ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ก้าน แก้วสุพรรณ"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 4:
 
== ประวัติ ==
ก้าน แก้วสุพรรณ มีชื่อจริงว่า มงคล หอมระรื่น มีชื่อเล่นว่า แดง เป็นชาว อ.สามชุก จังหวัด สุพรรณบุรี ครอบครัวมีฐานะยากจนจึงถูกนำมาฝากเลี้ยงและต่อมาก็ได้เป็นบุตรบุญธรรมของพระครูสุนทรานุกิจ(หลวงพ่อวัดสามชุก)เพื่อให้มีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียนหลังจบการศึกษาชั้น ป.4 หลวงพ่อต้องการส่ง ก้าน แก้วสุพรรณ มาศึกษาต่อที่ กรุงเทพฯ โดยให้มาอยู่ที่วัดปรินายก ย่านสะพานผ่านฟ้า แต่การที่จะมาอยู่ที่นี่ได้เขาจะต้องบวชเป็นสามเณรเสียก่อนเพียงในวัย 10 ปี ก้าน แก้วสุพรรณ จึงได้บวชเป็นสามเณรและศึกษาพระธรรมจนจบนักธรรมตรีเมื่ออายุ 17 ปี จากนั้นก็ถูกส่งมาสอบนักธรรมโทที่ กรุงเทพฯ โดยมาอยู่ที่วัดปรินายก หลังบวชอยู่ได้ไม่นาน ก้าน แก้วสุพรรณ ต้องการออกหางานทำ เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว จึงสึกออกมาและมาทำงานเป็นกระเป๋ารถเมล์บริษัท รสพ. ประจำอยู่ที่อู่ศรีนครแต่ก็ทำได้ไม่นานเพราะทนกับการถูกรังแกของอันธพาลไม่ไหวจึงตัดสินใจกลับบ้านที่สุพรรณบุรี แต่หลังจากที่อยู่บ้านไม่นานเขาก็ตัดสินใจกลับเข้ากรุงเทพฯอีกครั้งโดยคราวนี้เข้ามาทำงานเป็นนักมวยตระเวนชกตามงานต่างๆในยุคนั้นใกล้ๆกับสังเวียนมวยที่เขาไปตระเวนขึ้นชกมักมีเวทีให้ประชันน้ำเสียงด้วยหลังชกมวยเสร็จ ก้าน แก้วสุพรรณ และเพื่อนก็มักมาเที่ยวตามเวทีประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง และเขาก็มักถูกเพื่อนๆผลักดันให้ขึ้นประกวดแบบจำใจเมื่อเพื่อนๆแอบมาลงชื่อสมัครไว้ก่อนแล้วเมื่อถูกโฆษกเรียกก็ต้องขึ้นไปแต่เขาก็สามารถคว้าชัยชนะและรางวัลมาครองได้หลายเวทีคและเมื่อเห็นว่าการร้องเพลงดีกว่าการชกมวยที่ไม่ต้องเหนื่อยและเจ็บตัว ก้าน แก้วสุพรรณ ก็จึงตระเวนประกวดร้องเพลงไปเรื่อยๆจนถูกกรรมการขอร้องไม่ให้เข้าประกวดเขาจึงถูกแมวมองมาทาบทามให้ไปเป็นนักร้องบันทึกแผ่นแต่หลังจากที่ถูกพาไปพบกับ บังเละ วงค์อาบู และ คำรณ สัมบุญนานนท์ และถูกปฏิเสธกลับมา ก้าน แก้วสุพรรณ
 
ก้าน แก้วสุพรรณ มีชื่อจริงว่า มงคล หอมระรื่น มีชื่อเล่นว่า แดง เป็นชาว อ.[[สามชุก]] จ. [[สุพรรณบุรี]] ครอบครัวมีฐานะยากจน จึงถูกนำมาฝาก และต่อมาก็ได้เป็นบุตรบุญธรรมของ พระครูสุนทรานุกิจ (หลวงพ่อวัดสามชุก ) เพื่อให้มีโอกาสได้ศึกษาเล่าเรียน หลังจบการศึกษาชั้น ป.4 หลวงพ่อต้องการส่ง ก้าน แก้วสุพรรณมาศึกษาต่อที่ กรุงเทพฯ โดยให้มาอยู่ที่วัดปรินายก ย่านสะพานผ่านฟ้า แต่การที่จะมาอยู่ที่นี่ได้ เขาจะต้องบวชเป็นสามเณรเสียก่อน ในวัย 10 กว่าขวบ ก้าน แก้วสุพรรณจึงได้บวชเป็นสามเณร และศึกษาพระธรรมจนจบนักธรรมตรีเมื่ออายุ 17 จากนั้นก็ถูกส่งมาสอบนักธรรมโทที่กรุงเทพ โดยมาอยู่ที่วัดปรินายก
 
หลังบวชอยู่ได้ไม่นาน ก้าน แก้วสุพรรณ ต้องการออกหางานทำ เพื่อหารายได้จุนเจือครอบครัว จึงสึกออกมาและมาทำงานเป็นกระเป๋ารถเมล์บริษัท รสพ. ประจำอยู่ที่อู่ศรีนคร แต่ก็ทำได้ไม่นาน เพราะทนกับการถูกรังแกของอันธพาลไม่ไหว จึงตัดสินใจกลับบ้านที่สุพรรณบุรี แต่หลังจากที่อยู่บ้านไม่นาน เขาก็ตัดสินใจกลับเข้ากรุงเทพฯอีกครั้ง โดยคราวนี้เข้ามาทำงานเป็นนักมวย ตระเวนชกตามงานต่างๆ
 
ในยุคนั้น ใกล้ๆกับสังเวียนมวยที่เขาไปตระเวนขึ้นชกมักมีเวทีให้ประชันน้ำเสียงด้วย หลังชกมวยเสร็จ ก้าน แก้วสุพรรณและเพื่อนก็มักมาเที่ยวตามเวทีประกวดร้องเพลง และเขาก็มักถูกเพื่อนๆผลักดันให้ขึ้นประกวดแบบจำใจ เมื่อเพื่อนๆแอบมาลงชื่อสมัครไว้ก่อนแล้ว เมื่อถูกโฆษกเรียก ก็ต้องขึ้นไป แต่เขาก็สามารถคว้าชัยชนะและรางวัลมาครองได้หลายครั้ง และเมื่อเห็นว่า การร้องเพลงดีกว่าการชกมวยที่ไม่ต้องเหนื่อยและเจ็บตัว ก้าน แก้วสุพรรณ ก็จึงตระเวนร้องเพลงประกวดไปเรื่อย จนถูกกรรมการขอร้องไม่ให้เข้าประกวด เขาจึงถูกแมวมองมาทาบทามให้ไปเป็นนักร้องบันทึกแผ่น
 
แต่หลังจากที่ถูกพาไปพบกับ [[บังเละ วงค์อาบู]] และ คำรณ สัมบุญนานนท์ และถูกปฏิเสธกลับมา ก้าน แก้วสุพรรณ เริ่มสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง
 
 
== เข้าสู่วงการ ==