ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโต"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Xqbot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต: แก้หน้าเปลี่ยนทางซ้ำซ้อน → จักรพรรดิโชวะ
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: ผู้ใช้แก้หน้าเปลี่ยนทาง
บรรทัด 1:
{{Infobox monarch
#เปลี่ยนทาง [[จักรพรรดิโชวะ]]
| สีพิเศษ = #b80049
| สีอักษร = white
| image = Hirohito in dress uniform.jpg
| name = สมเด็จพระจักรพรรดิฮิโระฮิโตะ <br><small> พระจักรพรรดิโชวะ</small>
| พระบรมนามาภิไธย =
| birth_name = ฮิโระฮิโตะ
| birth_place = [[29 เมษายน]] [[พ.ศ. 2444]]<br /> [[พระราชวังอะโอะยะมะ]] [[โตเกียว|กรุงโตเกียว]] [[จักรวรรดิญี่ปุ่น]]
| death_date = 7 มกราคม พ.ศ. 2532 ({{อายุปีและวัน|2444|4|29|2532|1|7}})
|death_place = [[พระราชวังโอะมิยะ]] [[โตเกียว|กรุงโตเกียว]] [[ประเทศญี่ปุ่น]]
| title = [[จักรพรรดิญี่ปุ่น]]
| father = [[จักรพรรดิไทโช]]
| mother = [[สมเด็จพระจักรพรรดินีเทเม]]
| spouse-type = จักรพรรดินี
| spouse = [[สมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุง|เจ้าหญิงนะงะโกะแห่งคุนิ]]
| issue = [[ชิเงะโกะ ฮิงะชิกุนิ|เจ้าหญิงชิเงะโกะ เจ้าเทะรุ]]</br>• [[เจ้าหญิงซะชิโกะ เจ้าฮิซะ]]</br>• [[คะซุโกะ ทะกะสึกะซะ|เจ้าหญิงคะซุโกะ เจ้าทะกะ]]</br>• [[อะสึโกะ อิเกะดะ|เจ้าหญิงอะสึโกะ เจ้าโยะริ]]</br> • [[สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ|จักรพรรดิอะกิฮิโตะ]]</br>• [[เจ้าชายมะซะฮิโตะ เจ้าฮิตะชิ]]</br>• [[ทะกะโกะ ชิมะสึ|เจ้าหญิงทะมะโกะ เจ้าซุงะ]]
| dynasty = [[ราชวงศ์ญี่ปุ่น]]
| era dates = [[โชวะ]] (2469 - 2532)
| coronation = [[10 พฤศจิกายน]] [[พ.ศ. 2471]]
|coronation_place = [[พระราชวังหลวงเคียวโตะ]]
|succession = [[จักรพรรดิญี่ปุ่น|จักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น]] องค์ที่ 124
| reign = [[25 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2469]] - [[7 มกราคม]] [[พ.ศ. 2532]] ({{อายุปีและวัน|2469|12|25|2532|1|7}})
| predecessor = [[จักรพรรดิไทโช]]
| successor = [[สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ]]
| signature = Showa shomei.svg
|religion = [[ชินโต]]
|burial_date = [[24 กุมภาพันธ์]] [[พ.ศ. 2532]]
|burial_place = [[สุสานหลวงมุซะชิ]]
}}
 
'''สมเด็จพระจักรพรรดิฮิโระฮิโตะ''' ({{ญี่ปุ่น|裕仁天皇|''ฮิโระฮิโตะ เท็นโน''}}) หรือพระนามตามชื่อรัชสมัย คือ '''จักรพรรดิโชวะ''' ({{ญี่ปุ่น|昭和天皇|''โชวะ เท็นโน''}}) ([[29 เมษายน]] [[พ.ศ. 2444|2444]] - [[7 มกราคม]] [[พ.ศ. 2532|2532]]) (裕仁) ทรงเป็นจักรพรรดิพระองค์ที่ 124 ของญี่ปุ่น ครองราชย์ระหว่างปี [[พ.ศ. 2469]] - [[พ.ศ. 2532]] (63 ปี)
 
ในตอนต้นรัชสมัยของพระองค์ [[จักรวรรดิญี่ปุ่น]]ในขณะนั้น ได้กลายเป็นชาติมหาอำนาจของโลกแล้ว ด้วยขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 9 ของโลก จักรพรรดิฮิโระฮิโตะทรงดำรงตำแหน่ง[[ประมุขแห่งรัฐ]]ของจักรวรรดิญี่ปุ่นภายใต้[[รัฐธรรมนูญแห่งจักรวรรดิญี่ปุ่น]] ในรัชสมัยของพระองค์ ญี่ปุ่นได้เข้าร่วม[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] ซึ่งทำให้ในห้วงเวลานั้น จักรวรรดิญี่ปุ่นแผ่อำนาจและดินแดนไปทั่ว[[เอเชียตะวันออก|เอเชียบูรพา]]โดยที่ไม่มีชาติใด ๆ จะสามารถต้านทาน ภายหลังสงครามสิ้นสุดลงบนความพ่ายแพ้ของญี่ปุ่น พระองค์ไม่ได้ถูกดำเนินคดีในข้อหา[[อาชญากรสงคราม]]ดังเช่นผู้นำคนอื่น ๆ ของชาติ[[ฝ่ายอักษะ]] และภายหลังสงคราม พระองค์ทรงเป็นสัญลักษณ์ของรัฐใหม่ในการกอบกู้ประเทศชาติที่ได้รับความเสียหายจากสงคราม ในตอนปลายรัชกาล ประเทศญี่ปุ่นก็สามารถกลับมายืนหยัดในฐานะชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก
 
== พระราชประวัติ ==
[[ภาพ:Michi-no-miya Hirohito 1902.jpg|150px|thumb|left|upright|เจ้าชายฮิโระฮิโตะ ครั้นทรงพระเยาว์ พ.ศ. 2445]]
สมเด็จพระจักรพรรดิฮิโระฮิโตะเสด็จพระราชสมภพ ณ พระราชวังอะโอะยะมะ ใน[[โตเกียว|กรุงโตเกียว]] เมื่อวันที่ [[29 เมษายน]] ปีเมจิที่ 34 (ค.ศ.1901,พ.ศ. 2444) เป็นพระราชโอรสองค์โตใน[[สมเด็จพระจักรพรรดิไทโช|เจ้าชายโยะชิฮิโตะ มกุฎราชกุมาร]] (ภายหลังคือจักรพรรดิไทโช) และ[[สมเด็จพระจักรพรรดินีเทเม|เจ้าหญิงซะดะโกะ มกุฎราชกุมารี]] (ภายหลังคือจักรพรรดินีเทเม)<ref>Ponsonby-Fane, Richard. (1959). ''The Imperial House of Japan'', p. 337.</ref> โดยทรงราชทินนามขณะทรงพระเยาว์ ว่า '''เจ้ามิชิ''' (迪宮) ในปี พ.ศ. 2451 ทรงเข้ารับการศึกษาในโรงเรียนประถมชูอิง
 
ภายหลังการสวรรคตของสมเด็จพระบรมอัยกา [[สมเด็จพระจักรพรรดิมุสึฮิโตะ]] (เมจิ) เมื่อ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2455 พระราชบิดาของพระองค์ เจ้าชายโยะชิฮิโตะ ก็ขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติเป็น "สมเด็จพระจักรพรรดิโยะชิฮิโตะ" (ไทโช) ทำให้พระองค์กลายเป็นองค์รัชทายาทตามลำดับการสืบราชสันตติวงศ์ญี่ปุ่น<ref>Ponsonby-Fane, p. 338; 'see'' [[:File:Crowd awaiting Crown Prince Tokyo Dec1916.jpg]], ''New York Times.'' December 3, 1916.</ref> ในขณะเดียวกัน ก็ทรงเข้ารับราชการในกองทัพบกและกองทัพเรือในยศเรือตรี ในตำแหน่งนายธง และได้รับพระราชทาน[[เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันสูงส่งยิ่งดอกเบญจมาศ ]] ชั้นสายสะพาย ต่อมาในปี พ.ศ. 2457 ทรงได้รับการเลื่อนยศให้เป็นร้อยโทแห่งกองทัพบก และเรือตรีแห่งกองทัพเรือ สองปีต่อมา ก็ถูกเลื่อนยศขึ้นเป็น พันโท และ นาวาเอก ในปีเดียวกันนี้เอง พระองค์ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น "มกุฎราชกุมาร" ตำแหน่งองค์รัชทายาทอย่างเป็นทางการ เมื่อ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2457
 
=== มกุฎราชกุมาร ===
ในปี พ.ศ. 2463 พระองค์ได้รับการเลื่อนยศขึ้นเป็นพลโทแห่งกองทัพบก และ พลเรือโทแห่งกองทัพเรือ ต่อมา พ.ศ. 2464 เจ้าชายฮิโระฮิโตะได้ใช้เวลาหกเดือน ในการเสด็จประพาส[[ยุโรป]] ซึ่งได้เสด็จพระราชดำเนินเยือน [[สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์|สหราชอาณาจักร]], [[สาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ 3|สาธารณรัฐฝรั่งเศส]], [[ราชอาณาจักรอิตาลี]], [[ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์]] และ [[เบลเยียม]] นับเป็นมกุฎราชกุมารญี่ปุ่นพระองค์แรกที่เสด็จเยือนต่างประเทศ ซึ่งภายหลังการกลับจากยุโรป ทรงดำรงตำแหน่ง [[คัมปะกุ|ผู้สำเร็จราชการพระองค์]] จากการที่ที่พระราชบิดาทรงพระประชวรทางพระจิต
 
ระหว่างที่ทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ทรงมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นมากมาย อาทิ ใน พ.ศ. 2464 การลงนามใน[[สนธิสัญญาสี่อำนาจ]] (อังกฤษ: Four-Power Treaty) โดยจักรวรรดิญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ และ ฝรั่งเศส ตกลงที่จะรับรู้สภาพที่เป็นอยู่ในภาคพื้นแปซิฟิก ญี่ปุ่นและสหราชอาณาจักรตกลงที่จะยุติ[[พันธมิตรอังกฤษ-ญี่ปุ่น]]อย่างเป็นทางการ หรือใน พ.ศ. 2466 ก็เกิด[[แผ่นดินไหวครั้งใหญ่คันโต พ.ศ. 2466|แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในภูมิภาคคันโต]] เป็นต้น
 
== พระราชจริยวัตร ==
หลังประสูติได้ไม่นาน เจ้าชายฮิโระฮิโตะอยู่ในความอภิบาลของ คะวะมุระ สึมิโยะชิ นายทหารเรือเกษียณ และภรรยา เมื่อคะวะมุระถึงแก่กรรมลงในปี พ.ศ. 2447 เจ้าชายองค์น้อยได้เสด็จกลับไปประทับร่วมกับพระบิดาและพระมารดาอีกครั้ง ณ [[พระตำหนักอะกะซะกะ|พระราชวังโทงู]] ทรงรู้สึกใกล้ชิดพระบิดาและพระชนนีเท่าใดนั้นยากที่จะกล่าว แต่หนึ่งในบรรดามหาดเล็กที่ถวายการดูแลเจ้าชายอยู่คือ คันโระจิ โอะซะนะงะ ให้ความเห็นว่าเจ้าชายรักและผูกพันกับจักรพรรดิเมจิ ซึ่งเป็นพระอัยกาเป็นพิเศษ และยามที่เสด็จไปหาเสด็จสมเด็จพระอัยกาที่พระราชวังโตเกียว ก็โปรดที่จะเกาะแจอยู่กับพระองค์ แต่ภาพเช่นนั้นก็ไม่ปรากฏบ่อยนัก <ref>Osanaga Kanroji, "Hirohito"An Intimate Portrait of the Japanese Emperor , Los Angeles : Gateway, 1975</ref> ทางจักรพรรดิเมจิ นั้น ก็ได้พระราชทานของขวัญแก่พระราชนัดดาองค์น้อยและแย้มพระโอษฐ์ให้ แม้จะตรัสกับพระราชนัดดาน้อยมาก เช่นเดียวกัน จักรพรรดิเมจิแทบจะไม่มีพระราชดำรัสต่อเจ้าชายโยะชิฮิโตะ มกุฎราชกุมารเลย
 
ในด้านพระวรกาย เจ้าชายฮิโระฮิโตะมิได้มีพระวรกายที่น่าประทับใจแก่ผู้พบเห็นแต่อย่างใด เพราะสายพระเนตรสั้น จึงต้องทรงฉลองพระเนตรตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ และเหล่ามหาดเล็กก็ต้องคอยทูลให้เปลี่ยนท่าทางพระวรกายอยู่เสมอ เพราะพระบุคลิกภาพของพระองค์ไม่ค่อยงดงามนัก นอกจากนี้ยังทรงเป็นเด็กเรียนรู้ช้า มักจะมีปัญหาแม้กระทั่งกลัดกระดุมเครื่องแบบนักเรียน ต้องพึ่งการฝึกซ้อมร่างกาย, ทรงม้า, ว่ายน้ำ และวิธีออกกำลังกายอื่นๆ อีกมากเพื่อช่วยปรับเปลี่ยนพระบุคลิกภาพให้ดีขึ้น แต่ก็ยังทรงพระวรกายเล็กอยู่เช่นเดิมแม้เมื่อเจริญพระชันษาแล้ว
 
เมื่อ[[สมเด็จพระเจ้าเอดเวิร์ดที่ 8|เจ้าชายเอดเวิร์ด เจ้าชายแห่งเวลส์]] เสด็จพระราชดำเนินมาเยือนญี่ปุ่น เจ้าชายเอดเวิร์ดจำต้องแสร้งตีลูกกอล์ฟพลาด เมื่อทอดพระเนตรเห็นว่าเจ้าชายฮิโระฮิโตะทรงตีลูกกอล์ฟไม่ค่อยถูก<ref> HRH The Duke of Windsor, 'A King's Story', London: Cassell, 1951</ref>
 
== พระราชโอรส-ธิดา ==
[[ไฟล์:403px-Emperor Hirohito and empress Kojun of japan.jpg|thumb|185px|เจ้าชายฮิโระฮิโตะและเจ้าหญิงนะงะโกะ ในช่วงพิธีอภิเษกสมรส]]
เจ้าชายโยะชิฮิโตะได้อภิเษกสมรสกับ [[สมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุน|เจ้าหญิงนะงะโกะแห่งคุนิ]] พระธิดาองค์โตในเจ้าชายคุนิ คุนิโยะชิ ซึ่งภายหลังบรมราชาภิเษก ก็ขึ้นเป็น "สมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุง" เมื่อวันที่ [[26 มกราคม]] [[พ.ศ. 2467]] (ค.ศ. 1924) และมีพระราชโอรสด้วยกัน 2 พระองค์ และพระราชธิดา 5 พระองค์
 
* '''[[ชิเงะโกะ ฮิงะชิกุนิ|เจ้าหญิงชิเงะโกะ เจ้าเทะรุ]]''' ({{ญี่ปุ่น|照宮成子|เทะรุ-โนะ-มิยะ ชิเงโกะ}}) ประสูติเมื่อวันที่ [[6 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2468]] เสกสมรสกับ[[เจ้าชายโมริฮิโตะ ฮิงะชิกุนิ]] ต่อมาพระสวามีของเจ้าหญิงชิเงโกะได้ถูกสหรัฐอเมริกาถอดพระยศเป็นสามัญชน เจ้าหญิงชิเงโกะจึงเป็น "นางชิเงะโกะ ฮิงะชิกุนิ" ({{ญี่ปุ่น|東久邇成子|Higashikuni Shigeko}}) มีพระโอรส-ธิดา 5 พระองค์ และสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ [[23 กรกฎาคม]] [[พ.ศ. 2504]]
* '''[[เจ้าหญิงซะชิโกะ|เจ้าหญิงซะชิโกะ เจ้าฮิซะ]]''' ({{ญี่ปุ่น|久宮祐子|ฮิซะ-โนะ-มิยะ ซะชิโกะ}}) ประสูติ [[10 กันยายน]] [[พ.ศ. 2470]] พระราชธิดาองค์ที่สอง โดยต่อมาอีก 4 เดือนหลังจากพระประสูติกาล พระธิดาองค์น้อยนี้ก็มีพระอาการพระโลหิตเป็นพิษ โดยต่อมา 2 เดือน เจ้าหญิงซะชิโกะจึงสิ้นพระชนม์อย่างสงบ เมื่อวันที่ [[8 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2471]]
* '''[[คะซุโกะ ทะคะสึคะซะ|เจ้าหญิงคะซุโกะ เจ้าทะกะ]]''' ({{ญี่ปุ่น|孝宮和子|ทะกะ-โนะ-มิยะ คะซุโกะ}}) ประสูติเมื่อวันที่ [[30 กันยายน]] [[พ.ศ. 2472]] ต่อมาเจ้าหญิงทากะได้เสกสมรสกับนายโทะชิมิชิ ทะคะสึตะซะ เจ้าหญิงทะกะจึงลาออกจากฐานันดรศักดิ์ และใช้พระนามเป็น "นางคะซุโกะ ทะคะสึคะซะ" และสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ [[28 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2532]]
* '''[[อะสึโกะ อิเกะดะ|เจ้าหญิงอะสึโกะ เจ้าโยะริ]]''' ({{ญี่ปุ่น|順宮厚子|โยะริ-โนะ-มิยะ อะสึโกะ}}) ประสูติ [[7 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2474]] เจ้าหญิงโยะริได้เสกสมรสแล้วกับนายทะกะมะซะ อิเกะดะ เจ้าหญิงโยะริจึงลาออกจากฐานันดรศักดิ์ และใช้พระนามเป็น "นางอะสึโกะ อิเกะดะ"
* '''[[สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ|เจ้าชายอะกิฮิโตะ มกุฎราชกุมาร]]''' ({{ญี่ปุ่น|継宮明仁|สึงุโนะมิยะ อะกิฮิโตะ}}) เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ [[23 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2476]] ต่อมาพระองค์ได้ขึ้นเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นองค์ปัจจุบัน ออกพระนามว่า "[[สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ]]" อภิเษกสมรสกับ[[สมเด็จพระจักรพรรดินีมิชิโกะ|นางสาวโชดะ มิชิโกะ]] มีพระราชโอรส-ธิดา 3 พระองค์
* '''[[เจ้าชายมะซะฮิโตะ เจ้าชายฮิตะชิ|เจ้าชายมะซะฮิโตะ เจ้าโยะชิ]]''' ({{ญี่ปุ่น|義宮正仁|โยะชิ-โนะ-มิยะ มะซะฮิโตะ}}) ประสูติเมื่อวันที่ [[28 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2478]] ปัจจุบันมีออกพระนามว่า "เจ้าชายมะซะฮิโตะ เจ้าชายฮิตะชิ" ({{ญี่ปุ่น| 常陸宮正仁親王|ฮิตะชิ โนะ มิยะ มะซะฮิโตะ ชินโน}}) เสกสมรสกับ[[เจ้าหญิงฮะนะโกะ เจ้าหญิงฮิตะชิ|สึงะรุ ฮะนะโกะ]] แต่ไม่มีพระโอรส-ธิดาด้วยกัน
* '''[[ทะกะโกะ ชิมะสึ|เจ้าหญิงทะกะโกะ เจ้าซุงะ]]''' ({{ญี่ปุ่น|清宮貴子|ซุงะ-โนะ-มิยะ ทะคะโกะ}}) ประสูติเมื่อวันที่ [[2 มีนาคม]] [[พ.ศ. 2482]] ต่อมาเจ้าหญิงซุงะได้เสกสมรสกับนายฮิซะนะงะ ชิมะสึ เจ้าหญิงซุงะจึงลาออกจากฐานันดรศักดิ์เป็น [[ทะคะโกะ ชิมะสึ|นางทะคะโกะ ชิมะสึ]] มีพระโอรส 1 พระองค์
 
== ขึ้นครองราชสมบัติ ==
[[ไฟล์:Emperor Showa.jpg|thumb|180px|left|upright|จักรพรรดิฮิโระฮิโตะ ครั้นเสด็จขึ้นครองราชย์]]
ภายหลังการสวรรคตของพระราชบิดา [[สมเด็จพระจักรพรรดิไทโช]] เจ้าชายฮิโระฮิโตะจึงได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ ในนามรัชสมัยใหม่ว่า '''[[ยุคโชวะ|โชวะ]]''' ที่หมายถึงสันติภาพอันส่องสว่าง ซึ่งภายหลังจากการสวรรคตของพระราชบิดาไม่นาน จักรพรรดิโยะชิฮิโตะถูกออกพระนามเป็น "จักรพรรดิไทโช"
 
สมเด็จพระจักรพรรดิพระองค์ใหม่ ทรงตั้งความหวังไว้กับประเทศญี่ปุ่นไว้สูง โดยในพระราชโองการฉบับแรกแห่งรัชสมัยที่ทรงประกาศเมื่อวันที่ [[28 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2469]] มีข้อความว่า
{{คำพูด|โลกเราในขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการวิวัฒน์ไปอย่างต่อเนื่อง ประวัติศาสตร์บทใหม่แห่งอารยธรรมโลกกำลังพลิกเผยตัวตนให้เราได้เห็นกัน...นโยบายของชาติเรามักจะมุ่งเน้นไปที่วิถีทางอันดำเนินไปอย่างต่อเนื่องพร้อม ๆ กับการปรับปรุงให้ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ คือ ความเรียบง่ายแทนการสร้างภาพที่ไร้ประโยชน์ ความมีเอกลักษณ์เฉพาะตนแทนการลอกเลียนแบบที่ไม่รู้จักคิด วิธีดำเนินงานที่สอดคล้องกับวิวัฒนาการแห่งยุคสมัยที่ดำเนินอยู่ การพัฒนาให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นเพื่อจะได้ไหลลื่นไปกับกระแสความก้าวหน้าแห่งอารยธรรมโลก ความกลมเกลียวในชาติทั้งในด้านจุดหมายที่ต้องไปให้ถึงและวิธีการที่จะทำให้บรรลุจุดหมายนั้น ๆ คุณงามความดีที่เผยแผ่ไปทุกชนชั้น และสุดท้าย ความมีมิตรไมตรีจิตต่อประเทศทั้งมวลบนผืนพิภพ สิ่งเหล่านี้คือจุดหมายหลักที่เราใฝ่ใจและมุ่งที่จะไปให้ถึงอย่างที่สุด|สมเด็จพระจักรพรรดิฮิโระฮิโตะ}}
 
== เหตุการณ์ต้นรัชสมัย ==
[[ไฟล์:Showa emperor smiles.jpg|upright|thumb||จักรพรรดิฮิโระฮิโตะ ในปี 2478]]
ตอนต้นรัชสมัยโชวะนั้น เป็นยุคสมัยที่ญี่ปุ่น กำลังประสบกับ[[วิกฤตการณ์การเงินโชวะ |วิกฤตการณ์การเงิน]] ในขณะที่อำนาจของกองทัพก็มีมากขึ้นภายในรัฐบาล ด้วยการแทรกแซงทั้งวิธีการตามกฎหมายและนอกกฎหมาย กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นได้กุมอำนาจทางการเมืองอย่างเด็ดขาดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2443 ซึ่งระหว่างปี พ.ศ. 2464-2487 ก็มีอุบัติเหตุทางการเมืองมากถึง 64 ครั้ง
 
=== กบฏ 26 กุมภาฯ ===
9 มกราคม พ.ศ. 2475 จักรพรรดิฮิโระฮิโตะ รอดจากการลอบสังหารอย่างหวุดหวิด จากการขว้างระเบิดมือของ ''ลี บงชาง'' นักเคลื่อนไหวเพื่อ[[ปลดแอก]]เกาหลี ในกรุงโตเกียว หรือที่เรียกกันว่า [[เหตุการณ์ซะกุระดะมง]] อีกกรณีที่น่าสังเกตคือ[[การลอบสังหาร]][[นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น|นายกรัฐมนตรี]] [[อินุไก สึโยะชิ]] โดยทหารเรือระดับล่างในปีเดียวกัน เหตุการณ์นี้เองตามมาด้วยการที่สี่ปีต่อมา กลุ่มนายทหารรักษาพระองค์ระดับล่างที่มีแนวคิดแบบชาตินิยม หรือ ''[[โคโดฮะ]]'' ไม่พอใจเหล่านายทหารและเจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาล ในหลายๆ เรื่อง อาทิ การทุจริตในรัฐบาล ผลประโยชน์แก่เหล่าพวกพ้อง มีความพยายามทำ[[รัฐประหาร]] ในปลายเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2479 ซึ่งเป็นที่รู้จักในนาม [[เหตุการณ์ 26 กุมภาพันธ์]]<ref>Mikiso Hane, ''Emperor Hirohito and His Chief Aide-de-camp, The Honjō Diary'', 1983; ''Honjō Nikki'', Hara Shobō, 1975</ref>
 
การก่อกบฏครั้งนี้ได้สร้างความสูญเสียเป็นอย่างมาก นักการเมือง, เจ้าหน้าที่, และนายทหารระดับสูงหลายคนถูกฆ่าตาย มีการบุกทำลายสถานที่ราชการหลายแห่งในใจกลางกรุงโตเกียว การก่อกบฏครั้งนี้ ฝ่ายกบฏอ้างว่าเป็นการต่อสู้ในนามของพระจักรพรรดิ เมื่อจักรพรรดิทรงทราบว่ามีกลุ่มทหารเลือดใหม่ก่อกบฏ ทรงกำชับรัฐมนตรีกลาโหมอย่างเฉียบขาดว่า ''"เราให้เวลาท่านหนึ่งชั่วโมงในการปราบกบฏ"'' ผลปรากฏว่า รัฐบาลล้มเหลวในการปราบกบฏ วันต่อมาทรงรับสั่งว่า ''"ฉัน! ตัวฉันนี่แหล่ะ จะนำกองโคะโนะเอะ(กองราชองค์รักษ์)และปราบพวกเขาเอง"''<ref>Peter Wetzler, Hirohito and War, p. 188</ref> กลุ่มกบฏได้บุกเข้ามายัง[[พระราชวังโตเกียว]]เพื่อต้องการที่จะอ่านสาสน์ต่อสมเด็จพระจักรพรรดิเพื่อให้จักรพรรดิรับรองสถานะของกลุ่มทหารที่ก่อการกบฏ จักรพรรดิฮิโระฮิโตะมีพระราชดำรัสต่อกลุ่มทหารเหล่านั้นว่า ''"พวกเจ้ากล้าดีอย่างไรที่เข้ามาในนี้ ไม่รู้หรือว่าฉันเป็นจักรพรรดิของพวกเจ้า"''<ref>Edwin Hoyt, supra note, p.101 </ref>
 
ภายหลังปราบกบฏได้ในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ พลเรือเอก [[โอกะดะ เคซุเกะ]] นายกรัฐมนตรีซึ่งรอดจากการถูกสังหาร ได้ปรากฏตัวหลังจากการหลบซ่อน สามวันต่อมา เขาประกาศลาออกจากนายกรัฐมนตรี อันเป็นการเปิดทางให้มีการจัดตั้งรัฐบาลพลเรือนขึ้น
 
== สงครามโลกครั้งที่สอง ==
{{ประวัติศาสตร์จักรวรรดิญี่ปุ่น}}
[[ไฟล์:K2870702-12.jpg|thumb|185px|left|จักรพรรดิฮิโระฮิโตะ ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2]]
 
แม้ว่าพระองค์จะเห็นว่าการทำสงครามเป็นสิ่งจำเป็นต่อญี่ปุ่น แต่พระองค์ก็ไม่ทรงเห็นด้วยกับกองทัพที่ดำเนินนโยบายการสงครามแบบบ้าระห่ำ เมื่อทรงทราบถึง[[การโจมตีท่าเพิร์ล|แผนการณ์โจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์]]ของ[[สหรัฐอเมริกา]] พระองค์ทรงกังวลมิน้อยว่าการกระทำนี้จะส่งผลร้ายต่อญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามพระองค์ทรงพอพระทัยอยู่เสมอเมื่อทรงทราบว่ากองทัพญี่ปุ่นได้ชัยชนะในศึกสงครามที่อยู่ห่างไกล ต้นเดือนมีนาคม [[พ.ศ. 2485]] ทรงพอพระทัยไม่น้อยกับชัยชนะอันรวดเร็วของจักรวรรดิญี่ปุ่นที่มีเหนือ[[เกาะฮ่องกง]], [[กรุงมะนิลา]], [[สิงคโปร์]], [[ปัตตาเวีย]] (จาร์กาตา) และ[[ย่างกุ้ง]]
 
ขณะเดียวกัน ก็ทรงกังวลเกี่ยวกับปัญหาในการลำเลียงเสบียงและ[[เชื้อเพลิง]]ไปให้กับกองกำลังญี่ปุ่นที่กำลังรบอยู่ในสมรภูมิที่ห่างไกลมาตุภูมิ
''"ชัยชนะที่ได้มาออกจะเร็วไปหน่อย"'' พระองค์จึงมักจะทรงเตือนผู้นำทหารบกและทหารเรือให้ปรับปรุงการทำงานระหว่างสองกองทัพให้ประสานงานได้ดีขึ้น เพราะสภาพที่เป็นอยู่นั้นจัดว่าไร้ประสิทธิภาพโดยสิ้นเชิง และยังทรงเตือนให้สองกองทัพ เลิกใช้วิธีเหมือนเล่นการเมืองพาทะเลาะกันเรื่องการเคลื่อนย้ายฝูงบินเสียที เมื่อทรงได้รับรายงานเกี่ยวกับความปราชัยครั้งสำคัญของญี่ปุ่นเช่นที่ [[ยุทธนาวีมิดเวย์]] จึงมีแต่พระราชดำรัสให้ผู้นำทหารทั้งหลายทำงานของตนให้ดีที่สุดในการปฏิบัติครั้งหน้า โดยแทบจะมิได้ทรงแสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมาอีก ราวกับทรงปลงเสียแล้ว
 
พระราชกรณียกิจที่ทรงปฏิบัติในระหว่างสงครามกระตุ้นให้ประชาชนฮึกเหิมกับศึกที่เกิดขึ้นด้วยอีกแรงหนึ่งไม่ว่าจะเป็นการทรงม้าขาวออกเสด็จตรวจกำลังพล หรือมีพระราชดำรัสเปิดการประชุมรัฐสภาที่ปลุกเร้ากำลังใจของราษฎรให้ช่วยกันพยายามเพื่อชัยชนะของประเทศตามหนังสือที่ร่างโดยรัฐบาล พระราชกรณียกิจเหล่านี้ล้วนสร้างภาพว่า พระองค์กำลังทรงบัญชาการความเคลื่อนไหวทั้งหมดของกองทัพในฐานะที่ทรงเป็นจอมทัพของชาติ ในความเป็นจริง พระองค์ทรงทำหน้าที่แค่ทอดพระเนตรรายงานการสถานการณ์รบ และลงพระนามรับรองแผนปฏิบัติการทางทหารต่างๆเท่านั้น สมเด็จพระจักรพรรดิฮิโระฮิโตะมิได้ทรงมีส่วนในการบัญชาการรบใดๆ เช่นเมื่อนานกิงถูกตีแตกในปี พ.ศ. 2480 และทหารญี่ปุ่นได้สังหารพลเรือนไปกว่าสองแสนคนนั้น รายงานที่ถวายไปยังพระองค์ระบุแค่ว่า กองทัพสามารถยึดนานกิงได้แล้ว
 
จักรพรรดิทรงเห็นว่า ญี่ปุ่นได้รับชัยชนะและดินแดนมามากเกินพอแล้ว การทำสงครามต่ออาจจะส่งผลร้ายในภายหลัง ทรงอยากให้กองทัพญี่ปุ่นยุติสงครามโดยไวที่สุด ดังในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2485 พระองค์มีพระราชดำรัสให้พลเอก[[ฮิเดะกิ โทโจ]] นายกรัฐมนตรีรับทราบข้อเท็จจริงข้อนี้
''"ฉันหวังว่าตลอดเวลาที่ผ่านมานี้ ท่านได้ใช้ความพยายามอย่างที่สุด และใช้ทุกโอกาสที่มีอยู่เพื่อยุติการประหัตประหารในทันทีที่สามารถทำได้ ถ้าคิดถึงความสงบสุขของมนุษย์ด้วยกันแล้ว การปล่อยให้สงครามยืดเยื้อต่อไปก็รังแต่จะเปล่าประโยชน์...ฉันเกรงว่า ประสิทธิภาพทหารเราอาจจะด้อยลง หากสงครามต้องยืดเยื้อ"'' แต่โทโจก็ยังยืนยันถึงความจำเป็นในการทำสงครามต่อไป
 
แม้กระแสการรบจะพัดย้อนไปกระหน่ำญี่ปุ่นแทน สงครามก็ยังไม่อาจยุติลงได้ ดูเหมือนว่าจักรพรรดิฮิโระฮิโตะกลับเป็นผู้ต่อเวลาทำสงครามออกไปเสียเองถึง 2 ทางด้วยกัน
ประการแรก แม้ในช่วงแรก ๆ จะมีขบวนการสันติภาพที่ก่อตั้งขึ้นโดยอดีตนายกรัฐมนตรี ข้าราชสำนัก และแม้กระทั่งเชื้อพระวงศ์บางองค์ แต่สมเด็จพระจักรพรรดิก็ไม่ทรงยอดปลดโทโจออกตามคำเรียกร้องของสมาชิกขบวนการที่ต้องการจะหยุดยั้งสงครามไว้ให้ได้ เพราะในระหว่างยังไงเสียญี่ปุ่นก็ต้องอาศัยโทโจดำเนินการรบไปจนกว่าสถานะของญี่ปุ่นในการเจรจาสันติภาพจะดีขึ้น และบรรลุเงื่อนไขตามที่ญี่ปุ่นต่อรอง โดยพระองค์ตรัสกับ [[เจ้าชายโนะบุฮิโตะ เจ้าทะกะมะสึ|เจ้าทะกะมะสึ]] พระอนุชาองค์รองว่า
 
''"ใครๆก็ว่าโทโจไม่ดี แต่จะหาใครดีไปกว่านี้ได้อีกไหมในเมื่อมันไม่มีคนที่เหมาะสมกว่า ยังจะมีทางเลือกอื่น นอกจากร่วมงานกับคณะของโทโจหรือ"''
 
== ภายหลังสงคราม ==
=== สถานะของจักรพรรดิ ===
[[ภาพ:Macarthur hirohito.jpg|180px|thumb|left|จักรพรรดิฮิโระฮิโตะและนายพล[[ดักลาส แมคอาเธอร์]]]]
 
ภายหลังญี่ปุ่นยอมแพ้ สหรัฐอเมริกาได้ส่งกำลังทหารส่วนหนึ่งเข้าควบคุมญี่ปุ่น มีการเรียกร้องจากชาติฝ่ายสัมพันธมิตรโดยเฉพาะจากยุโรป ให้นำตัวสมเด็จพระจักรพรรดิมาลงโทษ นายพล[[ดักลาส แมคอาเธอร์]] ได้แสดงความคัดค้านอย่างถึงที่สุดในเรื่องนี้ ด้วยมองว่า จักรวรรดิญี่ปุ่นได้ยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข แสนยานุภาพของกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นยังคงมีอยู่ และหากจะลงโทษจักรพรรดิแล้ว อาจเกิดการลุกฮือจากกองทัพญี่ปุ่นก็เป็นได้ ซึ่งจะต้องส่งกำลังทหารเข้ามาประจำการในญี่ปุ่นอีกมหาศาล อีกทั้งการบัญชาการทัพญี่ปุ่นในการบุกดินแดนต่าง ๆ เป็นการบัญชาการจากผู้นำรัฐบาลและกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นเป็นหลัก ท้ายที่สุดจักรพรรดิฮิโระฮิโตะ รอดพ้นจากข้อหาอาชญากรสงคราม
 
แม้ว่าสมเด็จพระจักรพรรดิจะรอดพ้นจากข้อหาอาชญากรสงคราม แต่ทรงถูกบังคับ<ref>Dower, pp. 308–318</ref>ให้ปฏิเสธการเรียกร้องรัฐ[[ชินโต]]ที่[[จักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น]]เป็น ''[[อะระฮิโตะงะมิ]]'' หรือพระเจ้าที่มีตัวตน สิ่งนี้เป็นแรงจูงใจจากข้อเท็จจริงที่ว่า ตาม[[รัฐธรรมนูญแห่งจักรวรรดิญี่ปุ่น ค.ศ. 1889]] บัญญัติให้จักรพรรดิมีพระราชอำนาจอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมาจากความเชื่อของชินโตที่ว่า พระราชวงศ์แห่งจักรพรรดิญี่ปุ่นเป็นสืบเชื้อสายมาจากจันทรเทพ ''[[สึกุโยะมิ]]'' และ สุริยะเทพี ''[[อะมะเตะระซุ]]'' ซึ่งจักรพรรดิฮิโระฮิโตะยืนกรานในความเชื่อนี้ ดังในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2488 ตรัสกับรองสมุหพระราชวัง มิชิโอะ คิโนะชิตะ ว่า ''"เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ที่จะบอกว่า ความคิดที่ว่าเท็นโน (จักรพรรดิ) เป็นลูกหลานของเทพเจ้านั้น เป็นความคิดที่ผิด แต่เป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้อย่างยิ่งหากจะบอกว่า เรื่องที่เท็นโนเป็นลูกหลานของเทพเจ้า เป็นเรื่องเพ้อเจ้อ "''<ref>Wetzler, p. 3</ref>
 
การที่ทรงปฏิเสธข้อเรียกร้องเกี่ยวกับสถานะอันศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิ ทำให้ปมนี้เป็นอันตกไป ส่วนหนึ่งเป็นเพราะนายพลแมคอาเธอร์คิดว่า พระองค์มีแนวโน้มที่จะเป็นพันธมิตรที่จะทำให้สหรัฐได้รับประโยชน์ในอนาคต อีกส่วนคือการดำเนินการของ[[ชิเงะรุ โยะชิดะ]] นายกรัฐมนตรี ที่ขัดขวางความพยายามที่จะทำให้จักรพรรดิเป็นพระมหากษัตริย์ตามในแบบของยุโรป
 
อย่างไรก็ตาม สหรัฐอเมริกาได้ถอดพระบรมวงศานุวงศ์บางพระองค์ออกจากฐานันดรศักดิ์เป็นสามัญชน
 
=== พระราชกรณียกิจ ===
[[ไฟล์:Hirohito.jpg|thumb|234px|สมเด็จพระจักรพรรดินี, [[เบ็ตตี ฟอร์ด|สุภาพสตรีฟอร์ด]], สมเด็จพระจักรพรรดิ และประธานาธิบดี[[เจอรัลด์ ฟอร์ด]] ที่ทำเนียบขาว พ.ศ. 2518]]
จักรพรรดิฮิโระฮิโตะ ทรงดำเนินพระราชกรณียกิจทั่วไปที่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ การขจัดทุกข์บำรุงสุขและให้กำลังใจแก่ประชาชน การปรากฏพระองค์ในพิธีการหรือเหตุการณ์สำคัญ นอกจากนี้ ยังทรงมีบทบาทสำคัญในด้านการสร้างภาพลักษณ์ทางการทูตของญี่ปุ่น เสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศอยู่บ่อยครั้งเพื่อพบปะกับผู้นำต่างประเทศ อาทิ [[สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร|สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2]] (พ.ศ. 2514) , ประธานาธิบดี[[เจอรัลด์ ฟอร์ด]] (พ.ศ. 2518) เป็นต้น
 
สมเด็จพระจักรพรรดิทรงให้ความสนใจและทรงรอบรู้เกี่ยวกับ[[ชีววิทยาทางทะเล]] ซึ่งภายใน[[พระราชวังโตเกียว]]มีห้องปฏิบัติการที่สมเด็จพระจักรพรรดิได้เผยแพร่เอกสารการค้นคว้าและวิจัยหลายด้าน ในนามแฝงของพระองค์ว่า "โช" ผลงานของพระองค์ก็อาทิ คำอธิบายเกี่ยวกับ[[ไฮโดรซัว]]หลากหลายสายพันธุ์<ref>{{cite web|url=http://www.marinespecies.org/hydrozoa/aphia.php?p=search |title=World Hydrozoa Database |publisher=Marinespecies.org |date= |accessdate=2010-10-03}}</ref>
 
== พระราชอิสริยยศ ==
* '''29 เมษายน พ.ศ. 2444 – 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2455''': เจ้ามิชิ
* '''30 กรกฎาคม พ.ศ. 2455 – 25 ธันวาคม พ.ศ. 2469''': มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น
* '''25 ธันวาคม พ.ศ. 2469 – 7 มกราคม พ.ศ. 2532''': สมเด็จพระจักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น
 
== เครื่องราชอิสริยาภรณ์ ==
* [[ไฟล์:Order of the Rajamitrabhorn (Thailand) ribbon.png|80px]] [[เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นมงคลยิ่งราชมิตราภรณ์]] (ร.ม.ภ.) ([[ประเทศไทย]])<ref>ราชกิจจานุเบกษา, [http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2507/D/022/571.PDF แจ้งความสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์แด่สมเด็จพระจักรพรรดิแห่งประเทศญี่ปุ่น], เล่ม ๘๑, ตอน ๒๒ง, ๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๐๗, หน้า ๕๗๑ </ref>
* [[ไฟล์:Order of the Royal House of Chakri (Thailand) ribbon.JPG|80px]] [[เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์]]ฝ่ายหน้า (ม.จ.ก.) ([[ประเทศไทย]])
 
== พงศาวลี ==
{{Ahnentafel top|width=100%}}
{{Ahnentafel-compact5
|style=font-size: 90%; line-height: 110%;
|border=1
|boxstyle=padding-top: 0; padding-bottom: 0;
|boxstyle_1=background-color: #fcc;
|boxstyle_2=background-color: #fb9;
|boxstyle_3=background-color: #ffc;
|boxstyle_4=background-color: #bfc;
|boxstyle_5=background-color: #9fe;
|1= 1.'''ฮิโระฮิโตะ, สมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ '''
|2= 2.[[จักรพรรดิไทโช|โยะชิฮิโตะ, สมเด็จพระจักรพรรดิไทโช]]
|3= 3.[[สมเด็จพระจักรพรรดินีเทเม|ซะดะโกะ คุโจ, สมเด็จพระจักรพรรดินีเทเม]]
|4= 4.[[จักรพรรดิเมจิ|มุสึฮิโตะ, จักรพรรดิเมจิ]]
|5= 5. พระสนมนะรุโกะ ยะนะงิวะระ
|6= 6.[[คุโจ มิชิตะกะ|เจ้าชายคุโจ มิชิตะกะ แห่งฟุจิวะระ]]
|7= 7. ท่านหญิงอิกุโกะ โนะมะ
|8= 8.[[จักรพรรดิโคเม|โอะซะฮิโตะ, สมเด็จพระจักรพรรดิโคเม]]
|9= 9.[[โยะชิโกะ นะกะยะมะ|พระสนมโยะชิโกะ นะกะยะมะ]]
|10= 10. ทะกะมิสึ ยะนะงิวะระ
|11= 11. อุตะโนะ ฮะเซะงะวะ
|12= 12.[[คุโจ ฮิซะตะดะ|เจ้าชายคุโจ ฮิซะตะดะ, ผู้สำเร็จราชการ]]
|13= 13. ท่านหญิงสึเนะโกะ คะระฮะชิ
|14= 14. โยะริโอะกิ โนะมะ
|15= 15.?
}}</center>
{{Ahnentafel bottom}}
 
== อ้างอิง ==
{{คอมมอนส์|Hirohito}}
{{รายการอ้างอิง}}
{{เริ่มอ้างอิง}}
* Behr, Edward Hirohito: Behind the Myth, Villard, New York, 1989. - A controversial book that posited that Hirohito had a more active role in WWII than had publicly been portrayed; it contributed to the re-appraisal of his role.
* Bix, Herbert P. Hirohito and the Making of Modern Japan, HarperCollins, 2000. ISBN 0-06-019314-X, A recent scholarly (and copiously sourced) look at the same issue.
* Drea, Edward J. (1998). "Chasing a Decisive Victory: Emperor Hirohito and Japan's War with the West (1941-1945)". In the Service of the Emperor: Essays on the *Imperial Japanese Army. Nebraska: University of Nebraska Press. ISBN 0-8032-1708-0.
* Fujiwara, Akira, Shōwa Tennō no Jū-go Nen Sensō (Shōwa Emperor's Fifteen-year War), Aoki Shoten, 1991. ISBN 4-250-91043-1 (Based on the primary sources)
* Hoyt, Edwin P. Hirohito: The Emperor and the Man, Praeger Publishers, 1992. ISBN 0-275-94069-1
* Kawahara, Toshiaki Hirohito and His Times: A Japanese Perspective, Kodansha International, 1997. ISBN 0-87011-979-6 (Japanese official image)
* Mosley, Leonard Hirohito, Emperor of Japan, Prentice-Hall, Englewood Cliffs, 1966. ISBN 1-111-75539-6 ISBN 1-199-99760-9, The first full-length biography, it gives his basic story.
* Wetzler, Peter Hirohito and War: Imperial Tradition and Military Decision Making in Prewar Japan, University of Hawaii Press, 1998. ISBN 0-8248-1925-X
* Yamada, Akira, Daigensui Shōwa Tennō (Shōwa Emperor as Commander in Chief), Shin-Nihon Shuppansha, 1994. ISBN 4-406-02285-6 (Based on the primary sources)
{{จบอ้างอิง}}<br>
 
{{เริ่มกล่อง}}
{{สืบตำแหน่ง
| รูปภาพ = Flag_of_the_Japanese_Emperor.svg
| ก่อนหน้า = [[สมเด็จพระจักรพรรดิไทโช]]
| ตำแหน่ง = [[จักรพรรดิแห่งญี่ปุ่น]]
| ราชวงศ์ = ราชวงศ์ญี่ปุ่น
| ปี = [[พ.ศ. 2469]] - [[พ.ศ. 2532]]
| ถัดไป = [[สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ]]
}}
{{สืบตำแหน่ง
| รูปภาพ = Japan_Koutaisi(son)_Flag.svg
| ตำแหน่ง = มกุฎราชกุมารแห่งญี่ปุ่น
| จำนวนตำแหน่ง =
| ก่อนหน้า = [[สมเด็จพระจักรพรรดิไทโช|เจ้าชายโยะชิฮิโตะ]] <br><small>''ภายหลังคือ จักรพรรดิไทโช''</small>
| จำนวนก่อนหน้า =
| ถัดไป = [[สมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ|เจ้าชายอะกิฮิโตะ]] <br><small>''ภายหลังคือ จักรพรรดิอะกิฮิโตะ''</small>
| จำนวนถัดไป =
| ช่วงเวลา = [[พ.ศ. 2457]] - [[พ.ศ. 2469]]
}}
{{สืบตำแหน่ง
| รูปภาพ = Japan_Sessyo_Flag.svg
| ตำแหน่ง = [[คัมปะกุ|ผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน]]
| จำนวนตำแหน่ง =
| ก่อนหน้า = ''ไม่มี''
| จำนวนก่อนหน้า =
| ถัดไป = ''ทรงขึ้นเป็นจักรพรรดิเอง''
| จำนวนถัดไป =
| ช่วงเวลา = [[พ.ศ. 2464]] - [[พ.ศ. 2469]]
}}
{{สืบตำแหน่ง
| ก่อนหน้า= [[สมเด็จพระจักรพรรดิไทโช]]
| ตำแหน่ง=[[เกาหลีภายใต้การปกครองของญี่ปุ่น|พระประมุขแห่งเกาหลี]]|
ราชวงศ์=ราชวงศ์ญี่ปุ่น|
ปี=[[พ.ศ. 2469]] - [[พ.ศ. 2488]]|
ถัดไป= สิ้นสุด <br> ''เกาหลีหลุดพ้นจากญี่ปุ่น''
}}
{{จบกล่อง}}
 
{{จักรพรรดิญี่ปุ่น}}
{{เจ้าชายแห่งญี่ปุ่น}}
{{พระบรมวงศานุวงศ์แห่งญี่ปุ่น}}
 
{{เกิดปี|2444}}{{ตายปี|2532}}
 
[[หมวดหมู่:จักรพรรดิญี่ปุ่น|ช]]
[[หมวดหมู่:ราชวงศ์ญี่ปุ่น]]
[[หมวดหมู่:สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ร.ม.ภ.]]
[[หมวดหมู่:สมาชิกเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ม.จ.ก. (ฝ่ายหน้า)]]
[[หมวดหมู่:ผู้นำในสงครามเย็น]]