ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระคาร์ดินัล"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
GhalyBot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต เพิ่ม: arz:كاردينال
Suthummo (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1:
{{รอการตรวจสอบ}}
[[ไฟล์:kardinalcoa.png|200px|right|Cardinal coat of arms]]
'''คาร์ดินัล''' ([[ภาษาอังกฤษ|อังกฤษ]]: Cardinal) เป็น[[สมณศักดิ์]]ชั้นสูง รองจาก[[พระสันตะปาปา]] ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา[[พระสันตะปาปา]] ในการปกครอง[[พระศาสนจักรสากล]]. ตำแหน่งนี้ อาจเทียบเท่ากับ[[พระ]]ชั้น[[พระราชาคณะ]]ใน[[พุทธศาสนา]] หรือ[[วุฒิสมาชิก]]ในทางโลก. ในสมัยก่อน ตำแหน่งคาร์ดินัลมักเป็น[[ฆราวาส]], แต่นับตั้งแต่ตรา[[กฎหมายพระศาสนจักร]]ฉบับล่าสุด ([[ค.ศ. 1917]]-[[ค.ศ. 1983|1983]]) [[พระสงฆ์]]และ[[พระสังฆราช]]เท่านั้น ที่มีสิทธิ์เป็นพระคาร์ดินัลได้. หน้าที่พิเศษอย่างหนึ่งของพระคาร์ดินัลคือ เข้าร่วมประชุมลับเพื่อเลือก[[พระสันตะปาปา]]องค์ใหม่ แทนตำแหน่งที่ว่างลง และตนเองก็มีสิทธิ์ได้รับเลือกเป็น[[พระสันตะปาปา]]ได้
 
พระคาร์ดินัลอาจมีตำแหน่ง[[มุขนายก]]หรือ[[พระสังฆราช]] เป็นหัวหน้าปกครองคณะ[[บาทหลวง]] นักบวชชาย-หญิง และคริสต์ศาสนิกชน ในเขต[[สังฆมณฑล]]ที่ท่านเป็นผู้ปกครองด้วย
 
[[พระคาร์ดินัล ไมเคิล มีชัย กิจบุญชู]] ที่[[อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ]]เป็นพระคาร์ดินัลยาวนานมาก ตั้งแต่[[ค.ศ. 1983]]
บรรทัด 11:
คำว่า '''cardinal''' มาจากคำใน[[ภาษาลาติน]]ที่ใช้เรียกบานพับประตู (cardo)
 
ในพระ[[ศาสนจักร]]ยุคแรก ๆ เวลาที่คนคนหนึ่งบวชเป็น[[บาทหลวง]] ท่านผู้นั้นจะต้องอยู่ในตำแหน่งเดิมจนกว่าชีวิตจะหาไม่ และหากบาทหลวงท่านใดท่านหนึ่ง ได้รับการแต่งตั้งให้ไปดำรงตำแหน่งอื่น ก็เปรียบเสมือนว่าเป็นการแซะเอาบาทหลวงท่านนั้น ออกจากประตูบานเดิม (ตำแหน่งเดิม) ไปขันนอตติดกับประตูบานใหม่ (ตำแหน่งใหม่) โดยใน[[ภาษาอังกฤษ]]ใช้การเปลี่ยนตำแหน่งในกรณีนี้ว่า '''"incardinated"''' ซึ่งก็มาจากรากศัพท์ในภาษาลาตินว่า '''"cardo"''' ซึ่งแปลว่าบานพับประตู
 
การใช้คำดังกล่าวเป็นที่นิยมแพร่หลายในพระ[[ศาสนจักร]]ยุคแรก ๆ จนต่อมาในรัชสมัยของ[[พระสันตะปาปา เกรกอรี่มหาราช]] ([[Pope Gregory the Great 590-604]]) ได้มีการบัญญัติคำศัพท์ดังกล่าวเป็นคำศัพท์เฉพาะใน[[กฎหมายพระศาสนจักร]]
ในยุคนั้นบาทหลวงบางท่านมีความสามารถเฉพาะตัวสูง จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วย[[พระสังฆราช]] (และกลายเป็น "คาร์ดินัล" แทนที่จะเป็นบาทหลวงผู้ดำรงตำแหน่งปกติ) และในบางกรณี บาทหลวงบางท่านก็ได้รับการแต่งตั้งให้ประกอบพิธีกรรมอยู่ตาม[[สักการสถาน]]โบราณหลาย ๆ แห่งในกรุงโรม เช่น [[มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์]] , [[มหาวิหารเซ็นต์ปอล]], [[มหาวิหารมารีย์ มาจีโอร่า]] และ[[มหาวิหารเซ็นต์จอห์น ละเตอรัน]] ฯลฯ เป็นต้น และเนื่องจากภารกิจดังกล่าว มีวาระการแต่งตั้งเป็นการชั่วคราว จึงเรียกท่านเหล่านั้นว่า '''"คาร์ดินัล"''' และนี่คือที่มาของคำว่า '''"คาร์ดินัลสงฆ์"''' ในปัจจุบัน (คาร์ดินัลที่มีศักดิ์เทียบเท่าพระสงฆ์ - '''"cardinal presbyters"''')
 
ส่วนบรรดา[[พระสังฆราช]]ที่ประจำตามเมืองต่าง ๆ รอบ ๆ กรุงโรมในยุคนั้น ต่างก็ผลัดเปลี่ยนกันประกอบพิธีในมหาวิหารละเตอรัน ซึ่งเป็นอาสนวิหารประจำกรุงโรม และถึงแม้ว่าท่านเหล่านั้นจะดำรงตำแหน่งประจำเป็น[[สังฆราช]]ในสังฆมณฑลของตน แต่ท่านก็ได้กลายเป็น "คาร์ดินัล" ในขณะที่ท่านประกอบพิธีใน[[มหาวิหาร]]ดังกล่าว และ[[พระสันตะปาปา]]ก็ได้ให้ความสำคัญต่อบรรดาพระคาร์ดินัลเหล่านั้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยการปรึกษากิจการงานของพระศาสนจักรอยู่เป็นประจำ
 
นี่คือที่มาของคำว่า '''"คาร์ดินัลสังฆราช"''' (คาร์ดินัลที่ศักดิ์เทียบเท่าพระสังฆราช - '''"cardinal bishops"''') ซึ่งดำรงตำแหน่งสังฆราชประจำสังฆมณฑลเจ็ดแห่งรอบ ๆ กรุงโรมในปัจจุบัน
บรรทัด 25:
ความสำคัญของท่านเหล่านั้นในการช่วยเหลือผู้ยากไร้คือที่มาของคำว่า '''"คาร์ดินัลสังฆานุกร"''' ในปัจจุบัน (คาร์ดินัลที่มีศักดิ์เทียบเท่าสังฆานุกร '''"cardinal deacons"''')
บรรดาพระคาร์ดินัลต่าง ๆ ดังกล่าวข้างต้น ได้เริ่มทวีความสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในการช่วย[[พระสันตะปาปา]]ปฏิบัติภารกิจในฐานะพระสังฆราชแห่งกรุงโรม และในฐานะประมุขของสภาพระสังฆราชทั่วโลก รวมทั้งการเป็นผู้แทนของพระองค์ในการปฏิบัติภารกิจพิเศษต่าง ๆ และการเป็นผู้แทน[[พระสันตะปาปา]]ในการประชุมสังคายนาต่าง ๆ ด้วย
 
[[พระสันตะปาปา]]หลายองค์ในคริสต์ศตวรรษที่ 11 ได้ทำการแต่งตั้งบุคคลากรหลาย ๆ ท่านให้มาช่วยในการปฏิบัติภารกิจของพระองค์ที่กรุงโรม โดยทรงแต่งตั้งให้ท่านเหล่านั้นปกครองวิหารต่าง ๆ ในกรุงโรม โดยไม่ต้องไปประกอบพิธีกรรมเป็นประจำทุกวันตามวิหารเหล่านั้น บุคลากรที่ได้รับการแต่งตั้งดังกล่าวจึงดำรงตำแหน่ง "คาร์ดินัล" ไปด้วยและมีบทบาทสำคัญในการอภิบาลสัตบุรุษในกรุงโรม และในการฟื้นฟูชีวิตฝ่ายจิตของบรรดาคริสตชนในพระศาสนจักรทั่วโลก
ยุคทองของสถาบันคาร์ดินัลมีจุดเริ่มต้นจาก[[พระราชโองการ]]ของ[[พระสันตะปาปานิโคลาสที่สองส]]ที่สอง เกี่ยวกับการเลือกตั้ง[[พระสันตะปาปา]] ซึ่งประกาศใช้ในปี [[ค.ศ. 1059]] ซึ่งกำหนดให้คาร์ดินัลสังฆราช คาร์ดินัลสงฆ์ และคาร์ดินัลสังฆานุกร มีบทบาทสำคัญในการเลือกตั้งพระสันตะปาปาแทนตำแหน่งที่ว่างลง โดยที่[[พระสมณะ]] ([[clergy]]) อื่น ๆ และบรรดา[[สัตบุรุษ]]มีบทบาทเพียงการให้[[สัตยาบัน]]ต่อผลของการเลือกตั้งเท่านั้น
 
ต่อมาในปี [[ค.ศ. 1179]] [[สังคายนา]]แห่งละเตอรันครั้งที่สาม ได้มีมติให้สถาบันคาร์ดินัลสามารถเลือกตั้ง[[พระสันตะปาปา]]แทนตำแหน่งที่ว่างลงได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องได้รับสัตยาบันจากพระสมณะอื่น ๆ และบรรดา[[สัตบุรุษ]]
 
[[หมวดหมู่:พระคาร์ดินัล]]