ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 33:
== พระประวัติ ==
 
พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา ([[4 กันยายน|๔ กันยายน]] [[พ.ศ. 2406|พ.ศ. ๒๔๐๖]] - [[24 มิถุนายน|๒๔ มิถุนายน]] [[พ.ศ. 2472|พ.ศ. ๒๔๗๒]])เป็นพระธิดาใน[[พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าลดาวัลย์ กรมหมื่นภูมินทรภักดี]]และ[[เจ้าจอมมารดาจีน]]<ref group=note>[[เจ้าจอมมารดาจีน]] (เดิมคือ[[หม่อมจีน ลดาวัลย์ ณ อยุธยา]] - หม่อมห้ามเจ้านายตามปกติ แต่[[รัชกาลที่ ๕ ]]สถาปนาให้มียศเป็นเจ้าจอมมารดา ทั้งที่ไม่ได้เป็นพระสนมในพระมหากษัตริย์รัชกาลใดเลยนั้นเพราะว่า[[เจ้าจอมมารดาจีน]]เป็นขรัวยายของเจ้าฟ้าพระราชโอรส-ธิดาในรัชกาลนั้นถึง ๖ พระองค์)</ref> ประสูติเมื่อวันศุกร์ที่ [[4 กันยายน|๔ กันยายน]] [[พ.ศ. 2406|พ.ศ. ๒๔๐๖]]<ref>{{user:2T/ref/พระภรรยาเจ้าและสมเด็จเจ้าฟ้าในรัชกาลที่ 5}}</ref> มีพระนามเดิมว่า'''หม่อมเจ้าสาย ลดาวัลย์'''
 
หม่อมเจ้าสาย ลดาวัลย์ เมื่อประสูติทรงประทับอยู่ที่วังของพระบิดา โดยมี[[สมเด็จกรมพระยาสุดารัตนราชประยูร]] ทรงเป็นผู้อภิบาล ทรงมีพระเชษฐภคินีที่ประสูติแต่[[เจ้าจอมมารดาจีน]] ๒ พระองค์ และได้รับราชการฝ่ายในเป็นพระอรรคชายาเธอใน [[พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] พร้อมกันทั้งสามพระองค์ คือ
* [[หม่อมเจ้าบัว ลดาวัลย์]] เมื่อเป็นพระมเหสี ทรงมีพระอิสริยศักดิ์เป็น [[พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าอุบลรัตนนารีนาค กรมขุนอรรควรราชกัลยา|พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าอุบลรัตนนารีนาค]] ต่อมาได้ทรงกรมเป็น [[กรมขุนอรรควรราชกัลยา]]
* [[หม่อมเจ้าปิ๋ว ลดาวัลย์]] เมื่อเป็นพระมเหสี ทรงมีพระอิสริยศักดิ์เป็น [[พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าเสาวภาคย์นารีรัตน์]] สิ้นพระชนม์เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๐
 
พระวิมาดาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา ทรงรับราชการฝ่ายในเป็นพระภรรยาเจ้าทรงอิสริยศักดิ์เป็น '''พระอรรคชายาเธอ''' มีหน้าที่ควบคุมดูแลห้องพระเครื่องต้น ของเสวยคาวหวาน อีกทั้งทรงเป็นผู้ที่ตั้งโรงเลี้ยงเด็กขึ้นเป็นแห่งแรกใน[[ประเทศไทย]] บริเวณ[[ตำบลสวนมะลิ]] [[ถนนบำรุงเมือง]] อุทิศพระกุศลประทานพระราชธิดาพระองค์ใหญ่ที่สิ้นพระชนม์ไปตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ทรงรับเด็กกำพร้าและเด็กยากจนมาเลี้ยงดู สอนให้เล่าเรียน และฝึกวิชาชีพทั้งหญิงและชาย ทรงเป็นองค์อุปนายิกาสภาอุณาโลมแดง ([[สภากาชาดไทย]]) ในสมัยหนึ่งอีกด้วย<ref>[http://www.redcross.or.th/aboutus/patron/upanayika.htm อุปนายิกาสภาอุณาโลมแดง] จากเว็บไซต์[[สภากาชาดไทย]]</ref>
 
พระวิมาดาเธอฯ ทรงประชวรด้วยพระโรคเนื้อร้ายในช่องพระโอษฐ์สิ้นพระชนม์ ณ ตำหนักในสวนสุนันทา [[พระราชวังดุสิต]] เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๒ โดยได้รับพระราชทาน[[โกศกุดั่นน้อย]]ทรงพระศพ<ref name="สิ้นพระชนม์">ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2472/D/994.PDF ข่าวสิ้นพระชนม์], เล่ม ๔๖, ตอน ง, ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๒, หน้า ๙๙๔ </ref> และได้รับพระราชทาน[[พระโกศทองใหญ่]]ในวันออกพระเมรุพระราชทานเพลิงพระศพ (พระโกศทองใหญ่ เป็นพระโกศชั้นสูงสุดสำหรับทรงพระบรมศพ พระมหากษัตริย์และสมเด็จพระอัครมเหสี) <ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2473/D/19_1.PDF การพระเมรุท้องสนามหลวง พระราชทานเพลิงพระศพ พระวิมาดาเธอกรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราชปดิวรัดา], เล่ม ๔๗, ตอน ง, ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๓, หน้า ๑๙ </ref>