ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โชซ็อนโบราณ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 88:
 
== โกโชซอน ==
ชื่อโกโชซอนนี้กำหนดขึ้นโดยนักประวัติศาสตร์รุ่นใหม่ ตามตำนานการสร้างประเทศ[[เกาหลี]]กล่าวว่า เกาหลีในยุคสมัยเริ่มแรกเรียกว่าโชซอน แต่ในประวัติศาสตร์ยุคสมัยสุดท้ายก่อนที่เกาหลีจะเข้าสู่ยุคสมัยใหม่นั้นก็เรียกว่า โชซอน เช่นกัน จึงต้องมีการแบ่งแยกยุคสมัยทั้งสองออกจากกัน โชซอน ยุคแรกจึงต้องเรียกว่า โกโชซอน ซึ่งคำว่า โก แปลว่า เก่า หรือ โบราณ รวมกันจึงหมายถึง โชซอนโบราณ สมัยโกโชซอนนี้นับตั้งแต่ปี 1790 ก่อน พุทธศักราช จนกระทั่งถึง [[พ.ศ. 435]] ในทางโบราณคดีนั้นจัดยุคสมัยโกโชซอนนี้อยู่ในยุคสำริด แต่ก้าวเข้าสู่ยุคเหล็กในช่วงปลายยุค จากหลักฐานที่ค้นพบเครื่องมือเครื่องใช้และถ้วมชามต่างๆถ้วยชามต่างๆ ของผู้คนในสมัยโกโชซอนก็บ่งบอกเช่นนั้น
 
ชาวโกโชซอนมีวัฒนธรรมของชุมชนที่ยังชีพด้วยการเพาะปลูก ในบันทึกของชาวจีนเคยมีการบันทึกและกล่าวถึงชาวโกโชซอนในสมัยราชวงศ์โจว และเรียกโกโชซอนว่าเป็นกลุ่มพวก นักรบคนเถื่อนแห่งตะวันออก ซึ่งในสมัยราชวงศ์โจว นี้มีกลุ่มชาวจีนเรียกว่าคนเถื่อนอยู่มากมายหลายกลุ่มที่อาศัยอยู่นอกเขตแดนที่ราบภาคกลางของจีน ซึ่งเป็นชนเผ่าเรร่อนอาศัยอยู่ในแถบมองโกเลียและแมนจูเรีย โกโชซอนที่มีเขตแดนติดต่อกับแมนจูเรีย จึงถูกเรียกรวมไปว่าเป็นพวกคนเถื่อน ถึงแม้ชาวโกโชซอนจะไม่ได้เป็นพวกเร่ร่อนก็ตาม
 
ในบันทึกของแคว้นฉี สมัย[[ราชวงศ์โจว]]ก็มีบันทึกถึงการติดต่อระหว่าง[[แคว้นฉี]]และชาวโกโชซอน แคว้นนี้ตั้งอยู่ฝั่งตรงข่ามข้ามระหว่างทะเลป๋อไห่กับโกโชซอน และยังปรากฏอีกว่าในระหว่างเกิดสงครามระหว่างรัฐขึ้นในจีนปลานสมัยปลายสมัย[[ราชวงศ์โจว]] ช่วงระหว่าง พ.ศ. 68 ถึง พ.ศ. 322 คนจาก[[แคว้นเอี๋ยน]]ที่เป็นเขตติดต่อกันกับโกโชซอน ก็อพยพหลั่งไหลทะลักเข้าไปในโกโชซอนอย่างมากมายด้วยเช่นกัน
 
ในบันทึกประวัติศาสตร์อีกเล่มของเกาหลีที่มีชื่อว่า ฮวานดาน โกกิ อันเป้นเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ที่แตกต่างออกไปจากประวัติศาสตร์ทั่งไปถึงความถูกต้องบันทึกว่าทั่วไป ซึ่งกำลังได้รับการถกเถียงจากนักประวัติศาสตร์ทั่วไปถึงความถูกต้องบันทึกว่า หลังจากยุคสมัยของดันกุน วังกอม แล้วกษัตริย์ที่สืบบัลลังก์เป็นโอรสของพระองค์คือ ดันกุน ปูรู ขึ้นสืบต่อในปี 1697 ก่อนพุทธศักราช ก่อนที่ดันกุน ปูรู จะขึ้นเป็นกษัตริย์ เคยได้รับสั่งจากพระบิดาให้เดินทางไปเมืองจีนเพื่อไปพบกับเซี่ยหยู ซึ่งในระหว่างนั้นกำลังแก้ปัญหาเรื่องน้ำท่วมให้กับพระเจ้าซุ่น ซึ่งเป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายในตำนาน 5 กษัตริย์ยุคโบราณของจีน และดันกุน ปูรู นี่เองเป็นผู้บอกวิธีการสร้างฝายทดน้ำให้แก่[[เซี่ยหยู]] เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน จนต่อมา[[เซี่ยหยู]]ได้รับสืบเป็นกษัตริย์ต้น[[ราชวงศ์เซี่ย]] ราชวงศ์แรกของ[[จีน]] ซึ่งหากยืนตามบันทึกแล้ว ก็ยังคงอิงกับตำนานเทพเจ้าเกาหลีเรื่อง พระเจ้าสร้างโลกด้วยเช่นกัน ยังกล่าวถึงยุคสมัยโกโชซอนว่ากษัตริย์สืบต่อกันถึง 45 พระองค์ จากปี 1790 ก่อนพุทธศักราช ถึงปี พ.ศ. 306
 
ในบันทึกประวัติศาสตร์ทางฝ่าย[[จีน]] ได้มีการกล่าวถึงเรื่องของ จี้เจื่อจื่อ ที่ในประวัติศาสตร์ฝ่ายเกาหลีเรียกว่า กีจา ได้เดินทางไปยังโกโชซอนในพ.ศ. 36 และยังได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ปกครองโกโชซอนต่อมาด้วยเช่นกัน ในประวัติศาสตร์[[จีน]]กล่าวถึง จี้จื่อ ว่าเป็นพระอาจารย์ของกษัตริย์ติ้ซิง กษัตริย์องค์สุดท้ายของ[[ราชวงศ์ซาง]]กษัตริย์พระองค์นี้เป็นกษัตริย์ทรราช จี้จือ ถูกจับคุมขังด้วยความไม่พอใจส่วนตัวของกษัตริย์ ต่อมาเมื่อ[[ราชวงศ์ซาง]]ล่มสลาย [[โจว อู๋หวัง]] ผู้โคนล้ม[[ราชวงศ์ซาง]]ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์พระองค์แรกแห่ง[[ราชวงศ์โจว]] จึงได้ปลดปล่อย จี้จือจื่อ ออกมา และเนรเทศออกจากแผ่นดิน[[จีน]] จี้จือจื่อ จึงได้พาคนจำนาน 5000 คน ออกจาก[[จีน]] เดินทางมุ่งหน้าขึ้นเหนือ จนกระทั่งมาสุดที่ดินแดนหนึ่งที่เรียกว่า เจ่าเซียน ซึ่งก็คือ โกโชซอน และด้วยความรู้ที่มีมากมาย จึงได้รับตำแหน่งเป็นขุนนางที่นั้น จี้จือจื่อ ได้เป็นผู้สอนให้ชาวโกโชซอนได้เรียนรู้กับวัฒนธรรมของชาว[[จีน]] กระทั่งต่อมา จี้จือจื่อ ได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ของชาวโกโชซอน เป็นต้นราชวงศ์ จี้จือจื่อ หรือ กีจาโจซอน
 
ในเรื่องของชาว[[จีน]]ที่ไปเป็นกษัตริย์ปกครองโกโชซอนนี้ปรากฏอยู่ใน[[ประวัติศาสตร์ของเกาหลี]]ในสองยุคสมัย จึงมักทำให้สับสนว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในยุคสมัยใดกันแน่ เหตุการณ์แรกคือเรื่องของ จี้จือจื่อ หรือ กีจา นี้เกิดในช่วงของโกโจโชซอนยุคกลาง ตรงกับยุคสมัย[[ราชวงศ์โจว]] แต่อีกเหตุการณ์หนึ่งนั้นเกิดขึ้นสมัยโกโจโชซอนยุคปลาย ซึ่งตรงกับยุคสมัย[[ราชวงศ์ฮั่น]]ของ[[จีน]] เหตุการณ์ครั้งหลังนี้ยังนำมาสู่การก่อตั้งอาณาจักรแห่งใหม่ขึ้นอีกแห่งทางตอนใต้ของ[[คาบสมุทรเกาหลี]] ในประวัติศาสตร์ช่วงหลังนี้กล่าวถึงขุนพลชาว[[จีน]]ผู้หนึ่งนามว่า [[เหว่ยมั่ง]] ในพ.ศ. 349 เหว่ยมั่งเป็นขุนพลจาก[[แคว้นเอี๋ยน]] ที่ลี้ภัยเข้าไปอยู่ในอาณาจักรโกโจซอนโชซอน แล้วเข้ารับใช้[[กษัตริย์จุน]] ที่ปกครองโกโจโชซอนในขณะนั้น
 
เหว่ยมั่ง ได้รับคำสั่งไปป้องกันเขตแดนทางด้านตะวันตก แต่เขากลับก่อฏบฎกบฎ นำกองทัพกลับมายึดอำนาจของกษัตริย์จุน และตั้งตนขึ้นเป็นกษัตริย์เสียเอง แล้วก่อตั้งราชวงศ์ใหม่ขึ้นปกครองโกโจซอนโชซอน ชื่อ [[เหว่ยมั่งโจซอน]] หลังจากถูกยึดอำนาจ กษัตริย์จุนกับทหารจำนวนหนึ่งหลบหนีลงไปทางใต้ และได้ตั้งอาณาจักรแห่งใหม่ ขึ้นตรงบริเวณ[[เมืองอิกซาน]] ใน[[จังหวัดเจียลลา]] [[เกาหลีใต้]]ปัจจุบัน โดยเรียกอาณาจักรใหม่แห่งนี้ว่า[[อาณาจักรฮัน]]
 
โกโจโชซอนในสมัยเหว่ยมั่งนี้มีการขยายอาณาเขตออกไปกว้างขวางขึ้นอีก และเพื่อป้องกันการถูกโจมตีจากจีนเหว่ยมั่งได้ผูกสัมพันธ์กับชน[[เผ่าซ่งหนู]] อันเป็นเผ่าเร่รอนที่อาศัยอยู่ใน[[แมนจูเรีย]]จากนั้นก็พยายามติดต่อกับแคว้นอื่นๆ ใน[[จีน]] ราชวงศ์ของเหว่ยมั่งสืบต่อมาจนกระทั่งถึง [[พ.ศ. 434]] ในสมัยของ[[หยูฉู่]] ซึ่งเป็นรุ่นหลานขึ้นมาเป็นกษัตริย์ปกครอง ในขณะนั้นจีนอยู่ในยุคสมัยของกษัตริย์ ฮั่นหวูตี้ [[พระเจ้าอั่นหวูตี้ฮั่นหวูตี้]]ได้นำกองทัพเข้าโจมตีโกโจซอนโชซอน สงครามดำเนินไปอยู่จนกระทั่งอีกปีต่อมา ในที่สุดเมืองหลวงวังกอมซองก็ถูกยึดโดยกองทัพ[[ราชวงศ์ฮั่น]] [[ราชวงศ์เหว่ยมั่ง]]จึงสิ้นสุดลงเพียงเท่านั้นพร้อมกับจุดสิ้นสุดของอาณาจักรโชซอนโบราณ ที่ต้องตกเป็นเมืองขึ้นครั้งแรกของ[[จีน]][[ราชวงศ์ฮั่น]] นับแต่ [[พ.ศ. 435]] [[ราชวงศ์ฮั่น]]ได้แบ่งอาณาจักรโชซอนโบราณออกเป็นสี่แคว้น คือ [[แคว้นนังนัง]] [[แคว้นจินฮัน]] [[แคว้นมาฮัน]] และ[[แคว้นพยอนฮัน]] แต่[[ราชวงศ์ฮั่น]]ได้ปกครองอย่างจริงจังเพียงแคว้นเดียวคือ [[แคว้นนังนัง]] เพราะเป็นแหล่งทรัพยากรที่สำคัญ ทำให้แคว้นอื่นๆ ค่อยๆแยกตัวออกไปอย่างอิสระในที่สุด