่]] (ในปัจจุบัน) เพื่อส่งเข้า[[กรุงเทพฯ]] ต่อมา รัฐบาลเข้าไปพัฒนาสร้างถนนลูกรัง และ สร้างสะพานเหล็กข้ามลำน้ำชีให้เป็นอีกเส้นทางหนึ่ง เพื่อใช้ติดต่อกันระหว่าง จังหวัดชัยภูมิกับอำเภอบัวใหญ่ [[จังหวัดนครราชสีมา[[ เมื่อ [[พ.ศ. 2480]] และ ใช้เป็นเส้นทางลำเลียงสินค้าจากชัยภูมิสู่กรุงเทพฯ ด้วยโดยนำมาบรรทุกรถไฟที่สถานีรถไฟบัวใหญ่ จนถึงปี [[พ.ศ. 2513]] ก็รื้อสะพานเหล็กสร้างใหม่เป็นสะพานคอนกรีตปัจจุบันถนนสายนี้กลายเป็นทางหลวงหมายเลข 202
ท่าที่ใช้ข้ามแม่น้ำนี้มักมีชื่อตามแก่งหินน้ำตื้นที่ขวางอยู่กลางลำน้ำในอาณาบริเวณชุมชนนั้น ดังเช่น ท่าข้าม “แก้งโก” (แก่งต้นตะโก) จึงเป็นข้อสังเกตให้เห็นว่า ที่ชุมชนที่ตั้งอยู่ริมแก่งทั้งสองนี้จะมีชื่อตามชื่อแก่งว่า [[หมู่บ้าน]] "แก้งขาม"และหมู่บ้าน "แก้งโก"
 
บ้านแก้งขามถือเป็นตลาดการค้าขนาดย่อมทีเดียว และยังเป็นตลาดรับซื้อปอจากฝั่งชัยภูมิเพื่อส่งไปบรรทุกรถไฟที่บัวใหญ่ด้วย ฉะนั้นจึงเป็นท่าข้ามที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ มาแต่อดีตและ ยาวนานมาจนถึงทุกวันนี้ ห่างจากตลาดแก้งขามเพียง 13 กิโลเมตร ยังมีชุมชนขนาดใหญ่ริมฝั่งน้ำชีอยู่อีกชุมชนหนึ่งที่มีความสำคัญ ในฐานะท่าข้ามที่สำคัญไม่แพ้กันมาแต่อดีต ที่นี่ คือที่ตั้งของ “บ้านแก้งสนามนาง” หมู่บ้านหรือชุมชนแห่งนี้เรียกขนานนามตามชื่อของแก่งหินเหมือนชุมชนอื่น ๆ แต่ด้วยเหตุที่เป็นแก่งหินขนาดใหญ่กลางลำน้ำชีที่ยามหน้าแล้งน้ำลด สาว ๆ หนุ่ม ๆ มักพากันลงเล่นน้ำที่แก่งนี้เป็นที่สนุกสนาน จึงเรียกชื่อชุมชนนี้ว่า “แก้งสนามนาง”