ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จักรวรรดินิยม"

เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Xqbot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต: eo:Imperiismo เป็นบทความคุณภาพ; ปรับแต่งให้อ่านง่าย
บรรทัด 13:
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังจาก[[การล่มสลายของสหภาพโซเวียต]]และ[[รัฐบริวาร]]นั้น คำว่า "จักรวรรดินิยม" เกือบทั้งหมดจะถูกปรับระดับนำเอาไปใช้กับประเทศมหาอำนาจที่เหลืออยู่เพียงหนึ่งเดียวของโลก คือประเทศสหรัฐอเมริกา
 
เต้ รัก แนน
== ทฤษฎีมาร์กซิสต์เกี่ยวกับจักรวรรดินิยม ==
[[ลัทธิมาร์กซ|นักมาร์กซิสต์]]ใช้ศัพท์คำว่า "จักรวรรดินิยม" ในความหมายเช่นที่[[เลนิน]]ให้คำจำกัดความไว้คือ "สภาวะ/ขั้นตอนสูงสุดของลัทธิทุนนิยม" โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ทุนการเงินผูกขาดได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญยิ่ง ในการบีบให้ประเทศจักรวรรนิยมทั้งหลายต้องแข่งขันระหว่างกันเองเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้สามารถเข้าควบคุมแหล่งทรัพยากร และตลาดทั่วโลกไว้ได้ การเข้าควบคุมนี้อาจอยู่ทั้งในรูปแบบของการใช้เครื่องมือทางภูมิรัฐศาสตร์, การใช้กองกำลังทหารเข้ายึด หรือการยักย้ายถ่ายเททางการเงินก็ได้
 
สาระสำคัญของทฤษฎีมาร์กซิสต์ที่เกี่ยวกับลัทธิจักรวรรดินิยม หรือทฤษฎีที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น [[ทฤษฎีพึ่งพา]] (dependency theory) นั้นต่างก็มุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศต่างๆ มากกว่าความสัมพันธ์ที่ชัดเจนทางการเมือง ดังนั้นลัทธิจักรวรรดินิยมในทฤษฎีของมาร์กซิสต์จึงไม่เพียงแต่ประกอบด้วยการเข้าควบคุมปกครองประเทศใดประเทศหนึ่งโดยตรงเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงการกดขี่ขูดรีด แสวงหาผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจในภูมิภาคหนึ่ง โดยภูมิภาคอื่น ๆ หรือโดยกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจากนอกภูมิภาคด้วย ความหมายของจักรวรรดินิยมที่มาร์กซิสต์ใช้นี้ตรงกันข้ามกับความหมายที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ ซึ่งโดยปกติมักจะเข้าใจกันว่า "ลัทธิจักรวรรดินิยม" นั้นมีความหมายเกี่ยวข้องกับยุคสมัยที่ประเทศมหาอำนาจขยายอิทธิพลเข้าปกครองควบคุมเหนือดินแดนอันกว้างใหญ่ไพศาลไว้โดยตรง มากกว่าที่จะเป็นการเข้าควบคุมครอบงำทางเศรษฐกิจ อันเป็นลักษณะเหมือนกันกับที่บางประเทศในโลกปัจจุบันนี้เข้ามีอิทธิพลครอบงำเหนือชาติอื่นๆ ซึ่งความเข้าใจในลักษณะนี้ เป็นผลมาจากการผนวกรวมเอาความหมายของลัทธิจักรวรรดินิยม เข้ากับคำว่า [[ลัทธิอาณานิคม]] ซึ่งเป็นการขยายอำนาจด้วยการเข้าไปตั้งดินแดนภายใต้ปกครองหรืออาณานิคมขึ้นในดินแดนโพ้นทะเล
 
แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วมาร์กซิสต์จะพิจารณาว่ามหาอำนาจเจ้าจักรวรรดินั้นมักเป็นประเทศ[[ทุนนิยม]]แห่งโลกที่ 1 แต่ก็มีมาร์กซิสต์บางกลุ่ม (เบื้องต้นคือกลุ่ม[[ลัทธิเหมานิยม|นิยมเหมา]]และกลุ่มอื่นๆ อีกหลายกลุ่ม) ที่เชื่อว่า ท้ายที่สุดแล้ว[[สหภาพโซเวียต]] ก็จะพัฒนากลายไปเป็น "[[สังคม-จักรวรรดินิยม]]" (social-imperialist) ด้วย --- นั่นคือเป็น "สังคมนิยมโดยคำพูดแต่เป็นจักรวรรดินิยมโดยการกระทำ" ซึ่งหมายถึงการที่สหภาพโซเวียตใช้กำลังอำนาจและอิทธิพลเข้าครอบงำประเทศใน[[กลุ่มยุโรปตะวันออก]] และประเทศอื่นๆอีกหลายประเทศ
 
[[สาธารณรัฐประชาชนจีน|จีน]] [[อินเดีย]] และประเทศขนาดใหญ่อื่น ๆ อีกหลายประเทศที่มีอิทธิพลโดดเด่นในแต่ละภูมิภาคของโลกนั้น บางครั้งก็ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมเป็นผู้นิยมในลัทธิจักรวรรดินิยม ด้วยเช่นกัน
 
เป็นที่น่าสังเกตว่า [[มาร์กซ]]เองนั้น ไม่ได้ประกาศหรือเสนอ ทฤษฎีเกี่ยวกับลัทธิจักรวรรดินิยมไว้เลย และมีความเห็นตรงกันข้ามกับนักคิดมาร์กซิสต์รุ่นต่อๆมา ซึ่งโดยทั่วไปมองว่า [[ลัทธิอาณานิคม]] ของชาติมหาอำนาจยุโรปเป็นสิ่งที่มีความสำคัญยิ่งในการแพร่ขยายลัทธิทุนนิยมออกไปทั่วโลก มากกว่าที่จะมองว่า เป็นการปล้นสะดมประเทศอาณานิคมเหล่านั้นเพื่อกอบโกยผลประโยชน์ไปให้แก่ประเทศแม่ที่เป็นศูนย์กลางอยู่ในยุโรป
 
พัฒนาการใหม่ในแนวคิดของมาร์กซิสต์ศึกษาเกี่ยวกับลัทธิจักรวรรดินิยมได้ก่อกำเนิดขึ้นจาก การวางรากฐานครั้งสำคัญของหนังสือ "''[[ยุคแห่งลัทธิจักรวรรดินิยม]]''" (The Age of Imperialism) ซึ่งเขียนขึ้นโดย [[แฮร์รี แมกดอฟฟ์]] (Harry Magdoff) ในปีค.ศ. 1969 ปัจจุบันนี้ มีความเห็นโดยทั่วไปด้วยว่า [[โลกาภิวัตน์]] (Globalization) นั้น แท้จริงแล้วก็คือ การกลับชาติมาเกิดใหม่ของ ลัทธิจักรรดินิยมนั่นเอง
 
== ลัทธิจักรวรรดินิยมสมัยใหม่ ==