ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ข้าราชการฝ่ายตุลาการ (ประเทศไทย)"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ล โรบอต เพิ่ม: az:Hakim (hüquq) |
แจ้ง{{โปร}} + เอาลิงก์ไปตปท.ออก |
||
บรรทัด 1:
{{โปร}}
[[ไฟล์:KinginJudge.jpg|thumb|220px|right|[[พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช]]และ[[สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ]]ทรงเครื่องแบบข้าราชการตุลาการในฐานะที่ทรงเป็นที่มาแห่งความยุติธรรมตามความเชื่อโบราณ]]
เส้น 46 ⟶ 48:
ในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีแต่โบราณจะมีเจ้าพนักงานสองฝ่าย คือ '''"ตระลาการ"''' หรือ'''"ตุลาการ"''' มีหน้าที่พิจารณาไต่สวนหาข้อเท็จจริง และ '''"ผู้พิพากษา"''' มีหน้าที่ให้คำพิพากษาเมื่อได้ข้อเท็จจริงจากตุลาการแล้ว เมื่อมีการเลิกใช้กฎหมายตราสามดวงโดยปริยาย ฝ่ายตุลาการก็สูญสิ้นไปด้วย ผู้พิพากษาจึงต้องปฏิบัติหน้าที่ของตุลาการอย่างโบราณอีกหน้าที่หนึ่ง อย่างไรก็ดี ต่อมาภายหลังกลับรื้อคำว่า "ตระลาการ" หรือ "ตุลาการ" ขึ้นมาใช้อีก โดยให้ความหมายว่าผู้พิจารณาพิพากษาอรรถคดีเหมือนอย่างผู้พิพากษา จนกระทั่งภายหลังมีกฎหมายว่าด้วยข้าราชการตุลาการขึ้น จึงเป็นที่ทำให้เข้าใจอย่างตายตัวว่า ในบัดนี้ความหมายของคำว่า "ผู้พิพากษา" กับ "ตุลาการ" เป็นอย่างเดียวกัน<ref>ขุนสมาหารหิตะคดี (โป๊ โปรคุปต์). (2549, มีนาคม). "ตระลาการ". '''พจนานุกรมกฎหมาย.''' กรุงเทพฯ : วิญญูชน. หน้า 128-129.</ref> จนกระทั่งต่อมามีการจัดตั้งศาลรัฐธรรมนูญกับศาลปกครองขึ้น โดยโอนอำนาจของศาลยุติธรรมที่เกี่ยวกับคดีปกครองและการตีความรัฐธรรมนูญไปให้กับศาลที่จัดตั้งใหม่ทั้งสองประเภทดังกล่าว จึงมีการกำหนดในกฎหมายอย่างชัดเจนทำให้เห็นได้ว่าตำแหน่ง "ผู้พิพากษา" นั้นจะใช้กับศาลยุติธรรมเท่านั้น แต่ศาล
รัฐธรรมนูญกับศาลปกครองนั้น จะเรียกว่า "ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและตุลาการศาลปกครอง"
===== การได้มาและการให้พ้นจากตำแหน่งซึ่งข้าราชการตุลาการ =====
เส้น 121 ⟶ 93:
{{ราชการ}}
{{โครงกฎหมาย}}
[[หมวดหมู่:ข้าราชการฝ่ายตุลาการชาวไทย| ]]▼
|