ผู้ใช้:Sappebeauty/ทดลองเขียน

บริษัท ทรัพย์อนันต์ เยนเนอรัลฟู้ด จำกัด แก้

ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแบรนด์ “โมกุโมกุ” และ “เซ็ปเป้” แก้

ปี พ.ศ. 2516 คู่สามีภรรยา(คุณพ่อและคุณแม่ของคุณอดิศักดิ์) ที่ที่มีใจรักในการทำขนม ได้ซื้อเตาอบเล็กๆ เพื่อใช้ในการผลิต "คุกกี้" ขายตามสถานีรถไฟและสถานีขนส่ง ด้วยความใส่ใจในเรื่องคุณภาพและรสชาติ จึงได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จนทำให้มีสินค้าหลากหลายมากขึ้น ภายใต้แบรนด์ "ปิยจิต" กิจการได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง จนในปี พ.ศ. 2531 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ทรัพย์อนันต์ เยนเนอรัลฟู้ด และได้ย้ายฐานการผลิตไปยังโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมบางชัน ปี พ.ศ. 2544 บริษัท ทรัพย์อนันต์ เยนเนอรัลฟู้ด จำกัด เริ่มเข้าสู่อุตสาหกรรมเครื่องดื่ม โดยเริ่มต้นจาก "โมกุโมกุ" น้ำผลไม้ผสมวุ้นมะพร้าวรายแรกของตลาด โดยมีเจตนารมณ์ที่ต้องการผลิตสินค้าคุณภาพ รสชาติอร่อย และเป็นทางเลือกใหม่ให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งในขณะนั้นตลาดเครื่องดื่มในเมืองไทยยังมีความหลากหลายน้อยมากเมื่อเทียบกับตลาดต่างประเทศ ซึ่ง "โมกุโมกุ" ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยมาตลอดกว่า 7 ปี และล่าสุดบริษัท ทรัพย์อนันต์ เยนเนอรัลฟู้ด จำกัด ได้ระงับการผลิต โมกุโมกุ ในปี 2553 เพื่อให้ผู้บริโภคได้คิดถึง

หลังจาก "โมกุโมกุ"ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ในปี พ.ศ. 2549 คุณอดิศักดิ์ รักอริยะพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทรัพย์อนันต์ เยนเนอรัลฟู้ด จำกัด ผู้บริหารรุ่นที่ 2 ของครอบครัว ก็ได้สร้างหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับตลาดเครื่องดื่ม ของไทย ด้วยการส่งเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพแนวใหม่ ภายใต้แบรนด์ "เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์" ชูแนวคิด "แค่ดื่ม...ก็สวย!!" โฟกัส ในเรื่อง "ความงาม" อย่างชัดเจน ซึ่งตรงกับความต้องการของผู้บริโภคคนไทย ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของความงาม เป็นอันดับแรก นับเป็นการสร้างแคทธิเกอรี่ใหม่ให้กับฟังก์ชันนัลดริงค์อย่างชัดเจนเป็นรายแรก ปลุกกระแสของผู้บริโภคเกี่ยวกับอาหารและเครื่องดื่มที่เน้นดื่มแล้วสวย ดื่มแล้วผอม จนประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยปากต่อปาก แบบไร้งบการตลาด และหลังจากนั้น "เซ็ปเป้"ก็ได้กลายเป็นแบรนด์ที่เป็นตัวแทนของกลุ่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจากบริษัท ทรัพย์อนันต์ เยนเนอรัลฟู้ด จำกัด ที่มุ่งมั่นนำเสนอทางเลือกใหม่ๆ ออกสู่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และได้รับการตอบรับอย่างดีมากในปัจจุบัน

“เซ็ปเป้” ผลิตภัณฑ์ที่เป็น Innovative ยังให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้าใจแก่ผู้บริโภค โดยเลือกวิธีสื่อสารผ่าน Packaging ของผลิตภัณฑ์ทุกรูปแบบ ตั้งแต่ชื่อ แบรนด์ บรรจุภัณฑ์ที่แตกต่างกับขวดทรงพีระมิด ลวดลาย และนับเป็น รายแรกอีกเช่นกันที่ใช้ Neck Tag เป็นกลยุทธ์ในการอธิบายคุณสมบัติเฉพาะตัวของแต่ละผลิตภัณฑ์ จนส่งให้ บิวติ ดริ้งค์ ก้าวขึ้นเป็นอันดับ 1 เฉกเช่นทุกวันนี้ อีกทั้งผลิตภัณฑ์วางจำหน่ายในร้าน Convenience store, G-store และ Supermarket ทั่วประเทศเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคอย่างสูงสุด ซึ่งทำให้ “โมกุโมกุ” และผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มภายใต้แบรนด์ “เซ็ปเป้” กลายเป็นสินค้าที่เป็นที่ยอมรับกว่า 37 ประเทศทั่วโลก ทั้งใน Asia, South East Asia, Middle East, America และ Europe

แหล่งข้อมูลอื่น แก้