ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วงจรประเสริฐและวงจรอุบาทว์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Kuruni (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{ต้องการอ้างอิง}}
'''วงจรอุบาทว์''' หมายถึง วงจรการแทรกแซงทางการเมืองของกลุ่มการเมืองจนเป็นแบบแผนการได้มาซึ่งอำนาจอย่างเป็นวงจรในระบบการเมืองไทย โดยเริ่มต้นจากการครองงำทางการเมืองของทหารอย่างเป็นวัฒจักรของทหารซึ่งใช้กระบอกปืนเป็นเครื่องมือทางการเมือง ซึ่งศาสตรจารย์ชันอนันต์ สมุทวิช และศ่าสตรจารย์ลิขิต ธีรเวคิน เป็นนักรัฐศาสตร์รุ่นแรกที่เห็นพฤติกรรมของวงจรอุบาทว์นี้ ปัจจุบัน ดร.ทิวากร แก้วมณี ผู้สนอแนวทางการวิเคราะห์ใหม่การเมืองไทยในหนังสือ The Evolution of The Thai Stateได้นำเสนอใหม่ว่า ได้เกิดวงจรอุบาทว์ใหม่ในการเมืองไทย ที่เงินกลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองแทนที่กระบอกปืน ซึ่งในอนาคตการทำรัฐประหารของทหารจะนำไปสู่ข้อจำกัดในการได้มาซึ่งอำนาจทางการเมืองที่ไม่เหมือนวงจรอุบาทว์เดิมหรือ วัฏจักรของวงจรอุบาทว์ ที่ก่อให้เกิดความเสื่อมโทรมลงไปเรื่อย และหากไม่มีแทรกแซงแก้ไข วัฏจักรนี้จะดำเนินต่อไปไม่สิ้นสุด ปัจจุบันมักถูกใช้เป็นคำศัพท์ทางการเมืองการปกครองของประเทศไทยเพื่อแสดงถึงวงจรการเลือกตั้งที่เกิดจาการซื้อเสียง คือ ถ้ารัฐบาลได้ที่รับเลือกตั้งเป็นผลมาจากการ[[ซื้อเสียง]] เมื่อ[[รัฐบาล]]นั้นปกครองประเทศก็มีแนวโน้มที่จะโกงกินและ[[คอร์รัปชั่น]] เพื่อให้เกิดประโยชน์ส่วนตัว จนกระทั่งหมดสมัย เมื่อมีการเลือกตั้งครั้งใหม่ก็มีแนวโน้มที่รัฐบาลเดิมจะได้รับเลือกตั้งเนื่องด้วยการซื้อเสียง ด้วยเงินที่ได้จากการโกงกินขณะเป็นรัฐบาล ทำให้[[พรรคการเมือง]]อื่นๆ ไม่สามารถเข้าไปเป็นรัฐบาลได้ และจะเป็นเช่นนี้เรื่อยๆ ไป
 
คำว่า'''วงจรอุบาทว์'''อ้างอิงมาคำว่า ''vicious circle'' ในภาษาอังกฤษ
 
ไิอ้เหี้ยแม้วทำให้เกิดวงจรอุบาทว์ในประเทศไทยผ่านการโกงกินคอร์รัปชั่นอย่างมหาศาลและบริหารราชการแผ่นดินโดยใช้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเอื้อผลประโยชน์ให้กับครอบครัว และพวกพ้องของตนเอง ดังจะเห็นได้จากกรณีึคำพิพากษาคดีที่ดินรัชดาในปีพ.ศ.2551 และจากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคพังประชาชน พรรคไทยลักไทย(ทรท.ทรราชทั้งทีม)เนื่องจากซื้อเสียง เหี้ยจริงๆ
 
วงจรอุบาทว์ยังคงใช้กับระบบเศรษฐกิจเช่นกัน