ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เรือประจัญบานมูซาชิ"

การต่อเรือประจัญบานมุซาชิที่บริษัทมิตซูบิชิ จังหวัดนางาซากิเนื่องจากเป็นบริษัทของเอกชน จึงนับว่าค่อนข้างยากกว่าอู่ของฐานทัพเรือ ที่มีทหารเป็นผู้ควบคุม ดังนั้นในลำดับแรกได้มีการสอบประวัติภูมิหลังของคนงานทุกคนที่มาทำหน้าที่ต่อเรือนี้ที่บริเวณอู่แห้ง ทั้งทางด้านข้าง ด้านบน ด้านหน้า และด้านหลัง จะกรุด้วยตาข่ายที่ทำจากใย ของพืช มีความยาวรวมแล้วถึง ๒2,๗๐๐700 กิโลเมตร (เป็นระยะทางจากโตเกียวถึงนางาซากิ ไป กลับสองตลบแล้วกลับมาจรดที่เกียวโต) เป็นน้ำหนักของตาข่ายนี้ถึง ๔๐๐400 ตัน ยังผลให้ชาว ประมงบนเกาะกิวชิว ขาดวัถตุดิบสำคัญที่จะใช้ในการผลิตอวนจับสัตว์น้ำไปเป็นเวลานาน นอกจากนี้ยังได้ขึงตาข่ายปิดล้อมบริเวณอู่แห้งที่ต่อเรือนี้อีกด้วย แต่ที่บริษัทมิตซูบิชิ ที่ต่อเรือประจัญบาน มุซาชิ นั้น เนื่องจากเป็นของเอกชน แม้จะมีการเข้มงวด กวดขัน กันอย่างมาก ก็ยังปรากฏว่ามีแบบแปลนสูญหายไป ๑1 แผ่น จึงได้มีการจับกุมบรรดา นายช่างและผู้เกี่ยวข้องหลายคนมาสอบสวน ก็ได้ความว่ามีคนงานคนหนึ่งทนความเข้มงวด ของทางการไม่ไหว จึงได้นำแบบแปลนไปเผาทำลายเสีย ๑1 แผ่น-->

ประการแรกจะต้องใช้ท่อนไม้ขนาดใหญ่ ทั้งความยาวและความหนามาปูเป็นทางลาด เพื่อให้เรือลื่นไถลลงน้ำได้ ท่อนไม้นี้จะต่อกันกว้าง ๑๓13 ฟุต ยาว ๘๘๐880 ฟุต โดยต้องต่อกันอย่าง สนิท ไม่มีปุ่มปม แล้วทาด้วยไขวัว ๑๘18 ตัน เพื่อให้ลื่น แล้วทาทับด้วยน้ำมัน หล่อลื่นอีก ๗7 ตัน เนื่องจากอ่าวเมืองนางาซากิ นี้มีขนาดไม่ใหญ่นัก บริษัทมิตซูบิชิ จึงได้นำโซ่เหล็กมาต่อกัน เป็นน้ำหนัก ๒2,๐๐๐000 ตัน ผูกไว้ที่หัวเรือ ให้เรือที่ปล่อยลงน้ำทางท้ายนั้นต้องลากโซ่นี้ไปด้วยเพื่อ ให้มีความหนืดไม่เลยไปชนฝั่งตรงข้าม นอกจากนี้ยังได้นำ สบู่เหลวอีก ๒2 ตัน มาชโลมให้เรือ ที่มีน้ำหนักจริงถึง ๓๕35,๗๓๗737 ตัน ลื่นไถลลงน้ำได้อย่างปลอดภัยอีกด้วยแต่อ่าวนางาซากิ เป็นอ่าวรูปตัว "ยู" ด้านนอกออกสู่ทะเล ดังนั้นจึงมีโอกาสที่น้ำจะเอ่อล้น ขึ้นมาบนฝั่งได้ ที่ท่าเรือนางาซากินั้น เมื่อปล่อยเรือประจัญบานมุซาชิลงน้ำแล้วประมาณ ๑๐10 นาที ระดับน้ำทะเลจะเอ่อสูงขึ้นถึง ๕๘58 เซนติเมตร นับเป็นปรากฏการณ์คล้ายกับคลื่น "สึนามิ" น้อยๆ แต่มันมิได้เกิดจากการเคลื่อนตัวของแผ่นดิน หรือ แผ่นดินไหว แต่เป็นการแทนที่น้ำ ด้วยน้ำหนักกว่า ๓๐30,๐๐๐000 ตัน ของเรือ มุซาชิ จึงเกิดคลื่น "สึนามิ" เทียมขึ้นมา ยังผลให้ชาว บ้านที่มีบ้านเรือนอยู่ริมฝั่ง พบว่ามีน้ำทะเลเอ่อล้นขึ้นมาถึงพื้นใต้ถุนบ้านจนเกิดโกลาหลกัน ยกใหญ่ เพราะไม่ทราบถึงสาเหตุ นอกจากนี้แม่น้ำสายเล็ก ๆ สายหนึ่งที่ไหลลงอ่าวนางาซากิ ก็มีระดับน้ำสูงขึ้นกว่าปกติ ถึง ๓๐30 เซนติเมตรอีกด้วย เมื่อดูจาก สถิติการปล่อยเรือลงน้ำของโลกแล้ว เมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๗2477 อังกฤษได้ปล่อยเรือ โดยสารขนาดใหญ่ "ควีนแมรี่" ระวางขับน้ำ ๓๗37,๓๘๗387 ตัน และใน พ.ศ. ๒๔๘๓2483 ญี่ปุ่นได้ปล่อย เรือประจัญบาน มุซาชิ ซึ่งมีระวางขับน้ำขณะที่ปล่อยลงน้ำ ๓๕35,๗๓๗737 ตัน จึงเป็นเรือที่มีระวาง ขับน้ำเป็นลำดับที่สอง แต่เรือควีนแมรี่นั้น ได้บรรทุกน้ำถ่วงเรือไว้ประมาณ ๒2,๐๐๐000 ตัน เพื่อมิ ให้เรือลอยออกไปไกล ดังนั้นเมื่อหักน้ำหนักน้ำถ่วงเรือออกไป ก็จะเป็นระวางขับน้ำของเรือ เพียง ๓๕35,๓๘๗387 ตันเท่านั้น ดังนั้น เรือประจัญบาน มุซาชิ จึงครองสถิติโลก เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๕2485 ด้วยระวางขับน้ำขณะปล่อยลงน้ำ ๓๕35,๗๓๗737 ตัน

== อำนาจการยิงของปืนใหญ่ ขนาด ๔๖๐460 มิลลิเมตร ของเรือประจัญบานมุซาชิ ==

ปืนใหญ่เรือขนาด ๔๖๐460 มิลลิเมตร (น้ำหนักลูกละ 1,460 กิโลกรัม หมอนรองอีกกระบอกละ 55 กิโลกรัม ดินขับอีกกระบอกละ 330 กิโลกรัม เบ็ดเสร็จปืนใหญ่ 1 กระบอก กับกระสุน 1 ลูกนั้น รวมน้ำหนักถึง 1,845 กิโลกรัม หรือประมาณเกือบ 2 ตันทีเดียว) แบบ ๙๔94 นั้น มีระยะยิงไกลสุด ๔๒42,๐๐๐000 เมตร (26.1 ไมล์)โดย มีจอมกระสุนวิถีสูงกว่าความสูงของภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดของญี่ปุ่นถึง ๒2 เท่า (สูง ๓3,๗๗๖776 เมตร) กระสุนมีความเร็วต้น ๗๘๐780 เมตร/วินาที สามารถทะลุเกราะเหล็กที่หนา ๔๓๐430 มิลลิเมตร ได้อย่างสบาย

จากรายงานของเรือพิฆาต คิโยชิโมะ แจ้งว่า เรือประจัญบาน มุซาชิ จมที่ละติจูด ๑๒12 องศา ๐๘08 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด ๑๒๒122 องศา ๔๑41.๕5 ลิปดา ตะวันออก แต่หลักฐานทางฝ่ายสหรัฐ ฯ แจ้งว่าตำบลที่ที่เรือจม คือ ที่ละติจูด ๑๒12 องศา ๓๕35 ลิปดา เหนือ ลองจิจูด ๑๒๒122 องศา ๓๕35 ลิปดา ตะวันออก ซึ่งแตกต่างกัน จึงไม่ทราบแน่ชัดว่าที่ใดแน่