ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 37:
 
ได้เริ่มเห็นผังของจริงของพระพุทธเจ้า (ธรรมกายโคตรภู) ในระหว่าง มัชฌิมยามกับปัจฉิมยามติดต่อกัน ท่านได้รำพึงว่า '''"คมฺภีร์ โรจายํ ธรรมเป็นของลึกซึ้งถึงเพียงนี้ ใครจะไปคิดคาดคะเนเอาได้ พ้นวิสัย ของความตรึก นึก คิด ถ้ายังตรึก นึก คิด อยู่ก็เข้าไม่ถึง ที่จะเข้าให้ถึงต้องทำให้รู้ตรึก รู้นึก รู้คิด นั้นหยุดเป็นจุดเดียวกัน แต่พอหยุดก็ดับ แต่พอดับแล้วก็เกิด ถ้าไม่ดับแล้วไม่เกิด ตรองดูเถิดท่านทั้งหลาย นี้เป็นของจริง หัวต่อมีเป็นอยู่ตรงนี้ ถ้าไม่ถูกส่วนดังนี้ก็ไม่มีไม่เป็นเด็ดขาด"'''
รำพึงอย่างนี้สักครู่ใหญ่ เกรงว่า ความมีความเป็นนั้นจะเลือนไปเสียจึงเข้าที่ ดำรงสมาธิมั่น ต่อไปตลอดปัจฉิมยาม ในขณะดำรงสมาธิมั่น อยู่อย่างนั้น เห็นวัดบางปลา ปรากฏขึ้นในนิมิต จึงเกิดญาณทัสสนะขึ้นอยู่ว่า ธรรมที่รู้ว่าได้ยากนั้น ในวัดบางปลานี้ จะต้องมีผู้รู้เห็น ได้อย่าง แน่นอน ออกพรรษาแล้วได้ไปสอนที่วัดบางปลาม้าราว 4 เดือน มีพระทำเป็น (ได้เข้าถึงธรรมกาย) 3 รูป คือ พระสังวาลย์ พระแบน และพระอ่วม กับคฤหัสถ์ 4 คน นับแต่นั้นมาหลวงพ่อหลวงพ่อฯ ก็เป็นพระวิปัสสนาจารย์ที่คนเคารพรู้จักและยกย่องบูชากันทั่วไป คำว่า
 
คำว่า "[[ธรรมกาย]]" นี้ มีพระบาลี รับรองว่า '''ตถาคตสฺส วาเสฏฺฐ เอตํ ธมฺมกาโยติ วจนํ''' ดูกรวาเสฏฐะ ธรรมกายนี้เป็นชื่อของพระตถาคต และมีพระบาลีปรากฏเป็นหลักฐานในอัคคัญญสูตร ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค ทีฆนิกาย พระสุตตันตปิฎกรับรอง ดังนี้ว่า '''ตถาคตสฺส เหตํ วาเสฏฺฐา อธิวจนํ ธมฺมกาโย อิติปิ พฺรหฺมกาโย อิติปิ ธมฺมภูโต อิติปิ พฺรหฺมภูโต อิติปิฯ''' ดูกร! วาเสฏฐะ และภารทวาชะ เพราะคำว่าธรรมกายนี้ก็ดี พรหมกายก็ดี ว่าธรรมภูตก็ดี ว่าพรหมภูตก็ดี เป็นชื่อของ พระตถาคต
 
== ได้รับสมณศักดิ์ ==