ผู้ใช้:Sakhoncomputer/ปฏิรูปประเทศไทยใครต้องเริ่ม

ปฏิรูปประเทศไทยใครต้องเริ่ม

ในภาวะสถานการณ์บ้านเมืองที่ร้อนระอุ ซึ่งสุมเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรง และสงครามกลางเมืองในขณะนี้ ประเด็นที่หยิบยกขึ้นมาพูดและถกเถียงกัน ก็คงไม่พ้นการ “ปฏิรูปประเทศไทย” ที่หลายฝ่ายมองว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องเอาจริงเอาจังเสียที แน่นอนว่าร้อยละเก้าสิบของประชาชนในประเทศไทยไม่ว่าจะฝักใฝ่ฝ่ายใดล้วนเห็นด้วยกับวาทะกรรมดังกล่าวอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ที่เป็นประเด็นให้เราต้องขบคิดก็คือ แท้จริงแล้วใครควรจะต้องเป็นผู้ริเริ่มและนำพาประเทศไปสู่การปฏิรูปอย่างแท้จริงกันเล่า

จุดเริ่มต้นของวิกฤติการณ์การเมืองไทยในเวลานี้ เริ่มมาจากการออกพระราชบัญญํตินิรโทษกรรมเจ้าปัญหาที่เป็นเหตุให้เกิดการรวมตัวขึ้นของกลุ่มบุคคลที่ไม่พอใจฝั่งรัฐบาลรวมไปถึงนักการเมืองชื่อดังอย่างคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ สส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่เสนอตัวนำมวลมหาประชาชนที่ไม่เห็นด้วยออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลในขณะนั้นถอนกฏหมายดังกล่าวออกไปเสีย ซึ่งแน่นอนว่าก็มีการหยิบยกประเด็นเรื่องการโกงกิน และการคอรัปชั่นต่าง ๆ นา ๆ ของรัฐบาลชุดนี้ขึ้นมากล่าวอ้าง และเรียกร้องให้เกิดการปฏิรูปประเทศไทยขึ้น นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของวาทะกรรมที่ยาวนานกินเวลานานนับเดือน และผลักประเทศไทยเข้าสู่สภาวะสุญญากาศซึ่งยังไม่เห็นทางออกในเวลานี้ ไม่น่าเชื่อว่ากระแสตอบรับของมวลชนในขณะนั้นค่อนข้างดีมากทีเดียว ส่วนนึงอาจจะเป็นเพราะหลายฝ่ายทั้งฝั่งที่สนับสนุนรัฐบาลเอง และฝ่ายที่ต่อต้านล้วนมีจุดร่วมตรงกันอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนก็คือ ต่างไม่ยอมให้ผู้นำฝ่ายตรงข้ามได้รับการนิรโทษกรรมจากความผิดทางการเมืองใด ๆ ที่เคยก่อขึ้น ทำให้รัฐบาลในขณะนั้นจำต้องล่าถอยในการยื่นเสนอกฎหมายดังกล่าว และทำสัญญาประชาคมที่จะไม่เสนอกฎหมายนี้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาอีก กระนั้นก็ยังไม่วายที่ฝั่งที่ต่อต้านจะหยิบยกประเด็นที่ร้อนแรงในขณะนั้นก็คือคำพิพากษาของศาลโลกกรณีเขาพระวิหารขึ้นมาเพื่อหวังล้มล้างรัฐบาล โดยกดดันให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ยุบสภา ซึ่งจนแล้วจนรอดกระบวนการกดดันของฝ่ายต่อต้านก็ประสบผลสำเร็จ นายกยิ่งลักษณ์ตัดสินใจที่จะยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ มาถึงจุดนี้ประเด็นเรื่องการปฏิรูปประเทศไทยก็ถูกหยิบยกขึ้นมาอีกครั้ง โดยมุ่งเน้นไปที่เรื่องของการปฏิรูปการเลือกตั้ง และกฎหมายต่อต้านการทุจริตที่ฝ่ายที่ต่อต้านอ้างว่าล้าสมัย และเอื้อประโยชน์ให้กับนักการเมืองและพวกพ้องในการเข้ามาโกงกินงบประมาณของประเทศชาติ และถือเป็นจุดสูงสุดของฝ่ายต่อต้านในขณะนั้นทั้งในเรื่องของจำนวนผู้สนับสนุนและหัวข้อที่นำเสนอในการปฏิรูปประเทศไทย แถมฝ่ายรัฐบาลยังมาเพลี่ยงพล้ำอีกรอบเรื่องเงินจำนำข้าวที่ไม่สามารถจ่ายคืนชาวนาได้ รวมถึงพฤติกรรมที่น่าสงสัยในเรื่องของรายได้ และบัญชีรับจ่ายของข้าวที่รับซื้อที่ยังคลุมเคลือและผู้เกี่ยวข้องอย่างกระทรวงพาณิชย์ไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนต่อสังคมได้ แต่จุดที่ทำให้ฝ่ายที่ต่อต้านรัฐบาลเริ่มอ่อนแรงก็คือการยื้อเวลาไม่หยุดกระบวนการเคลื่อนไหวของตัวเอง และผลักไสผู้ที่คิดต่างไปอยู่ฝั่งตรงข้ามของตน จนประชาชนบางส่วนเกิดความไม่พอใจ และเรียกร้องให้ยุติการชุมนุมเสียที ทำให้ประเด็นเรื่องการปฏิรูปประเทศไทยที่ได้เคยหยิบยกไว้ถูกให้ความสำคัญลดลงเพราะถูกมองให้กลายเป็นประเด็นทางการเมืองที่ฝ่ายต่อต้านกล่าวอ้างเพื่อล้มล้างรัฐบาล เรื่องราวที่เกิดขึ้นเรียกร้องให้เราต้องหันมาพิจารณว่าควรพึ่งพาและฝากการปฏิรูปประเทศไทยไว้กับใคร จริง ๆ แล้วประเทศไทยควรได้รับการปฏิรูปมานานแล้วใช่หรือไม่ และเหตุใดเราจึงต้องพึ่งพานักการเมืองเพื่อมาปฏิรูปประเทศ ซึ่งสุดท้ายก็อาจกลับกลายเป็นเครื่องมือของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการเคลื่อไหวเพื่อผลประโยชน์ของตนเองก็เป็นได้ จริง ๆ แล้วการปกครองในระบบประชาธิปไตยนั้นมุ่งเน้นให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองประเทศและเปลี่ยนแปลงประเทศมากกว่าระบบใด ๆ ในโลกนี้ โดยประชาชนสามารถใช้อำนาจต่าง ๆ ผ่านทางสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ตนเลือกเข้าไป น่าเสียดายที่ต้องยอมรับความเป็นจริงว่าในประเทศไทยนั้นประชาชนมีความตระหนักรู้และสนใจในเรื่องของการเมืองค่อนข้างน้อย การเคลื่อนไหวต่าง ๆ มักเกิดขึ้นโดยกลุ่มชนชั้นนำ ซึ่งต่างจากประเทศที่ประชาธิปไตยเบ่งบานอีกหลาย ๆ ประเทศ ที่ประชากรของประเทศเหล่านั้นมีการตื่นตัวและตระหนักถึงหน้าที่และความมีส่วนร่วมของตนเองต่อระบบการเมืองทำให้นักการเมืองต้องให้ความสำคัญกับนโยบายและภาพลักษณ์ของตัวเองเป็นอย่างมาก ทำให้ระบบการใช้อำนาจของภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นการออกกฎหมาย หรือการใช้จ่ายงบประมาณถูกจับจ้องและตรวจสอบจากประชาชนของประเทศอย่างสม่ำเสมอ สิ่งหนึ่งที่ประชากรของประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่มีก็คือ การตระหนักว่าตนเองนั้นเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศ และตนเองก็เป็นเจ้าของประเทศคนหนึ่งที่สามารถวิจารณ์และให้ความเห็นใด ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมได้

จากที่กล่าวมาแล้วข้างต้น การปฏิรูปประเทศไทยเป็นโจทย์ใหญ่ที่เร่งด่วนและสำคัญอย่างมาก ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องควรหันมามุ่งเน้นไปยังผู้มีอำนาจเปลี่ยนแปลงประเทศอย่างแท้จริงนั่นก็คือ ประชาชนชาวไทย โดยการสร้างความมีส่วนร่วมและการตระหนักรู้ให้แก่ผู้คนเพื่อช่วยในการปฏิรูปประเทศไทยอย่างแท้จริง หรือจะต้องรอให้เกิดการนองเลือดและสูญเสียกันไปอย่างมากมายมหาศาลจนไม่อาจเยียวยาได้เสียก่อน ปฏิรูปประเทศไทย