ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คมชัดลึก (หนังสือพิมพ์)"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: ถูกย้อนกลับแล้ว แก้ไขจากอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขจากเว็บสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่
บรรทัด 6:
'''คมชัดลึก''' เป็น[[หนังสือพิมพ์]]รายวัน เสนอข่าวทั่วไป ของ บริษัท คมชัดลึก มีเดีย จำกัด ของเครือ[[เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป]]ก่อตั้งเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2544 มี เฉลียว คงตุก เป็นบรรณาธิการ มีคอลัมนิสต์ประจำในเครือคือ [[สุทธิชัย หยุ่น]] (เจ้าของคอลัมน์ คิดนอกกรอบ) [[โสภณ องค์การณ์]] (เจ้าของคอลัมน์ เล่นนอกสภา ตีพิมพ์ทุกวันพุธ และเกาที่คัน ตีพิมพ์ทุกวันเสาร์) นอกจากนี้ยังมีคอลัมนิสต์รับเชิญ เช่น [[คุณหญิง พ.ญ.พรทิพย์ โรจนสุนันท์]] [[พล.อ.บัญชร ชวาญศิลป์]] [[กวี จงกิจถาวร]] [[สุจินต์ จันทร์นวล]] [[นันทขว้าง สิรสุนทร]] [[เจนนิเฟอร์ คิ้ม]]
ปัจจุบันคมชัดลึกได้ยุติการผลิตและจำหน่ายหนังสือพิมพ์ไปแล้ว โดยฉบับสุดท้ายคือฉบับวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2563 และเหลือเพียงแค่การเผยแพร่ข่าวผ่านทางเว็บไซต์เพียงอย่างเดียว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2563<ref>[http://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000036080 ปิดฉากเพราะโควิด! “คมชัดลึก” ฉบับสุดท้าย เลิกจ้าง พนง.ซับน้ำตา 10 เดือน]</ref>
 
== ประวัติ ==
ในเช้าวันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2544 หนังสือพิมพ์คมชัดลึกฉบับปฐมฤกษ์ ออกวางแผงเป็นรายวัน "ความแตกต่างอย่างสร้างสรรค์" โดยเน้นความรับผิดชอบต่อสังคม แฝงด้วยสาระ ปลอดสารพิษ เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว ความแตกต่างสร้างสรรค์สะท้อนผ่านเนื้อหาและนวัตกรรมต่างๆ ที่คมชัดลึกริเริ่มสร้างสรรค์ขึ้นในตลาดหนังสือพิมพ์หัวสี อาทิ คู่มือวันหยุดทุกวันพฤหัสและเสาร์ รวมถึงรูปแบบการโฆษณาแบบใหม่ๆ เป็นต้น เป็นทางเลือกที่แตกต่างสำหรับผู้อ่าน ด้วยเนื้อหาที่มีคุณภาพทำให้เป็นที่ยอมรับของคนทั่วประเทศในเวลาอันรวดเร็ว พร้อมกับขึ้นเป็นหนังสือพิมพ์ที่มียอดขายมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศภายหลังการเปิดตัวไม่นาน และในปี พ.ศ. 2548 หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ได้รับรางวัล "หนังสือพิมพ์ยอดเยี่ยมประจำปี 2005" ในงานประชุมหนังสือพิมพ์โลก (World Association of Newspapers หรือ WAN) ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลี ในฐานะที่สามารถผสานความเป็นเลิศในด้านต่างๆ ทำให้ได้รับการยอมรับและขึ้นเป็นหนังสือพิมพ์อันดับ 3 ของประเทศภายในเวลาอันรวดเร็ว
 
* เมื่อเดือนมิถุนายน (พ.ศ. 2560) เนชั่นจะปิดหนังสือพิมพ์ ‘คมชัดลึก’ และขายช่อง ‘Now 26’ข่าวหลุด ข่าวลือ หรือข่าวจริง ยังไม่มีการยืนยันจากทางต้นสังกัด เพราะข่าวนี้มีที่มาจากเฟซบุ๊ก Sompop Lee หรือ สมภพ รัตนวลี ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวของเวิร์คพอยท์ (บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน)) อดีตพนักงานเนชั่น ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งบรรณาธิการบริหารสถานีโทรทัศน์เนชั่นแชนแนล เนชั่นจะปิดหนังสือพิมพ์ ‘คมชัดลึก’ และขายช่อง ‘Now 26’ข่าวหลุด ข่าวลือ หรือข่าวจริง ยังไม่มีการยืนยันจากทางต้นสังกัด เพราะข่าวนี้มีที่มาจากเฟซบุ๊ก Sompop Lee หรือ สมภพ รัตนวลี ผู้อำนวยการฝ่ายข่าวของเวิร์คพอยท์ (บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน)) อดีตพนักงานเนชั่น ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งบรรณาธิการบริหารสถานีโทรทัศน์เนชั่นแชนแนลหลังจบการประชุมเมื่อวาน (14 มิ.ย.) การ ER (Early Retirement หรือการลาออกโดยสมัครใจ) รอบที่ 3 กำลังจะเริ่มขึ้น (ก่อนหน้านี้มี ER มาแล้ว 2 รอบ) ฝ่ายบริหารมีเป้าลดพนักงาน 543 คน (เนชั่นทีวี 400 คน + Now 26 ทีวี 143 คน) ให้เหลือ 300 คน และขายช่อง Now 26 ให้กลุ่มบีทีเอสเข้ามาบริหารเต็มตัว ขณะที่หนังสือพิมพ์ ‘คมชัดลึก’ ซึ่งเตรียมปิด จะลดพนักงานจำนวน 54 คน โดยให้ออก 30 คน ส่วนคนที่เหลือ 24 คน จะสลับไปทำงานส่วนอื่นในเครือ<ref>[http://thestandard.co/news-thailand-komchadluek-will-closedown/ อ่านปรากฏการณ์สื่อผ่านข่าวลือ ‘คมชัดลึก’ จะปิดตัว]</ref>
 
* เมื่อเดือนสิงหาคม (พ.ศ. 2560) "คม ชัด ลึก" ถือกำเนิดขึ้นบนแผงหนังสือพิมพ์รายวัน ตลอดระยะเวลาร่วม 16 ปีที่สื่อสิ่งพิมพ์เล่มนี้ยืนหยัดอยู่ได้ ก็ด้วยแรงสนับสนุนอย่างเหนียวแน่นจากท่านผู้อ่าน ที่มอบความเชื่อถือ ความไว้วางใจ ให้พวกเราได้ทำหน้าที่ได้สมบูรณ์ในจริยธรรมเต็มความสามารถ อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบกันดีว่า พื้นที่ข่าวสารทุกวันนี้ได้ขยายกว้างไกลออกไปเท่าที่ปลายนิ้วสัมผัสของผู้คนในโลกโซเชียลมีเดียจะนำพา ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ เปรียบดังสึนามิ ที่ถาโถมเข้าใส่อุตสาหกรรมสื่อสิ่งพิมพ์ทั้งระบบ อันเป็นพลวัตที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงหนีหายไปได้ นอกจากการปรับตัว ความเปลี่ยนแปลงล่าสุด ที่เราปรารถนาว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย เริ่มจากหนังสือพิมพ์ "คม ชัด ลึก" ฉบับวางจำหน่าย ตีพิมพ์ฉบับวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 5-6 สิงหาคม 2560 เป็นต้นไป ทั้งหมดนั้น เรามั่นใจว่า จะสามารถหยัดยืนอยู่ เพื่อนำเสนอนานาสาระอันทรงคุณค่าไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าตลอดร่วม 16 ปีที่ผ่านมา แม้ว่า ในเชิงธุรกิจ จำเป็นต้องกระชับพื้นที่ เพื่อความเหมาะสมกับสถานการณ์ หากแต่ทุกเรื่องราวนับจากนี้ เราเชื่อว่า จะเสริมเติมเต็มให้แก่ท่านผู้อ่านที่ให้ความเมตตากับเราเสมอมามากยิ่งขึ้น<ref>[http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/767393 'คม ชัด ลึก' ยังอยู่คู่ผู้อ่าน]</ref>
 
* เมื่อเดือนเมษายน (พ.ศ. 2563) เครือเนชั่นยุบกอง บก.คมชัดลึก - เนชั่นสุดสัปดาห์ พร้อมเลิกจ้างพนักงานสองกอง บก.ในปริมาณร้อยละ 50 ขณะที่ นสพ.คมชัดลึก ตีพิมพ์ถึง 15 เม.ย.นี้ โดยก่อนหน้านี้ผู้บริหารเนชั่นสั่งบริษัทในเครือใช้ดุลยพินิจเลิกจ้างพนักงานได้ รายงานข่าวจากบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)ระบุว่าในวันนี้ (2 เม.ย. 2563 ) มีการประชุมผู้บริหารภายในเครือ โดยเห็นชอบให้ยุบกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คมชัดลึก และกองบรรณาธิการเนชั่นสุดสัปดาห์ โดยทั้งสองเครือนี้อยู่ภายใต้สังกัดบริษัท คมชัดลึก มีเดีย จำกัด พร้อมทั้งเลิกจ้างพนักงานในสังกัดบริษัทคมชัดลึก มีเดีย จำกัด จำนวนร้อยละ 50 โดยพนักงานที่ถูกเลิกจ้างจะได้รับเงินชดเชยตามกฎหมาย ซึ่งจะมีผลการเลิกจ้างเป็นพนักงานในวันที่ 30 เม.ย.นี้ ขณะที่หนังสือพิมพ์คมชัดลึกจะตีพิมพ์จนถึงวันที่ 15 เม.ย. นี้ ส่วนเว็บไซต์คมชัดลึก และเว็บไซต์เนชั่นสุดสัปดาห์จะให้มาอยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือเนชั่นทีวี "บริษัทในเครือเนชั่น บริษัทไหนไม่มีกำไรก็จะไม่ได้ไปต่อ โดยจะให้ตัดต้นทุนออกจนเหลือบริษัทที่ทำรายได้ให้กับบริษัทเท่านั้น ซึ่งการเลิกจ้างพนักงานที่เกิดขึ้นนั้นมีผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19" พนักงานบริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด ซึ่งถูกเลิกจ้างอย่างกะทันหัน ระบุกับ 'วอยซ์ออนไลน์'
ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหารบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)ได้ออกประกาศเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2563 เรื่องมาตรการรองรับผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยระบุตอนหนึ่งว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไม่อาจคาดหมายได้ว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อใด เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศและการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ อย่างรุนแรงโดยที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถประกอบกิจการได้ตามปกติ ดังนั้น เพื่อให้บริษัทฯ สามารถอยู่รอดต่อไปได้ภายใต้สภาวะวิกฤตเช่นนี้ บริษัทฯ มีความจำเป็นอย่างยิ่งจะต้องกำหนดมาตรการเพื่อลดผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในครั้งนี้โดยเร่งด่วน โดยมอบหมายให้ผู้บริหารสูงสุดของแต่ละหน่วยธุรกิจนำมาตรการต่างๆ ไปปรับใช้ตามความจำเป็นและเหมาะสม ดังต่อไปนี้ 1.พิจารณาปรับลดเงินเดือนพนักงานทุกคนของแต่ละหน่วยธุรกิจ 2.ให้พนักงานลางานโดยไม่รับเงินค่าจ้าง เป็นการชั่วคราว โดยพิจารณาค่าจ้างตามวันที่ปฏิบัติงานจริง 3.ให้ทุกหน่วยธุรกิจบริหารจัดการกำลังคนและปฏิบัติงานในเวลาทำงานปกติให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ให้มีการทำงานล่วงเวลา 4.ยกเลิกสวัสดิการต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและการปฏิบัติงานโดยตรง เช่น ค่ารักษาพยาบาลของสมาชิกในครอบครัวของพนักงาน ค่าทันตกรรมของขวัญบุตร ของขวัญสมรส ทุนช่วยเหลือการศึกษาบุตรของพนักงาน เป็นต้น 5.ยกเลิกค่าตอบแทนอื่นที่นอกเหนือจากเงินเดือนประจำ เช่น ค่าพาหนะ ค่าโทรศัพท์ ค่าตำแหน่ง ค่าประสบการณ์ เป็นต้น "ให้ผู้บริหารสูงสุดของแต่ละหน่วยธุรกิจนำมาตรการในข้อ 1-3 ไปปรับใช้กับหน่วยธุรกิจที่ตนเองรับผิดชอบตามความจำเป็นและเหมาะสม ส่วนมาตรการในข้อ 4-5 ให้มีผลบังคับใช้ทุกหน่วยธุรกิจ อนึ่ง หากมีความจำเป็นอันไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ให้ผู้บริหารสูงสุดของแต่ละหน่วยธุรกิจสามารถใช้ดุลยพินิจเลิกจ้างพนักงานได้ โดยมอบหมายให้ผู้บริหารสูงสุดของแต่ละหน่วยธุรกิจจัดทำแผนการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวสำหรับหน่วยธุรกิจที่ตนเองรับผิดชอบและนำเสนอต่อประธานกรรมการบริหารเพื่อพิจารณาอนุมัติโดยเร็วที่สุด เพื่อให้มาตรการเหล่านี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2563 เป็นต้นไป"<ref>[http://voicetv.co.th/read/R8pinv3mH พิษโควิด-19 'เนชั่น' ทุบโต๊ะโละพนักงาน-ยุบคมชัดลึก-เนชั่นสุดสัปดาห์]</ref>เฟซบุ๊ก คมชัดลึก ได้โพสต์เผยแพร่บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ ปีที่ 19 ฉบับที่ 6605 ลงวันพุธที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2563 ได้ตีพิมพ์ประกาศยุติการพิมพ์หนังสือพิมพ์คมชัดลึก มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยระบุว่า "กองบรรณาธิการ นสพ.คมชัดลึก ขอเรียนให้ทราบว่า เราจะยุติการพิมพ์ นสพ.คมชัดลึก ซึ่งฉบับ วันที่ 8 เมษายน 2563 เป็นฉบับสุดท้าย เป็นที่ทราบดีว่า ในห้วง 5 ปีที่ผ่านมา พฤติกรรมของผู้บริโภคข้อมูลข่าวสารได้เปลี่ยนแปลงไป สื่อสิ่งพิมพ์ได้รับความนิยมน้อยลง ประชาชนหันไปบริโภคข่าวสารผ่านสื่อดิจิทัล สื่อทางเลือกและสื่อโซเชียลแทน ดังนั้นด้วยพฤติกรรมดังกล่าว ทำให้สื่อสิ่งพิมพ์ที่เป็นสื่อหลักได้รับผลกระทบ อันเนื่องมาจากธุรกิจโฆษณาได้เปลี่ยนแปลงไปตามพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้ต้นทุนในการผลิตหนังสือพิมพ์สูงขึ้น ขณะที่รายได้จากโฆษณาถูกแบ่งถูกแชร์ไปยังสื่ออื่น นสพ.คมชัดลึกก็เช่นเดียวกัน เราได้รับทราบความเปลี่ยนแปลงนี้มาเป็นเวลานาน เราจึงให้กองบรรณาธิการคมชัดลึกเป็นองค์กรนำร่องในการทรานส์ฟอร์มไปสู่สื่อดิจิทัล โดยเราตั้งเป้าหมายไว้ว่าเราจะทรานส์ฟอร์มสื่อกระดาษหรือออฟไลน์ไปสู่สื่อดิจิทัล หรือออนไลน์ 100% ภายในกลางปีนี้ ซึ่งกระบวนการทุกอย่างเดินหน้าไปด้วยความเรียบร้อย ปัจจุบัน คมชัดลึก ออนไลน์ ได้รับความนิยมจากนักบริโภคข่าวสาร ที่เข้าไปในเว็บและผ่านช่องทางโซเชียล เดือนละประมาณ 23 ล้านเพจวิว เราจึงได้วางแผนในการพัฒนาเพื่อการทรานส์ฟอร์ม นสพ.คมชัดลึก ไปสู่ คมชัดลึก ออนไลน์ แบบเต็มรูปแบบแต่เนื่องจากสถานการณ์ที่เกิดจากปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นสถานการณ์ที่นอกเหนือจากการวางแผน และเป็นสถานการณ์ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนอ่าน และธุรกิจโฆษณา เดิมคนอ่านหนังสือพิมพ์น้อยลงเรื่อยๆ แต่เมื่อโควิดเข้ามา ทำให้แผงหนังสือปิด คนอ่านไม่กล้าเดินไปซื้อหนังสือ นี่คือตัวเร่งอีกปัจจัยหนึ่ง โดยที่เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าสถานการณ์เช่นนี้จะจบลงเมื่อไหร่แน่นอนว่าการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำใหเราตัดสินใจที่จะทรานส์ฟอร์ม นสพ.คมชัดลึกไปสู่ คมชัดลึกออนไลน์และสื่อดิจิทัลในเครือเร็วกว่าเป้าหมายที่เรากำหนดไว้กองบรรณาธิการ นสพ.คมชัดลึก เราได้รับใช้คนอ่านมา 19 ปี วันนี้ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนผ่านไปสู่สื่อที่ทันสมัยกว่าเดิม เนื้อหารวดเร็ว ครบถ้วน ยังคงไว้ซึ่งความเป็นคมชัดลึกที่ "ลึกกว่าข่าว" อยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ที่เพิ่มเติมคือ เราจะเสิร์ฟข่าวด่วนข่าวร้อนไปถึงมือทุกท่านตลอดเวลา หวังว่าคุณผู้อ่านทุกท่านพร้อมที่จะเดินไปกับเราในรูปโฉมของสื่อดิจทัลเต็มรูปแบบ"<ref>[http://www.sanook.com/news/8074618/ ปิดตำนาน 19 ปี หนังสือพิมพ์คมชัดลึก ตีพิมพ์ฉบับสุดท้าย 8 เม.ย. 2563]</ref>
 
== รางวัล ==