ผู้ใช้:Yuranan senlem/กระบะทราย
โรงเรียนแสงธรรมวิทยามูลนิธิ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา
แก้โรงเรียนแสงธรรมวิทยามูลนิธิ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เป็นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ปัจจุบันได้เปิดสอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ตั้งอยู่ใจกลางตลาดจะนะ
ประวัติโรงเรียน
แก้ประวัติผู้ก่อตั้งโรงเรียนฮัจยีหมัดนอร์ เจะโส๊ะเจะหลี ฮัจยีหมัดนอร์ เจะโส๊ะเจะหลี หรือที่เรียกท่านว่า “บาบอ” แห่งมัสยิดนูรุดดีน ( ตลาดแขก ) อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2443 เริ่มเรียนศาสนาที่ปอเนาะจะเอาะ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี แล้วไปศึกษาต่อที่นครเมกกะฮ์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย เมื่ออายุ 30 ปี และที่นั่นท่านได้แต่งงานกับฮัจยะห์แลหอ ซึ่งเป็นชาวคลองข่า ต. นาทับ ท่านเรียนด้านศาสนาอยู่ที่นครเมกกะห์ ถึง 10 ปี มีบุตรที่นครเมกกะห์ 3 คน คือ ฮัจยีฮูเส็น ( เยาะฮ์นอร์ ) ฮัจยีหมูด และฮัจยียอ หลังจากกลับมาอยู่จะนะ ได้มีบุตรอีก 3 คน คือ ฮัจยียา อีหม่ามมัสยิดนูรุดดีน ตำบลบ้านนา อำเภอจะนะ, ฮัจยะห์คอพเส๊าะ นิยมเดชา, ฮัจยะห์อารียา หัสราม ( เมาะสูซะห์ )
ท่านได้สร้างมัสยิดและปอเนาะขึ้นเป็นครั้งแรกในอำเภอจะนะ ในสมัยที่อำเภอจะนะยังอยู่ในเขตตำบลจะโหนง ( ปัจจุบัน ) บริเวณใกล้ๆมัสยิด แต่ก่อนนั้นชาวไทยมุสลิมหลายคน ไม่ค่อยได้เรียนรู้ด้านศาสนา ประพฤติตน ไม่ค่อยเหมาะสม เมื่อท่านตักเตือนและพยายามชักนำให้หันมาสนใจศาสนา กลับถูกบางคนโกรธแค้นและมีปฏิกิริยาไม่พอใจ ถึงกับขุดหลุมดักทางที่ท่านเดินก็มี
ถึงแม้ท่านจะเป็นผู้ที่เคร่งในศาสนาและเป็นโต๊ะครูสอนในหลักการศาสนาอิสลาม แต่ท่านก็มีความสนิทสนมกับพี่น้องไทยพุทธหลายคนที่อยู่ในตลาดจะนะ เช่นท่านขุนจันทร์พันธ์เขต , ท่านศึกษาแดง เฑียรกาญจน์ , กำนันนอง , ปลัดชัยยศและโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับท่านพระครูศาสนโสภณหรือพ่อท่านพุ่ม เจ้าอาวาสวัดกาญจนวาส ได้ไปพบปะเยี่ยมเยียนกันและเป็นเพื่อนร่วมคิดในการหาแนวทางเพื่อที่จะพัฒนาอำเภอจะนะอยู่เสมอ
ตลอดชีวิตของท่าน ได้ทุ่มเททั้งกายและใจอบรมสั่งสอนความรู้ทางศาสนาแก่ชนมุสลิมทั่วไปเพื่อให้ได้มาซึ่งคุณธรรมและจริยธรรม ลูกศิษย์ลูกหาของท่าน ล้วนแล้วเป็นผู้นำทั้งทางด้านศาสนาและทางสังคมในหลายท้องที่ เช่น โต๊ะครูกาด อิหม่ามมัสยิดปาดังเบซาร์ , โต๊ะครูอาบัส อิหม่ามมัสยิดบ้านควน หาดใหญ่ ,โต๊ะครูสิราด วิชัยสาร อดีตประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา , ฮัจยีเจ๊ะยิ อิหม่ามมัสยิดสะกอม , ฮัจยีเล๊าะ อิหม่ามมัสยิดบ้านแพร้ว , โต๊ะครูฮัจยีมานับ กาเหย็ม อดีตกรรมการอิสลามจังหวัดสงขลา , ท่านอาศิส พิทักษ์คุมพล ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา( ปัจจุบัน ) เป็นต้น
ท่านได้ดำรงตำแหน่งกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา นานถึง 30 ปี และสิ้นสุดเมื่อท่านได้สิ้นชีวิตลง เมื่อปีพ.ศ. 2517 รวมอายุ 74 ปี คุณสมบัติและความสามารถของท่านในด้านการสอนพระมหาคัมภีร์อัลกุรอ่าน เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการปกครองลูกศิษย์ ความเด็ดขาด จ้ำจี้จ้ำไช ไม่เคยวางเฉยเมื่อเห็นใครย่อหย่อนในความประพฤติและทุกคนต่างให้ความเคารพและยำเกรง
“บาบอฮัจยีหมัดนอร์ ” จึงเป็นแบบอย่างที่ดีและอยู่ในความทรงจำตลอดจนเป็นปูชนียบุคคลที่พี่น้องมุสลิมชาวอำเภอจะนะ ไม่อาจที่จะลืมบุคคลท่านนี้ได้ตลอดไป...
โรงเรียนแสงธรรมวิทยามูลนิธิตั้งอยู่บ้านเลขที่ 266 หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านนา อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ในเขตเทศบาลตำบลจะนะ บนพื้นที่ 2 ไร่3 งาน 38 ตารางวา ตั้งอยู่ใจกลางอำเภอจะนะ เมื่อปี พ.ศ 2490 พี่น้องมุสลิมที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ในบริเวณโรงเรียน ได้ร่วมมือกันจัดตั้งขึ้น มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นสถานที่สอนวิชาศาสนาอิสลามแก่เยาวชน และเป็นศูนย์อบรมคุณธรรม จริยธรรม โดยสร้างอาคารเรือนไม้ 1 ชั้น มีชื่อว่า “อนูรุดดีน” แล้วมอบหมายให้ โต๊ะครูหะยีมัดนอด เจะโส๊ะเจะหลี เป็นผู้ดำเนินการสอน ซึ่งชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า โรงเรียนปอเนาะ
ปี พ.ศ. 2512 ข้อความตัวเอนทางราชการมีคำสั่งให้โรงเรียนปอเนาะทุกแห่งในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอจดทะเบียนเป็นโรงเรียนราษฏร์สอนศาสนาอิสลาม และพร้อมกันนั้นทางโรงเรียนได้เปลี่ยนผู้บริหารคนใหม่ คือ โต๊ะครูหะยีอุเส็น เจะโส๊ะเจะหลี เป็นผู้รับใบอนุญาต/ผู้จัดการ และมีนายเจะเด็น หมีนยะลา เป็นครูใหญ่
ต่อมาปี พ.ศ. 2526 ทางโรงเรียนได้ดำเนินการสอนเพิ่มในระดับ 4 โดยมีข้าราชการครูหมุนเวียนช่วยเหลือ 4 คน
ปี พ.ศ. 2528โรงเรียนได้เปลี่ยนหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียน
ปี พ.ศ. 2535 ทางรัฐบาลได้แต่งตั้งข้าราชการครู ส.ช. สอนวิชาสามัญ 2 คน ให้กับทางโรงเรียน
ปี พ.ศ. 2536 เมื่อวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2536 ผู้รับใบอนุญาตเสียชีวิตลง จึงแต่งตั้งให้นางสาวปูซีย๊ะ เจะโส๊ะเจะหลี ทำการชั่วคราว และแต่งตั้งเป็นผู้จัดการโรงเรียน
ปี พ.ศ. 2537 ทางโรงเรียนได้รับข้าราชการครู ส.ช. เพิ่มอีก 2 คน
ปี พ.ศ. 2537 โรงเรียนได้เปลี่ยนเป็นหลักสูตรอิสลามศึกษาตอนต้น ม. 1 - 2
ปี พ.ศ.2537 ได้แต่งตั้งนางสารียะ เจะโส๊ะเจะหลี เป็นผู้รับใบอนุญาต
ปี พ.ศ. 2539 ได้แต่งตั้งนายอิสมาแอล หมินหวัง เป็นผู้จัดการโรงเรียน
ปี พ.ศ. 2540 ได้เปลี่ยนแปลงจาก 15 ( 2 ) เป็นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามมาตรา 15
ในปีการศึกษา 2545 โรงเรียนได้รับอนุญาตให้มีความจุนักเรียนได้ 965 คน ทางโรงเรียนจึงขยายการรับสมัครนักเรียน
ในปีการศึกษา 2546 ทางโรงเรียนได้รับอุดหนุนเพิ่มจากภาครัฐจาก 10 % เพิ่มเป็น 60 % และขณะเดียวกันโรงเรียนมีโครงการสร้างอาคารเรียน 3 ชั้น 12 ห้องเรียน และดำเนินการทำแบบแปลงเรียบร้อยแล้วและได้ยื่นคำร้องขออนุญาตใช้แบบแปลนเพื่ออนุมัติดำเนินการต่อไป ปี พ.ศ. 2542 ได้เปลี่ยนเป็นหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนต้น –อิสลามตอนต้น ( อิบดีตาอียะห์ ) และเปิดสอนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย – อิสลามศึกษาตอนกลาง ( มูตาวัซซิเฏาะฮ์ )
ปี พ.ศ. 2548 ได้แปรสภาพจากโรงเรียน 15 (1) เป็นมูลนิธิและเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนแสงธรรมวิทยามูลนิธิโดยโอนกิจการให้กับมูลนิธิเพื่อการศึกษานูรุดดีน มีนายอิสมาแอล หมินหวัง เป็นประธานมูลนิธิ และนายอับดลฟัตตาห์ เจะโส๊ะเจะหลี เป็นผู้ลงนามแทนผู้รับใบอนุญาตและขออนุญาตเปลี่ยนชื่อโรงเรียนมาเป็น “ โรงเรียนแสงธรรมวิทยามูลนิธิ ”
ปี พ.ศ. 2549 ทางโรงเรียนได้รับอนุญาตให้มีความจุนักเรียนได้ 1,565 คนปัจจุบันมีจำนวนนักเรียนทั้งหมด 938 คน ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นมีจำนวนนักเรียนทั้งหมด 467 คน เพศชาย 225 คน เพศหญิง 242 คน และระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายมีจำนวนนักเรียนทั้งหมด 471 คน เพศชาย 185 คน เพศหญิง 285 คน มีบุคลากรครูสามัญมีจำนวน 39 คน ชาย 7 คน หญิง 22 คน บุคลากรศาสนามีจำนวน 29 คน ชาย 16คน หญิง 13 คน รวมจำนวนบุคลากรทั้งสิ้น 68 คน
วิสัยทัศน์
แก้โรงเรียนแสงธรรมวิทยามูลนิธิ มุ่งจัดการศึกษาให้นักเรียนรักการศึกษา ค้นคว้าแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง เป็นเยาวชนมุสลิมที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรม ปฎิบัติศาสนกิจ ได้ถูกต้องตามหลักการศาสนบัญญัติ มีระเบียบวินัย ห่างไกลยาเสพติด มีสุขภาพพลานามัยที่ดี มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข พัฒนาบุคลากรสู่มาตรฐานวิชาชีพ บริหารจัดการและประสานงาน โดยยึดหลักการมีส่วนร่วม จัดสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้
พันธกิจ
แก้- จัดการเรียนการสอนครบตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
- ส่งเสริมผู้เรียนให้เป็นเยาวชนมุสลิมที่ดี ปฎิบัติศาสนกิจได้ถูกต้อง มีคุณธรรม จริยธรรมและมีความเสียสละ
- ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนมีสุขภาพพลานามัยที่ดีทั้งร่างกาย สติปัญญา อารมณ์และสังคม
- ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
- พัฒนาบุคลากรครูสู่มาตรฐานวิชาชีพ สามารถจัดการเรียนการสอนโดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญปฎิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี
- บริหารจัดการและประสานงานโดยยึดหลักการมีส่วนร่วม มีการส่งเสริมผู้เรียนอย่างหลากหลาย จัดสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่เอื้อต่อการเรียนรู้
- ร่วมมือกับชุมชนในการทำกิจกรรมต่างๆที่สร้างสรรค์และเป็นประโยชน์
ความหมายของสัญลักษณ์โรงเรียนแสงธรรมวิทยามูลนิธิ
แก้คัมภีร์อัลกุรอ่าน หมายถึง ธรรมนูญแห่งการดำเนินชีวิตของมุสลิม
คบเพลิง หมายถึง ความสว่างที่นำไปสู่ทางนำ
สีประจำโรงเรียนแสงธรรมวิทยามูลนิธิ
แก้สีประจำโรงเรียน คือ กรมท่า - ขาว สีกรมท่า หมายถึง ความเข้มแข็ง ความกล้าหาญ สีขาว หมายถึง ศาสนาที่บริสุทธิ์
ปรัชญาโรงเรียนแสงธรรมวิทยามูลนิธิ
แก้ยึดมั่นศาสนา หมายถึง มุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจในหลักการสอนของศาสนาอิสลาม ตลอดจนยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดถูกต้อง มีวินัย หมายถึง ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีจิตสำนึกในความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัวและสังคม สร้างความเจริญงอกงามด้านคุณธรรมและจริยธรรม ใฝ่ศึกษา หมายถึง ส่งเสริมให้ผู้เรียนศึกษาหาความรู้ด้วยตนเอง เป็นผู้ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน เพื่อนำความรู้มาประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตอย่างมีความสุข จรรยางาม หมายถึง ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีความประพฤติเรียบร้อย อยู่ในกรอบความถูกต้อง ดีงาม ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคม
เพลงมาร์ช โรงเรียน
แก้นุรุดดีนนั้นคือแสงสว่างแห่งศาสนา--------ชุบชีวาเยาวชนสู่ความฝัน
ด้วยความรักความศรัทธาความผูกพัน-----จึงช่วยกันก่อตั้ง โรงเรียนมา
ให้ชื่อภาษาไทยสุดงามล้ำ---------------เป็นแสงธรรมวิทยานำศึกษา
มุ่งสร้างเด็กพัฒนาเสริมปัญญา-----------ทันโลกาให้ก้าวไกลในผองชน
(ซ้ำ)โรงเรียนเอกชนสอนศาสนา----------สอนภาษาอาหรับไทยไม่สับสน
สอนศิษย์รักให้รู้ค่าความเป็นคน----------ไม่อับจนหนทางหวังได้ดี
การกีฬา การเรียนเพียนขยัน-------------ร่วมผ่าพันสรรสร้างทางสุขขี
เล่นด้วยรัก มีวินัย สามัคคี--------------ประพฤติดี มีคุณธรรมและน้ำใจ
โอ้พวกเรากรมท่า – ขาว ชาวแสงธรรม-----ลิศล้ำวิชาการด้านศึกษา
ให้เขาลือไปทั่วแคว้นแดนโลกา-----------เพื่อศาสนา เพื่อเยาวชนคนมุสลิม (ซ้ำ)