ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กัว ฟู่เฉิง"

'''กัว ฟู่เฉิง''' ({{zh-all|s=郭富城|p=Guō Fùchéng}}; {{lang-en|Aaron Kwok}}; เกิด เกิดวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ. 1965) เป็นนักร้องและนักแสดงชาวจีน หนึ่งในสี่ราชาเพลง[[ป็อป]]ของเกาะ[[ฮ่องกง]]แห่งคริสต์ทศวรรษ 1990 เจ้าของฉายา ราชานักเต้นแห่งเอเชีย (Dancing King of Asia) เป็นหนึ่งใน 10 นักร้องชายเพลงจีนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปี (ทศวรรษ ที่ 70s 80s และ 90s) ของเกาะฮ่องกง{{อ้างอิง}}

กัว ฟู่เฉิงเป็นลูกชายคนสุดท้องของครอบครัว มีพี่ 3 คน พื้นเพเป็นชาว[[จีน]]แผ่นดินใหญ่ เข้าสู่วงการบันเทิงในปี ค.ศ. 1984 จากการเป็นนักเต้นและนักแสดง ในสังกัดค่าย[[สถานีโทรทัศน์ทีวีบี]] (TVB) หันไปทำงานบันเทิงที่เกาะไต้หวันอยู่พักหนึ่ง ในปี 1990 ได้เป็นนักร้องออกอัลบั้มเพลง[[ภาษาจีนกลาง]] ประสบความสำเร็จโด่งดังมากที่เกาะไต้หวันเป็นกระแสมาถึงเกาะฮ่องกง ในปี 1991 เขาจึงกลับมาทำงานบันเทิงที่ฮ่องกงอีกครั้งหนึ่ง เป็นนักร้องสังกัดค่าย[[วอร์เนอร์มิวสิกกรุ๊ป|วอร์เนอร์ มิวสิก]] ออกอัลบั้มเพลงแนวป๊อปแด๊นซ์[[ภาษาจีนกวางตุ้ง]] มีท่าเต้นที่โดดเด่นเป็นกระแสนิยมอย่างรวดเร็วทั่วทั้งเกาะฮ่องกงและเอเชีย จนได้รับฉายาว่า [[ไมเคิล แจ็กสัน]]แห่งฮ่องกง{{อ้างอิง}} จากนั้นเขาก็กลายเป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากที่สุดคนหนึ่งของเอเชีย{{อ้างอิง}}เกาะฮ่องกง จนเป็นหนึ่งในราชาเพลง[[ป็อป]] (King of Canto-pop) แห่งยุคคริสต์ทศวรรษ 1990 ของเกาะฮ่องกง ต่อมาในปี 1992 เขาถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งใน นักร้อง[[จตุรเทพ]]แห่งวงการเพลงป็อป[[ฮ่องกง]] (Four Heavenly Kings of Cantopop) ได้รับฉายาว่า [[ไมเคิล แจ็กสัน]]แห่งฮ่องกง{{อ้างอิง}} และเขายังเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาของ[[เป๊ปซี่]]อีกด้วย{{อ้างอิง}}

กัว ฟู่เฉิง เริ่มมีชื่อเสียงในการแสดงภาพยนตร์จากการสนับสนุนของดารายอดนิยมแห่งยุคอย่าง [[หลิว เต๋อหัว]] ดึงตัวมาแสดงภาพยนตร์ในสังกัด จนได้เข้าชิงรางวัลตุ๊กตาทองสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม ฮ่องกงฟิล์ม อวอร์ด ในบทจิ้งจอกเงิน จากเรื่อง [[ตายกี่ชาติก็ขาดเธอไม่ได้]] ภาค 1 (Saviour Of The Saul , 1991){{อ้างอิง}} และมีผลงานร่วมแสดงกับหลิว เต๋อหัว ในบทสมทบหลายเรื่อง อย่างเช่น รับบทลูกชายหัวดื้อ ของเหลยเล่อ(หลิว เต๋อหัว)ในเรื่อง ตำรวจตัดตำรวจ ภาค 2 (Lee Rock 2 : Father and Son ,1991) รับบทบอดี้การ์ดให้ตัวเอก ในเรื่อง ชาตินี้ถึงทีข้าชาติหน้าก็ข้าอีกนั่นแหล่ะ (Gameboy Kids ,1992) ต่อมา[[สถานีโทรทัศน์ทีวีบี|ค่ายโทรทัศน์ทีวีบี]]มอบบทพระเอกละครซีรีส์ให้เขาแสดงในเรื่อง กระบี่ลมกรด (The Revelation of The Last Hero , 1992) พร้อมสนับสนุนกัว ฟู่เฉิง ให้เป็นพระเอกรุ่นใหม่ ของค่ายทีวีบีและวงการภาพยนตร์ โดยเขาได้รับบทพระเอกต่อจากหลิว เต๋อหัว ในเรื่อง ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ภาค 2 (A Moment of Romance 2 , 1993) เป็นผู้กำกับคนดังอย่าง[[หวังจิง]] มอบบทพระเอกให้เขาแสดง ในเรื่อง จิ้งจอกเงินพันหน้า (Millionaire Cop , 1993) และ ชอ ลิ้วเฮียง จอมยุทธ์ไม่หยุดรัก (Legend of the Liquid Sword , 1993), เป็นผู้อำนวยการสร้างและนักแสดงระดับตำนานอย่าง เติ้ง กวงหยง มอบบทพระเอกให้เขาแสดง ในเรื่อง จอมยุทธ์เจ้าสำราญ (Kung Fu Scholar , 1993) เป็นต้นร่วมแสดงนำกับ จาง เหว่ยเจี้ยน เขายังได้เป็นพระเอกให้กับค่าย[[ชอว์บราเดอร์สสตูดิโอ]]ในเรื่อง ตายไม่ว่าขอให้เห็นหน้าเธอ (The Bere - Footed Kid , 1993) เป็นต้น

กัว ฟู่เฉิง ในช่วงนั้นปี ค.ศ.1993 เป็นต้นมา เขาโด่งดังในงานเพลงเป็นอย่างมาก ได้รับยกย่องให้เป็น "นักร้อง "[[จตุรเทพ]]" ของวงการเพลง[[ป็อป]]ฮ่องกง จึงห่างหายจากการแสดงทั้งละครซีรีส์และภาพยนตร์เพื่อทุ่มเทให้กับผลงานเพลงเป็นหลัก จนกระทั่งในปี 1998 เขาได้หวนกลับมาแสดงภาพยนตร์อีกครั้งเป็นนักแสดงสังกัดค่าย[[โกลเดนฮาร์เวสต์|โกลเด้นฮาร์เวสต์]] มีบทบาทเป็นที่น่าจดจำ ได้แก่บท ปู้จิ้งอวิ๋น หัวหน้าหอเมฆา ผู้ไม่เคยหลั่งน้ำตา ในภาพยนตร์กำลังภายในดัดแปลงจากหนังสือการ์ตูนเรื่อง [[ฟงอวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า (ภาพยนตร์)|ฟงหวิ๋น ขี่พายุทะลุฟ้า]] หรือ The Storm Riders ( ค.ศ. 1998 ) และ The Storm Warriors ( ค.ศ. 2009) ร่วมแสดงคู่กับ[[เจิ้ง อี้เจี้ยน]] เขามีผลงานที่โดดเด่นในค่ายนี้หลายเรื่อง เช่น เหิรเกินนรก (China Strike Force , 2000) , คนแกร่งแรงระเบิดนรก (2000 AD , 2000) เป็นต้น ต่อมาเขาหันมาแสดงภาพยนตร์ที่ใช้ฝีมือการแสดงมากกว่าภาพยนตร์แนวตลาดทั่วไป เขายังสมารถคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม(Best Actor) จากเวทีม้าทองคำไต้หวัน(Golden Horse Awards) มาได้ถึง 2 ครั้ง จากภาพยนตร์เรื่อง โคตรคนสามคน (Divengence , 2005) ที่ร่วมแสดงกับ เจิ้ง อี้เจี้ยน , อู๋ เจี๋ยนวู่หวู่ และภาพยนตร์เรื่อง ด้วยหัวใจปาฎิหารย์ (After This Our Exile , 2006) ผลงานอำนวยการสร้างของ[[หลิว เต๋อหัว]] ปัจจุบัน ได้รับยกย่องว่า เป็นนักแสดงยอดฝีมือของวงการภาพยนตร์จีนฮ่องกง