ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ภาษามัลดีฟส์"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
VolkovBot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต เพิ่ม: el:Ντιβέχι (γλώσσα)
Saeng Petchchai (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 13:
'''ภาษาดิเวฮิ''' (Divehi) เป็น[[ภาษากลุ่มอินโด-อารยัน]]และเป็นภาษาราชการของสาธารณรัฐ[[ประเทศมัลดีฟส์|มัลดีฟส์]] มีคนพูดประมาณ 300,000 คน ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในมัลดีฟส์ รวมทั้ง[[ภาษามาห์ล]] (Mahl dialect)ที่ใช้ใน[[ลักษทวีป]] ซึ่งเป็นดินแดนสหภาพของอินเดีย เรียกชื่อต่างกันด้วยเหตุผลทางการเมือง ภาษาที่มีอิทธิพลต่อการพัฒนาของภาษาดิเวฮิมีหลายภาษา โดยเฉพาะ[[ภาษาอาหรับ]] ที่เข้ามาพร้อมกับ[[ศาสนาอิสลาม]] รวมทั้ง [[ภาษาสิงหล]] [[ภาษามาลายาลัม]] [[ภาษาฮินดี]] [[ภาษาฝรั่งเศส]] [[ภาษาเปอร์เซีย]] [[ภาษาโปรตุเกส]] และ [[ภาษาอังกฤษ]] คาดว่าภาษาดิเวฮิและภาษาสิงหลสืบมาจากภาษาเดียวกัน ซึ่งได้สูญพันธุ์ไป เมื่อเกิดภาษาใหม่ 2 ภาษาในช่วงประมาณ พ.ศ. 43
 
ผู้ศึกษาภาษานี้เป็นคนแรกคือ H. C. P. Bell เขาตั้งชื่อภาษานี้ว่า Divehi มาจาก –dives ของชื่อประเทศคือ Maldives คำว่าดิเวฮินี้มีรากศัพท์มาจากคำเดียวกับทวีป (dvīp) ซึ่งหมายถึง[[เกาะ]]ใน[[ภาษาสันสกฤต]] นักภาษาศาสตร์ที่ทำวิจัยเกี่ยวกับภาษาดิเวฮิเป็นคนแรกคือ Wilhelm Geiger ชาวเยอรมัน
==สำเนียงและระดับชั้นของภาษา==
เนื่องจากเกาะอยู่ไกลกันมาก จึงเกิดความต่างกันในการออกเสียงและคำศัพท์ โดยเฉพาะระหว่างเกาะตอนเหนือและตอนใต้ คนใน[[มาเล่]] (Malé) ไม่สามารถเข้าใจภาษาย่อยที่ใช้ในหมู่เกาะ[[อัดดุ]] (Addu) ได้
 
== จุดกำเนิด ==
 
ภาษาดิเวฮิเป็นภาษากลุ่มอินโด-อารยันใกล้เคียงกับภาษาสิงหลใน[[ประเทศศรีลังกา]] จัดเป็นภาษากลุ่มอินโด-อารยันที่อยู่ใต้สุด ภาษาดิเวฮิมีลักษณะเฉพาะเช่นเดียวกับภาษาสิงหล ซึ่งเรียกรวมกันว่าภาษาอินโด-อารยันหมู่เกาะ
 
ในช่วงแรกเชื่อว่าภาษาดิเวฮิเป็นลูกหลานของภาษาสิงหล ใน พ.ศ. 2512 M. W. S. de Silva เสนอว่าภาษาสิงหลและภาษาดิเวฮิแตกแขนงออกมาจากภาษาแม่ที่เป็น[[ภาษาปรากฤต]] [[ภาษากลุ่มดราวิเดียน]]มีอิทธิพลต่อภาษาดิเวฮิโดยเฉพาะชื่อโบราณ ทฤษฎีของ De Silva ได้รับการสนับสนุนจากตำนานของเจ้าชายวิชัยที่อพยพจาก[[อินเดีย]]ยังศรีลังกาและแผ่อิทธิพลไปถึงมัลดีฟส์
 
== ความหลากหลายของภาษา ==
 
เมื่อภาษาได้แพร่ไปตลอดหมู่เกาะได้เกิดความแตกต่างทางด้านคำศัพท์ และการออกเสียงขึ้น เนื่องจากเกาะอยู่ไกลกันมาก โดยเฉพาะระหว่างเกาะตอนเหนือและตอนใต้ คนใน[[มาเล่]] (Malé) ไม่สามารถเข้าใจภาษาย่อยที่ใช้ในหมู่เกาะ[[อัดดุ]] (Addu) ได้สำเนียงมาตรฐานคือสำเนียงมาเล่ที่ใช้พูดในเมืองหลวง สำเนียงที่สำคัญของภาษานี้มักพบทางตอนใต้ได้แก่ ฮูวาดุ ฟูอะ มูลากุ และอัดดุ มีเฉพาะสำเนียงมาเล่และสำเนียงมาลิกุเท่านั้นที่ใช้ในการเขียน สำเนียงอื่นใช้เฉพาะการพูดและการร้องเพลง
 
สำเนียงโมโลกิที่ใช้พูดใน[[เกาะฟุวะห์มุละห์]]ต่างจากสำเนียงมาเล่ที่มีเสียง 'l' เป็นตัวสะกด (ލް) มีเสียง 'o' ท้ายคำ แทนที่เสียง 'u' เช่น 'fannu' กลายเป็น 'fanno'
อักษร[[นะวิยะนิ]] ([[ޱ]]) ซึ่งใช้แทนเสียงม้วนลิ้นของ "n" พบมากในภาษาในอินเดีย เช่นภาษาสิงหล [[ภาษาคุชราต]] [[ภาษาฮินดี]] ถูกตัดออกจากการเขียนมาตรฐานของภาษาดิเวฮิ เมื่อ พ.ศ. 2493 ปัจจุบันจะพบได้เฉพาะในเอกสารโบราณหรือการเขียนของสำเนียงอัดดุ
 
==สำเนียงและระดับชั้นของภาษา==
ภาษาดิเวฮิมีการแบ่งระดับชั้นของภาษาชัดเจนโดยมีระดับของภาษา 3 ระดับ คือ ระดับแรก ''รีทิ บัส'' (reethi bas) หรือ ''อาเธ-วดัยเนฟวุน'' (aadhe-vadainevvun) ในอดีตใช้ติดต่อกับชนชั้นสูงและราชวงศ์ แต่ปัจจุบันใช้ในวิทยุโทรทัศน์ ในการแสดงความเคารพต่อผู้สูงอายุ เจ้าหน้าที่ และคนแปลกหน้า จะใช้ระดับที่ 2 คือ ''ลับบา-ธุรุวุน'' (labba-dhuruvun) คนส่วนใหญ่ใช้ระดับที่ 3 ที่เป็นระดับกันเองในชีวิตประจำวัน
==ระบบการเขียน==