ผู้ใช้:ส.ณ.บรรณวิชญ์ จิตแหลม/ทดลองเขียน

[1]ประวัติวัดบ้านใหม่

        วัดบ้านใหม่ ตั้งอยู่เลขที่ ๓๒๐ ถนนราษฎรบำรุง บ้านใหม่ หมู่ที่ ๖ ตำบลวังเหนืออำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๑๑ ไร่ ๑ งาน อาณาเขต ทิศเหนือประมาณ ๒๒ เส้น ๘ วา จดถนนสาธารณะ ทิศใต้ประมาณ ๒๐ เส้น  ๑๒ วา จดถนนสาธารณะ ทิศตะวันออกประมาณ      ๕ เส้น ๑๐ วา จดแม่น้ำวัง ทิศตะวันตกประมาณ ๓ เส้น ๑๕ วา จดถนนสาธารณะ อาคารเสนาสนะ ประกอบด้วย อุโบสถ วิหารหลวง วิหารหลังเล็ก พระธาตุ กุฏิ ศาลาราย พิพิธภัณฑ์นิเวศธรรมารักษ์ อาคารหอประชุมสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หอฉัน หอระฆัง อาคารเรียนโรงเรียนพระปริยัติธรรม(แผนกสามัญศึกษา) และศาลาปฏิบัติธรรมกลางน้ำ ปูชนียวัตถุ มีพระพุทธรูปปูนปั้นองค์ใหญ่จำนวน ๔ องค์ พระพุทธรูปเนื้อนวโลหะ พระพุทธรูปเนื้อสำริด พระพุทธรูปไม้แกะขนาดต่างๆ และพระพุทรูปไม้ขนุนแกะองค์ใหญ่

         วัดบ้านใหม่ สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๓๘๗ โดยมีพ่อเฒ่าท้าวก๋า เป็นผู้นำในการสร้างวัด โดยให้ชื่อว่า    

“วัดบ้านใหม่สิงห์ชัย” ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๔๔ ครูบาธิ วัดบ้านแคร่ เมืองลำปาง พร้อมกับพระภิกษุสามเณรอีก ๘ รูป และญาติโยม ได้พากันอพยพจากบ้านแคร่ขึ้นมาถึงบ้านใหม่ จึงได้สร้างวัดขึ้นใหม่อีกแห่งหนึ่ง ติดกันด้านทิศเหนือของวัดเดิม โดยปลูกต้นโพธิ์ไว้ตรงระหว่างกลางวัดเหนือและวัดใต้ โดยให้ชื่อวัดทั้งสองว่า       “วัดบ้านใหม่สิงห์ชัยด้านเหนือ และวัดบ้านใหม่สิงห์ชัยด้านใต้” ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาวันที่ ๖ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๙๒ การบริหารการปกครองมีเจ้าอาวาส  ๑๘  รูป ดังนี้.-

เจ้าอาวาสรูปที่ ๑  ครูบาเจ้าชินะ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านใหม่รูปแรก ท่านจำพรรษาอยู่นานเท่าใด จะมรณภาพหรือลาสิกขาก็ไม่ปรากฏ หลักฐานยืนยัน ว่า พ.ศ.ใด

เจ้าอาวาสรูปที่ ๒ ครูบาพุทธิมา คณะนั้นศรัทธาชาวบ้านใหม่มี ๒๐ ครอบครัว ท่านนำพระภิกษุ-สามเณร และศรัทธาญาติโยมซ้อมแซมกุฏิวิหารที่ชำรุดให้มีสภาพใช้การต่อไปได้ ครูบาท่านนี้มาจากไหน จำพรรษาที่วัดนี้นานเท่าใด ลาสิกขาหรือมรณภาพก็ไม่ปรากฏเช่นกัน

เจ้าอาวาสรูปที่ ๓ ครูบาปัญญา ท่านเป็นคนบ้านใหม่นี้เอง คณะนั้นศรัทธาชาวบ้านมี ๒๕ ครอบครัวเรือน ท่านได้นำพระเณร และญาติโยมก่อสร้างถาวรวัตถุเพิ่มเติม มีการพัฒนาด้านอื่นๆ ให้ดีขึ้นกว่าเดิม แต่ท่านก็ดำรงสมณะเพศอยู่ได้ไม่นานนักเพราะตัดรักตัดหลงในสงสารยังไม่ขาด จึงอำลาอาวาสสึกไปเสียอาศัยคุณงามความดีที่ท่านได้สั่งสมเมื่อเป็นพระ ท่านลาสึกขาออกไปทางเจ้าหลวง จึงตั้งนามฐานันดรศักดิ์ให้เป็น “แสนปัญญา” มีหน้าที่ช่วยปกครองหมู่บ้านในโอกาสต่อมา

เจ้าอาวาสรูปที่ ๔ พ.ศ. ๒๔๑๑ ครูบาขัติ อภิชโย แห่งวัดทุ่งม่านเหนือ ลำปาง ได้อพยพติดตามญาติโยมขึ้นมาอยู่ที่วัดบ้านใหม่ คณะนั้นมีภิกษุ ๗ รูป สามเณร ๑๖ รูป ศรัทธาชาวบ้านใหม่มี ๔๕ ครอบครัวเรือน ครูบาได้นำพระเณรและญาติโยมทำการพัฒนาถาวรวัตถุของวัด เริ่มด้วยการสร้างศาลาบาตร (ศาลาราย) ๑ หลังด้านเหนือวิหารจนเสร็จเรียบร้อย

         พ.ศ. ๒๔๑๓ ครูบา และสล่าเจ้าหนานเทพ (นายช่าง) บ้านทุ่งม่านเหนือ พร้อมด้วยพระเณร และญาติโยมทำการรื้อวิหารไม้ไผ่ที่ครูบาชินสร้าง แล้วก่อสร้างวิหารด้วยอิฐถือปูนถาวร หลังคาชด(ชั้น) เป็นศิลปะการก่อสร้างที่งดงามมากในยุคนั้น เสร็จเรียบร้อยใน พ.ศ. ๒๔๒๑

         พ.ศ. ๒๔๒๒ ครูบา นำศรัทธาญาติโยม รอมรั้ววัดทั้ง ๔ ด้าน ด้วยไม้เนื้อแข็งจนสำเร็จเรียบร้อย

         พ.ศ. ๒๔๓๔ ทำการรื้อกุฏิไม้ไผ่ แล้วสร้างกุฏิขึ้นใหม่ด้วยไม้เนื้อแข็งทำเป็นหลังคา ๓ หลังติดกัน มุงด้วยไม้เกร็ดใหญ่และงดงามมากจนสำเร็จ

         พ.ศ. ๒๔๓๗  สร้างศาลาบาตรรอบวิหารด้านทิศใต้ ยาว ๑๕ ห้อง จนสำเร็จเรียบร้อย

         พ.ศ. ๒๔๔๔ สร้างธรรมมาสน์รูปปราสาท ๕ ยอด ไว้ในวิหาร ๑ หลัง อันเป็นศิลปะที่สง่างามอีกชิ้นหนึ่งที่ครูบาขัติ ได้ทำไว้

         ครูบาขัติ อภิชโย ท่านเป็นช่างก่อสร้าง สร้างแกะสลัก ช่างออกแบบ ทำได้และทำเป็นแทบทุกอย่าง  วัดบ้านใหม่ในสมัยของครูบาเจริญมาก และช่วงที่ครูบายังอยู่นั้น คณะศรัทธาญาติโยมบ้านทุ่งม่านเหนือ ได้อพยพติดตามอีกเลื่อยๆ จนกระทั่งถึงปี พ.ศ. ๒๔๔๔ บ้านใหม่มีถึง ๑๐๐ ครอบครัวเรือน แต่อนิจตาสังขารทั้งหลายไม่เที่ยงแท้แน่นอน ครูบาท่านได้บำเพ็ญศาสนกิจเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านใหม่นานถึง ๓๓ พรรษา ท่านก็ถึงแก่มรณภาพ ณ วัดบ้านใหม่ในปี พ.ศ. ๒๔๔๔ นั้นเอง

         อนึ่ง ในช่วงที่ครูบาขัติเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านใหม่อยู่นั้น ครูบาธิ วัดบ้านแคร่ ลำปาง พร้อมกับพระภิกษุสามเณร อีก ๘ รูป และศรัทธาญาติโยมหลายครอบครัว ใช้วัวต่าง เกวียนขนหีบคัมภีร์ธรรมใบลาน ๒ หีบ และขออื่นๆอีกมากมาย พากันอพยพเดินทางมาเป็นเวลาหลายวัน  เมื่อมาถึงวัดบ้านใหม่ครูบาขัติก็ได้นิมนต์ให้   ครูบาธิมาอยู่รวมกันในวัดบ้านใหม่ แต่ครูบาธิท่านพรรษาแก่กว่าจึงไม่รับนิมนต์ เพราะเกรงว่าจะเป็นการมาชิงอารามผิดวินัย จึงได้สร้างอารามขึ้นใหม่ ติดกันทิศเหนือวัด โดยปลูกต้นโพธิ์ไว้ตรงกลางระหว่างวัดเหนือวัดใต้ โดยคิดว่าวันหลังจะสร้างวัด ๒ วัดติดกันให้ชื่อว่า “วัดบ้านใหม่สิงห์ชัยด้านเหนือ-ด้านใต้” พอดีครูบาธิท่านได้มรณภาพเสียก่อน ศิษย์ยานุศิษย์คณะศรัทธาญาตโยม จึงพากันรื้ออารามมาอยู่รวมกันเป็นวัดเดียว ส่วนหีบธรรมและคัมภีร์ธรรมใบลานนำกลับไปวัดเดิม ๑ หีบ อีก ๑ หีบพร้อมใบลานเก็บไว้ที่วัดบ้านใหม่ส่วนของอื่นๆ แบบกันตามส่วน

         เจ้าอาวาสรูปที่ ๕ พ.ศ. ๒๔๔๔ พระใบฎีกาก๋า (ครูบาก๋า) ไม่ปรากฏว่าท่านก่อสร้างอะไรไว้ เพราะถาวรวัตถุแทบทุกอย่าง ครูบาขัติท่านได้สร้างไว้ให้หมดแล้ว ท่านจึงได้แต่ดูแลรักษาให้คงอยู่เท่านั้น ท่านเป็นเจ้าอาวาสได้ ๓ พรรษา ก็ลาสิกขา

เจ้าอาวาสรูปที่ ๖ พ.ศ. ๒๔๔๖ ครูบามณีวรรณ คณะศรัทธานิมนต์มาจากวัดปงวัง ครูบาท่านนี้ไม่ได้ก่อสร้างอะไรเพียงแต่ดูแลรักษาของเดิมไว้ ช่วงนี้การพัฒนาวัดชะงักงันลง พระภิกษุสามเณรและญาติโยมแบ่งพรรคแบ่งพวกกัน พากันลาสิกขาไปมาก ครูบามณีวรรณ จึงไม่สบายใจลากลับวัดเดิม

เจ้าอาวาสรูปที่ ๗ พ.ศ. ๒๔๔๗ ครูบามี (พระบุญมี อภิวํโส) ขณะนั้นศรัทธาชาวบ้านใหม่มี ๑๓๔ ครอบครัวเรือน ครูบาท่านนำพระเณร และญาติโยมก่อแท่นแก้วพระประธานในวิหาร แกะสลักพระพุทธรูปไม้ประดู่ปางต่างๆ ขนาดหน้าตักกว้าง ๒ ศอก ๑ องค์ และองค์เล็กๆ อีกเป็นจำนวนมาก นอกจานั้นท่านยังได้สร้างตู้คัมภีร์ธรรมใบลาน  ตู้เก็บของอื่นๆ อีกมากมาย

         พ.ศ. ๒๔๔๙ รื้อรั้วไม้รอบวัดทั้งหมดออก แล้วก่อกำแพงด้วยอิฐถือปูนจนสำเร็จ พร้อมกับปั้นรูปสิงห์ไว้ที่ประตู่วิหาร ๑ คู่ เสร็จแล้วฉลองพร้อมกันในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ เหนือ พ.ศ.๒๔๕๑

         พ.ศ. ๒๔๕๖  ทางกระทรวงได้ประกาศให้มีเจ้าคณะปกครองคณะสงฆ์ คือ ตำแหน่งเจ้าคณะแขวง(อำเภอ) และเจ้าคณะหมวด(ตำบล) ครูบามี  อภิวงศ์ ถูกเลือกให้เป็นเจ้าคณะหมวดเมืองวัง(วังเหนือ) แต่ท่านปฏิเสธ ตำแหน่งจึงตกไปอยู่ที่ครูบาอินต๊ะ วัดแม่เฮียวเหนือ ครูบามีรับเป็นผู้ช่วย วัดบ้านใหม่มีการพัฒนาขึ้นอีกมากในช่วงขอครูบามี เพราะท่านเป็นสารพัดช่าง และดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสได้ ๙ พรรษา ก็ลาสิกขา

เจ้าอาวาสรูปที่ ๘ พ.ศ. ๒๔๕๖ ครูบาชุมพู เป็นเจ้าอาวาสได้ ๑ พรรษาก็ลาสิกขาไป

เจ้าอาวาสรูปที่  ๙  พ.ศ. ๒๔๕๗ ครูบาแก้ว ขณะนั้นมีพระภิกษุ ๖ รูป สามเณร ๑๖ รูป  ศรัทธาชาวบ้านใหม่มี ๑๕๙ ครอบครัวเรือน ท่านได้นำพระเณรและญาติโยมสร้างหอธรรม ๑ หลัง ทำเป็นรูปปราสาท ๔ มุข อันเป็นศิลปะที่สวยงามสะดุดตาอีกชิ้นหนึ่งของวัดบ้านใหม่ สร้างไว้ที่ตั้งอุโบสถปัจจุบัน ครูบาแก้วนอกจากจะเป็นช่างก่อสร้างแล้ว ท่านยังเป็นช่างทำบ้องไฟเก่งอีกด้วย และเป็นผู้คงกระพัน ไม่นานนักท่านก็ลาสิกขา

เจ้าอาวาสรูปที่ ๑๐ พ.ศ. ๒๔๕๘ ครูบาอินสม ท่านเป็นเจ้าอาวาสเพียงพรรษาเดียวก็ลาสิกขาไป

เจ้าอาวาสรูปที่ ๑๑ พ.ศ. ๒๔๕๙  ครูบาปั๋น  อินฺทปญโญ (อินทะปัญญา) ขณะนั้นมีพระภิกษุ ๗ รูป  สามเณร ๑๖ รูป ศรัทธา ๑๗๐ ครอบครัว ครูบาท่านได้บูรณะซ่อมแซมถาวรวัตถุที่ชำรุดชุดโทรมให้คงสภาพใช้การได้ ท่านเป็นเจ้าอาวาสได้ ๕ พรรษา ก็ลาสิกขาไป

เจ้าอาวาสรูปที่ ๑๒  พ.ศ. ๒๔๖๓ ครูบาปัน ปินตา ติดชัย มีพระภิกษุ ๙ รูป สามเณร ๒๑ รูป ศรัทธาวัดบ้านใหม่  ๑๙๓ ครอบครัวเรือน ใน พ.ศ. ๒๔๖๔ ได้รื้อกุฏิหลังที่ครูบาขัติได้สร้างซึ่งชำรุด แล้วสร้างกุฏิหลังใหม่ขึ้นมาแทน จนสำเร็จเรียบร้อย พ.ศ. ๒๔๖๕ ครูบาปัน ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะหมวดอีกตำแหน่งหนึ่ง พ.ศ. ๒๔๖๗ ท่านก็ลาสิกขา

เจ้าอาวาสรูปที่  ๑๓ พ.ศ. ๒๔๖๗ ครูบาอินสอน หรือครูบาขัติยะ เป็นเจ้าอาวาสได้ ๒ เดือน เศษก็ลาสิกขา

เจ้าอาวาสรูปที่  ๑๔ พ.ศ.๒๔๖๗  ครูบามูล หรือครูบาจันทะรังษี มีพระภิกษุ ๔ รูป สามเณร ๑๙ รูป ท่านได้ปรึกษาคณะศรัทธาว่าจะรื้อวิหารหลังที่ครูบาขัติสร้างไว้ซึ่งทรุดโทรมมาก จึงได้ร่วมกับศรัทธาทำการเลื่อยไม้เตรียมไว้เพื่อสร้างวิหารหลังใหม่ แต่พอออกพรรษา ท่านก็ลาสิกขาไปเสียก่อน

เจ้าอาวาสรูปที่ ๑๕ พ.ศ. ๒๔๖๘ ครูบาผัด หรือครูบาอุตตะมะวงศ์ มีพระภิกษุ ๔ รูป สามเณร ๒๖ รูป ศรัทธาบ้านใหม่มี  ๑๙๘ ครอบครัวเรือนท่านได้นำพระเณร และญาติโยม ทำการรื้อวิหารในวันศุกร์ แรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๖ เหนือ พ.ศ. ๒๔๗๐ ได้วางศิลาฤกษ์ วิหารหลังใหม่ (หลังที่ ๒) โดยมีครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ ลำปาง มาเป็นประธาน การก่อสร้าง ดำเนินการมาจนถึง พ.ศ. ๒๔๗๑ ครูบาผัด ได้ลาสิขาไปเสีย

เจ้าอาวาสรูปที่ ๑๖ พ.ศ. ๒๔๗๑  พระครูนิเวศรรมารักษ์ (อินทร์ อินฺโท (นามสกุล ลาภใหญ่)) ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านใหม่สืบต่อมา มีพระภิกษุ ๓ รูป สามเณร ๒๐ รูป คณะศรัทธาบ้านใหม่ ๒๑๕ ครอบครัวเรือน ได้ดำเนินการสร้างวิหารที่คั่งค้างต่อจากเจ้าอาวาสรูปก่อน โดยมีครูบานันตา วัดทุ่งม่านใต้ พระคำ ปินตา วัดทุ่งม่านเหนือ และพระหน่อดี วัดแม่ก๋ง อำเภอเมืองลำปาง มาช่วยก่อสร้าง พร้อมกับก่อพระประธานในวิหาร (องค์ใหญ่) จนสำเร็จ พ.ศ. ๒๔๗๓

พ.ศ. ๒๔๗๖ ได้ว่าจ้างสล่า(ช่าง)น้อยยอด จากจังหวัดลำพูน มาก่อพระพุทธรูปองค์ขวาพระประธานในวิหาร(ด้านใต้) จนสำเร็จเรียบร้อย ต่อจานั้นหลวงพ่อเจ้าอาวาส ได้นำพระเณร และญาติโยม ทำการรื้อกำแพงที่ครูบามี  อภิวงศ์สร้าง ซึ่งมีสภาพทรุดโทรม แล้วทำการก่อกำแพงขึ้นใหม่ทั้ง ๔ ด้าน  ต่อจากนั้นได้สร้างศาลารายยาวตามกำแพงทิศตะวันออกอ้อมไปทางเหนือไปจดกำแพงทิศตะวันตก รวม ๓๖ ห้อง(ช่อง) จนสำเร็จเรียบร้อย  พ.ศ. ๒๔๗๓

พ.ศ. ๒๔๗๙ (แรม ๒ ค่ำ เดือน ๗ เหนือ) เริ่มก่อเจดีย์ไว้ที่หลังวิหาร ๑ องค์ โดยมีครูบานันตา เป็นประธานก่อสร้าง ทำพิธียกฉัตรและฉลองเจดีย์ในปี พ.ศ.๒๔๓๘ ปี นี้วัดบ้านใหม่มีพระ ๓ รูป สามเณรมี ๒๔ รูป

         พ.ศ.๒๔๘๐ ได้ทำการเปิดสอนพระปริยัติธรรม แผนกธรรมขึ้นที่วัดบ้านใหม่ ซึ่งเป็นแห่งแรกในอำเภอวังเหนือ โดยมีหลวงพ่ออินทร์ เป็นเจ้าสำนักเรียน และเป็นครูสอนเอง ขณะเดียวกันนี้ หลวงพ่ออินทร์  ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะหมวด (ตำบล) วังเหนือ อีกตำแหน่งหนึ่ง

         พ.ศ.๒๔๘๕ หลวงพ่อเจ้าอธิการอินทร์ อินฺโท ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะอำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง

         พ.ศ.๒๔๘๖ เป็นต้นมา แม่กองธรรมสนามหลวง ได้กำหนดให้วัดบ้านใหม่เป็นสถานที่สอบธรรมสนามหลวง ประจำอำเภอวังเหนือ

         พ.ศ.๒๔๘๖ สร้างศาลาเอนกประสงค์ และขุดบ่อน้ำไว้นอกวัดด้านทิศเหนือจนสำเร็จ

ต่อจากนั้นได้ก่อพระพุทธรูปองค์ซ้ายพระประธานในวิหาร (ด้านเหนือ)โดยมีหนานหน่อดี เป็นผู้ช่วยจนสำเร็จเรียบร้อย

         พ.ศ.๒๔๘๙ เจ้าอธิการอินทร์  ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอชั้นโท ที่ “พระครูนิเวศน์ธรรมารักษ์” เลื่อนเป็นชั้นเอก พ.ศ.๒๔๙๕ (ในแผ่นดินรัชกาลที่ ๘)

พ.ศ.๒๔๙๑ สร้างศาลาเอนกประสงค์ไว้ที่นอกวัดทิศตะวันออกอีกหนึ่งหลัง

         พ.ศ.๒๔๙๒ รื้อกุฏิหลังที่ครูบาปัน ปินตา ก่อสร้างไว้เพราะชำรุดมากแล้วก่อสร้างกุฏิขึ้นใหม่ ทรงไทยล้านนาครึ่งตึกครึ่งไม้มุงด้วยกระเบื้อง โดยจ้างสล่า(ช่าง) มาจากแม่ขะจานมาควบคุมการสร้าง แต่ไม่สำเร็จ ภายหลังจึงไปติดต่อว่าจ้างสล่าหนานหวัน เมืองมา มาจากจังหวัดพะเยา มาดำเนินการสร้างต่อจนสำเร็จในปี พ.ศ.๒๔๙๕ ปีนี้วัดบ้านใหม่มีพระ ๗ รูป เณร ๒๐ รูป ศรัทธา ๓๐๙ ครอบครัว

         พ.ศ.๒๔๙๖ (๓ เมษายน แรม ๕ ค่ำ เดือน ๗ เหนือ) ประกอบพิธีผูกพัทธสีมาอุโบสถ พร้อมกัน ๗ วัด คือ  ๑.วัดบ้านใหม่ ๒.วัดขันหอม ๓.วัดทุ่งฮั้ว ๔.วัดป่าแหน่ง ๕.วัดทุ่งฮี ๖.วัดบ้านก่อ ๗.วัดร่องเคาะ  โดยมีเจ้าคณะจังหวัดลำปาง (พระเทพวิสุทธิโสภณ) วัดเชียงราย เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมกับพระสงฆ์ ๘๖ รูป  หมายเหตุ ขอพระราชทานวิสุงคามสีมา พ.ศ.๒๔๘๒ ได้รับพระราชทาน ๖ กรกฎาคม ๒๔๙๒ เพราะอยู่ในช่วงภาวะสงคราม

         พ.ศ.๒๔๙๗ (๑ ก.ค. ๙๗) วางศิลาฤกษ์ก่อสร้างอุโบสถถาวร ทรงไทยสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง ๖.๖๕ เมตร ยาว ๑๒.๗๐ เมตร โดยมีพระ ๕ รูป สามเณร ๑๒ รูป ศรัทธา ๓๑๙ ครอบครัว ช่วยกัน และปี พ.ศ.๒๔๙๙ หลวงพ่อ ได้ก่อพระประธานไว้ในพระอุโบสถ ๑ องค์ จนสำเร็จบริบูรณ์ ทำการฉลอง พ.ศ.๒๕๐๐

         พ.ศ.๒๕๐๓ รื้อกำแพงที่สร้าง พ.ศ.๒๔๗๖ ซึ่งชำรุดทรุดโทรมแล้วก่อสร้างใหม่ ทั้ง ๔ ด้าน พร้อมกันนั้นก็สร้างศาลารายติดกำแพงตั้งแต่ประตูหน้าถึงประตูเหนือ และสร้างศาลาโรงกลองด้านใต้ประตูหน้า อนึ่ง ได้ขุดบ่อน้ำมุมวิหารด้านเหนือ ๑ บ่อ

         พ.ศ.๒๕๐๕ ได้นิมนต์พระครูอภิวงศ์วิวัฒน์ วัดศรีหลวง แจ้ห่มมาปั้นสิงห์ ๒ ตัวไว้ที่ประตูหน้าวัด พร้อมนั้นหลวงพ่อก็ได้ปั้นนาค ๒ ตัวต่อจากสิงห์ลงไปข้างล่าง จนสำเร็จการฉลองพร้อมกันในวันที่ ๘-๑๓ มีนาคม ๒๕๐๖

         พ.ศ.๒๕๐๖ หลวงพ่อ ได้แกะสลักพระพุทธรูปประจำวันทั้ง ๗ และโต๊ะหมู่บูชาชุดใหญ่ ๒ ชุดจนสำเร็จเรียบร้อย

         พ.ศ.๒๕๐๗ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้เดินสายไฟเข้าหมู่บ้านใหม่ และวักเป็นครั้งแรก และได้เปลี่ยนเป็นไฟฟ้าแรงสูงเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๕

พ.ศ.๒๕๒๘ หลวงพ่อได้สร้างธรรมาสน์เท้าสิงห์ ๑ หลัง จนสำเร็จเรียบร้อย

         พ.ศ.๒๕๐๙ (๑ ม.ค. ขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๔ เหนือ) วางศิลาฤกษ์อาคารโรงเรียนพระปริยัติธรรมนิเวศน์ธรรมานุสรณ์ สร้างด้วยไม้ ๒ ชั้น มุงกระเบื้อง กว้าง ๘.๕๕ เมตร ยาว ๒๓.๓๐ เมตร ติดกำแพงด้านเหนือวิหาร เปิดป้าย พ.ศ.๒๕๑๐ (พ.ศ.๒๕๓๓ รื้อถอนเพื่อย้ายไปสร้างนอกวัด และบริเวณนี้ได้ก่อสร้างพิพิธภัณฑ์นิเวศน์ธรรมารักษ์ขึ้นแทน ใน พ.ศ.๒๕๓๓-๒๕๓๔)

         พ.ศ.๒๕๑๑ สร้างหอระฆัง ๑ หลัง แล้วสร้างโรงครัว-หอฉัน ติดมุมกำแพงด้านตะวันตกเฉียงใต้ ๑ หลัง สร้างด้วยไม้มุงด้วยกระเบื้อง กว้าง ๙ เมตร ยาว ๑๒ เมตร

         พ.ศ.๒๕๑๒ ได้ร่วมกับอนามัยอำเภอวังเหนือ สร้างแทงค์น้ำประปาสำหรับใช้ภายในวัด

         พ.ศ. ๒๕๑๘   สร้างกุฏิไม้ ๒ ชั้น ๘ ห้อง กว้าง ๕.๕๐ เมตร ยาว ๑๒.๕๐ เมตรมุงด้วยกระเบื้องลอนคู่ ติดกำแพงด้านทิศตะวันตก ๑ หลัง

         พ.ศ. ๒๕๑๙  (แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๕ เหนือ) รื้อวิหารที่ชำทรุดโทรมากโดยขอถรยกของ รพช. มายกพระพุทธรูปองค์ซ้าย-ขวา พระประธาน ให้เข้ามาชิดกับพระประธาน จากนั้นวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ๒๕๑๙ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ เหนือ (วิสาขบูชา) ได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างวิหารหลังใหม่ ลักษณะทรงไทยสูงโปร่ง สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก หลังคามุงด้วยกระเบื้องเคลือบ กว้าง ๑๓.๕๐ เมตร ยาว ๓๐ เมตร โดยจ้างช่างมาจากจังหวัดลำพูนร่วมกับหลวงพ่อฯ และพระเณรญาติโยมช่วยกันก่อสร้าง วันที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๒๔ ได้เรียน ฯพณฯรองประธานสภาผู้แทนราชฎร ดร.สอาด ปิยวรรณ สส.ลำปาง มาเป็นประธานยกช่อฟ้า ก่อก่อสร้างดำเนินไปจนสำเร็จในปี พ.ศ. ๒๕๒๕ หลังจากนั้นมา พ.ศ.๒๕๒๙ ได้จ้างช่างมาจากเชียงใหม่ ให้วาดภาพจิตกรฝาผนังวิหารจนสำเร็จบริบูรณ์ พ.ศ. ๒๕๓๐ รวมค้าก่อสร้างทั้งสิ้น ๓ ล้านกว่าบาท

พ.ศ. ๒๕๒๑ ในช่วงสร้างวิหารอยู่นั้น ลมได้พัดยอดเจดีย์หักลงมาหลวงพ่อ จึงทำการซ่อมแซม และยกฉัตรขึ้นใหม่ในวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๕ เหนือ

พ.ศ.๒๕๒๓ กรมการศาสนา ได้ประกาศยกวัดบ้านใหม่เป็นวัดพัฒนาตังอย่างระดับประเทศ

พ.ศ.๒๕๒๔ สร้างศาลาเอนกประสงค์ตรงหน้าวิหารอ้อมไปทางเหนือวิหารถึงประตูเหนือ (แทนศาลาราย) ๑ หลัง กว้าง ๘.๘ๆ เมตร ยาว ๓๗ เมตร พร้อมทั้งขยายกำแพงด้านหน้าออกไปอีก ๔ เมตร พ.ศ.๒๕๒๕ รื้อศาลาโรงกลองสร้างขึ้นใหม่ พร้อมทั้งขยายกำแพงออกไปอีก ๔ เมตร รวมค่าก่อสร้างศาลาทั้งสองหลัง สองแสนกว่าบาททำการฉลองพร้อม ๆ กัน ทั้งวิหาร ศาลาเอนกประสงค์ ศาลาโรงกลอง ในวันที่ ๒๖ ก.พ. ๒๕๒๖

         พ.ศ.๒๕๒๖ สร้างกุฏิเจ้าอาวาส ๑ หลัง ทรงไทยล้านนาชั้นเดียว กว้าง ๑๐.๘๐ เมตร ยาว ๑๓.๗๐ เมตร สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก มุงด้วยกระเบื้องลอนคู่ สำเร็จปี พ.ศ.๒๕๒๘

         พ.ศ.๒๕๒๘ สร้างกุฏิสำหรับพระภิกษุสามเณรอีก ๑หลัง ทรงไทยล้านนาต่อจากกุฏิเจ้าอาวาสไปทางตะวันตก กว้าง ๑๓.๗๐ ยาว ๑๗ เมตร ๘ ห้องนอน สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก มุงด้วยกระเบื้องลอนคู่ สำเร็จ พ.ศ.๒๕๒๙ และทำการฉลองพร้อมกันทั้ง ๒ หลังพร้อมกับรูปภาพในวิหารด้วย

         พ.ศ.๒๕๒๙ หลวงพ่อพระครูนิเวศธรรมารักษ์ ได้ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอวังเหนือ เนื่องจากสุขภาพไม่แข็งแรง ทางเจ้าคณะภาค ๖ จึงยกให้เป็นเจ้าคณะอำเภอกิตติมาศักดิ์ และได้แต่งตั้งให้ พระมหาสุทัศน์ สีลวฑฺโฒ ปธ.๔ น.ธ.เอก บี.เอ. รองเจ้าคณะอำเภอวังเหนือ ขึ้นเป็นเจ้าคณะอำเภอวังเหนือ และมีพระครูวิริยวรคุณ (ประเสริฐ อุฏฺฐาโน) เป็นรองเจ้าคณะอำเภอวังเหนือ จนถึง พ.ศ.๒๕๓๔ พระครูคัมภีร์ชลาภิรักษ์ (ต่อมาได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ เป็นพระราชคณะชั้นสามัญที่ พระโสภณพิพัฒนกิจ) ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดลำปาง  พ.ศ.๒๕๓๕ ได้มีตั้งพระครูวิริยวรคุณ เลื่อนเป็นเจ้าคณะอำเภอวังเหนือ โดยมีพระครูวรธรรมานุสิฐ (สมบูรณ์  ธมฺมวโร) เป็นรองเจ้าคณะอำเภอวังเหนือต่อมา

         พ.ศ.๒๕๓๐ สร้างที่อ่านหนังสือวัดบ้านใหม่ ๑ หลัง ทรงไทย มุงด้วยสังกะสี กว้าง ๓ เมตร ยาว ๖ เมตร

         พ.ศ.๒๕๓๐ มีพระภิกษุ ๗ รูป สามเณร ๓๗ รูป ศรัทธาชาวบ้านใหม่ หมู่ที่ ๖ มี ๕๒๗ ครอบครัว บ้านใหม่หล่ายท่า หมู่ที่ ๒ ต.วังซ้าย มี ๙๓ ครอบครัว

พ.ศ.๒๕๓๕ สร้าง “พิพิธภัณฑ์นิเวศธรรมารักษ์” ไว้วัดบ้านใหม่ทรงไทยล้านนา กว้าง ๖ เมตร ยาว ๙ เมตร ซึ่งเก็บคัมภีร์ใบลาน  จำนวน ๙๐๐ ผูก (ฉบับ) เครื่องดินเผา ของแหล่งเตาเผาเมืองวัง ที่ชาวบ้านขุดได้ และพระพุทธรูปหินทรายขนาดต่างๆ พระพุทธรูปสำริด

พ.ศ.๒๕๓๕ สร้างอาคารเรียนโรงเรียนพระปริยัติธรรมประจำอำเภอวังเหนือ ณ บริเวณหน้าวัด สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก กว้าง ๘ เมตร ยาว ๓๒ เมตร ๒ ชั้น มุงด้วยกระเบื้องลอนคู่จนสำเร็จเรียบร้อย รวมค่าก่อสร้างทั้งสิ้น  ๑,๔๕๐,๗๕๙.๐๐ บาท ทำบุญฉลองวันที่ ๑๐-๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘ พิธีเปิดป้ายวันจันทร์ ที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๘  และในวันพฤหัสบดี ที่ ๙ กุมภาพันธ์  ๒๕๓๘ เวลา ๐๗.๔๕ น. หลวงพ่อพระครูนิเวศน์ธรรมารักษ์ ถึงแก่มรณภาพด้วยโรคชรา ณ โรงพยาบาลลานนา จังหวัดเชียงใหม่ รวมชนมายุได้ ๘๘ ปี ๖๘ พรรษา

เจ้าอาวาสรูปที่ ๑๗  พ.ศ. ๒๕๓๙-๒๕๖๔  พระครูวรธรรมานุสิฐ (สมบูณร์ ธมฺมวโร)

รับตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดบ้านใหม่  ตำบลวังเหนือ อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง

เมื่อวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๓๙ และวัดบ้านใหม่มีการพัฒนาโดยตลอดทุกด้าน

ผลงานการก่อสร้างและงานบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะ และสาธารณะประโยชน์ ดังนี้

งานก่อสร้างเสนาสนะภายในวัด

         พ.ศ.๒๕๐๙ ได้รับมอบหมายจากหลวงพ่อพระครูนิเวศธรรมารักษ์ ให้ดูแลงานก่อสร้างอาคารโรงเรียน พระปริยัติธรรมนิเวศน์ธรรมานุสรณ์ สร้างด้วยไม้สัก ๒ ชั้น และใช้เป็นโรงเรียนการศึกษาผู้ใหญ่ จนแล้วเสร็จ ในปี พ.ศ.๒๕๑๒

         พ.ศ.๒๕๑๙ ได้รับมอบหมายจากหลวงพ่อพระครูนิเวศธรรมารักษ์ ให้ดูแลงานก่อสร้างวิหารจนแล้ว เสร็จ ในปี พ.ศ.๒๕๒๕

         พ.ศ.๒๕๒๔ ได้รับมอบหมายจากหลวงพ่อพระครูนิเวศธรรมารักษ์ ให้ดูแลงานก่อสร้างศาลารายจน แล้วเสร็จ ในปี พ.ศ.๒๕๒๖

         พ.ศ.๒๕๒๖ ได้รับมอบหมายจากหลวงพ่อพระครูนิเวศธรรมารักษ์ ให้ดูแลงานก่อสร้างกุฏิเจ้าอาวาส จนแล้วเสร็จ ในปี พ.ศ.๒๕๒๘

         พ.ศ.๒๕๒๘ ได้รับมอบหมายจากหลวงพ่อพระครูนิเวศธรรมารักษ์ ให้ดูแลงานก่อสร้างกุฏิที่พักอาศัย พระภิกษุสามเณร จนแล้วเสร็จ ในปี พ.ศ.๒๕๒๙

         พ.ศ.๒๕๓๕ ได้รับมอบหมายจากหลวงพ่อพระครูนิเวศธรรมารักษ์ ให้เป็นประธานดำเนินการสร้าง ดูแลงานก่อสร้าง พิพิธภัณฑ์นิเวศธรรมารักษ์ จนแล้วเสร็จ ในปี พ.ศ.๒๕๓๖

         พ.ศ.๒๕๔๑ สร้างกุฏิรับรองอาคันตุกะ ๒ ชั้น ชั้นล่างก่ออิฐถือปูน ชั้นบนสร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง

         พ.ศ.๒๕๔๒ สร้างซุ้มประตูเข้าวัด ทรงล้านนาประยุค ด้วยไม้สักทอง พร้อมทั้งเทคอนกรีตเสริมเหล็ก ทางเข้าวัดและลานหน้าวัดทั้งหมด

พ.ศ.๒๕๔๓ สร้างสำนักงานเจ้าคณะอำเภอวังเหนือ

         พ.ศ.๒๕๔๔ สร้างวิหารประดิษฐานรูปเหมือน พระครูนิเวศธรรมารักษ์(อินทร์ อินฺโท อดีตเจ้าอาวาสวัด บ้านใหม่ และอดีตเจ้าคณะอำเภอวังเหนือ ทรงล้านนาสร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง หลังคามุงด้วยไม้เนื้อแข็ง

         พ.ศ.๒๕๔๖ สร้างกุฏิ ๒ ชั้น ก่อด้วยอิฐถือปูน สำหรับพระภิกษุสามเณร

พ.ศ.๒๕๔๙ สร้างโรงครัว และหอฉันแทนหลังเดิม

พ.ศ.๒๕๕๐ สร้างอาคารหอประชุมสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ทรงไทยประยุค ๒ ชั้น คอนกรีต เสริมเหล็ก และวันที่ ๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๓ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นองค์ประธานในการเปิดอาคาร และสมโภชวัดวัดบ้านใหม่ ครบ ๑๖๕ ปี การสร้างวัดบ้านใหม่

พ.ศ.๒๕๕๒ สร้างกุฏิรับรอง ๑๐๘ ปี ชาตกาล พระครูนิเวศธรรมารักษ์(อินทร์ อินฺโท)

พ.ศ.๒๕๕๓ สร้างศาลาการเปรียญนิเวศธรรมานุสิฐ ทรงไทยประยุค ๒ ชั้น

พ.ศ.๒๕๕๖ สร้างอาคารเก็บรักษาของเก่า เช่น พระพุทธไม้โบราณ คัมภีร์ในลาน

พ.ศ.๒๕๕๗ สร้างศาลาปฏิบัติธรรมกลางน้ำ ประจำสำนักปฏิบัติธรรม แห่งที่ ๕ ประจำ จังหวัดลำปาง

พ.ศ.๒๕๖๐ สร้างอาคารที่พักผู้ปฏิบัติธรรม

พ.ศ.๒๕๖๑ สร้างศาลาบำเพ็ญบุญอเนกประสงค์

พ.ศ.๒๕๖๒ สร้างวิหารประดิษฐาน พระแก้วมรกตจำลอง

งานบูรณปฏิสังขรณ์ภายในวัด

         พ.ศ.๒๕๓๙ บูรณปฏิสังขรณ์ วิหารหลวง โดยเปลี่ยนเพดานแบบฝ้าฉาบเรียบเป็นไม้สักทองทั้งหลัง และซ้อมผนังด้านนอกผุปูนร่อน และลายปูปั้นตามซุ้มประตูหน้าหักเสียหาย พร้อมทั้งทำสีภายนอกใหม่ทั้งหลัง

         พ.ศ.๒๕๔๑ บูรณปฏิสังขรณ์ กุฏิเจ้าอาวาส

         พ.ศ.๒๕๔๒ บูรณปฏิสังขรณ์ อุโบสถรอบแรก เปลี่ยนหลังใหม่ทั้งหลังจากสังกะสี เป็นกระเบื้องลอนเล็ก พร้อมทั้งบูรณะอุโบสถผนังที่ฉาบด้วยปูนขาวแบบโบราณ และทำซุ้มประตูหน้าต่างใหม่ทั้งหมด

         พ.ศ.๒๕๔๗ บูรณปฏิสังขรณ์ พระเจดีย์ทั้งองค์ทรงย่อมุมไม้สิบสองซ้อมลายปูนปั้นและปิดทองจังโกตั้งแต่ระฆังคว่ำส่วนบนถึงยอดเจดีย์บูรณะฉัตรใหม่ทั้งหมด ทั้งนี้เจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ประทานพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ตรงยอดเจดีย์ ได้ประทานนามเจดีย์ว่า "พระเจดีย์สิริวัฒนาวังเหนือ"

         พ.ศ.๒๕๕๕ บูรณปฏิสังขรณ์ ศาลาโรงกองเปลี่ยนหลังคาศาลาทั้งหลังจากสังกะสี เป็นกระเบื้องโบราณ

         ๒๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๔ บูรณปฏิสังขรณ์ วิหารหลวงทั้งหลังโดนเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาใหม่ทั้งหมดรวมทั้งช่อฟ้าใบระกา ซ้อมแซมภาพวาดภายในวิหารและด้านหน้า และทำสีใหม่ทั้งภายนอกภายในทั้งหมด เสร็จเรียบร้อยพร้อมฉลอง วันที่ ๑๓ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๕

         ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๕ เริ่มบูรณปฏิสังขรณ์ อุโบสถ

งานก่อสร้างเสนาสนะภายในโรงเรียนบ้านใหม่วิทยา

         พ.ศ.๒๕๓๕ ได้รับมอบหมายจากหลวงพ่อพระครูนิเวศธรรมารักษ์ ให้ดูแลและดำเนินการก่อสร้าง อาคารเรียน โรงเรียนพระปริยัติธรรม ประจำอำเภอวังเหนือ จนแล้วเสร็จในปี พ.ศ.๒๕๓๘

         พ.ศ.๒๕๔๐ สร้างอาคารหอสมุด ทรงล้านนาประยุค

         พ.ศ.๒๕๔๒ สร้างอาคารจัดเก็บวัสดุ และห้องพยาบาล

         พ.ศ.๒๕๔๓ สร้างหอประชุมวรธรรมานุสิฐ

         พ.ศ.๒๕๔๓ สร้างแท้งค์น้ำความจุ ๕๐,๐๐๐ ลิตร และห้องน้ำ ใช้ภายในโรงเรียน

         พ.ศ.๒๕๔๘ สร้างอาคารวิทยาศาสตร์ และพุทธศาสตร์

งานก่อสร้างเพื่อสาธารณะประโยชน์

พ.ศ.๒๕๔๔ เป็นประธานจัดหาทุนทรัพย์ สร้างศาลาบำเพ็ญบุญ ไว้สุสานเทศบาลตำบลบ้านใหม่     หมู่ ๖ ตำบลวังเหนือ อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง

         พ.ศ.๒๕๔๘ เป็นประธานจัดหาทุนทรัพย์ จัดสร้างตึกสงฆ์อาพาธ “สมณสิริ” ณ โรงพยาบาลวังเหนือ

พ.ศ.๒๕๔๙ เป็นประธานจัดหาทุนทรัพย์ สร้างอาคารที่ทำการผู้สูงอายุบ้านใหม่ หมู่ ๖ ตำบลวังเหนือ อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง

พ.ศ.๒๕๕๓ เป็นประธานจัดหาทุนทรัพย์ สร้างเมรุ และห้องน้ำ ณ สุสานบ้านใหม่หล่ายท่า หมู่ ๒ ตำบลวังซ้าย อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง

วัดบ้านใหม่ อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง

         พ.ศ.๒๕๕๘ เป็นผู้ประสานงานจัดสร้าง พระบรมรูป รัชกาลที่ ๕ ประดิษฐานไว้ ณ สวนสาธารณะ หน้าที่ว่าการอำเภอวังเหนือ และเป็นที่ปรึกษาการจัดทำสวนสาธารณะ

  1. หนังสือประวัติวัดบ้านใหม่