ผู้ใช้:ศ.พรชัย/ทดลองเขียน

อาณาจักรล้านช้าง:เมือง หลวงพระบาง, ประเทศลาวเป็นเมืองหลวงเก่าของ อาณาจักรล้านช้าง อันรุ่งเรืองในอดีต ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ อยู่ห่างจากนครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงในปัจจุบันของประเทศลาว ประมาณ 400 กิโลเมตร ตัวเมืองตั้งอยู่บนแม่น้ำ 2 สายไหลมาบรรจบกันพอดี คือ แม่น้ำโขง และ แม่น้ำคาน แต่เดิมดินแดนแห่งนี้มีชื่อว่า เมืองชวา (ตั้งตามชื่อของเจ้าพระยาขอม) ซึ่งเป็นถิ่นฐานเดิมของชนชาติขอม ต่อมา ขุนลอโอรสของขุนบรม ได้เดินทางจากเมืองแถง (เดียนเบียนฟู) มาตั้งค่ายพักแรมที่นี่ พระองค์ทรงเห็นว่าบริเวณนี้ มีชัยภูมิที่เหมาะแก่การตั้งบ้านเรือนจึงได้ผลักดันให้พวกขอมถอยลงไปทางเมืองน่านและเมืองเวียงจันทน์ ส่วนพวกขอมที่เป็นชาวป่าชาวดอยซึ่งอพยพหนีไม่ทันได้ตกค้างอยู่จนถึงทุกวันนี้เรียกว่าพวก “ขมุ” ข่าหรือลาวเทิงเมื่อขับไล่พวกขอมออกไปหมดแล้ว พระองค์ทรงตั้งเมืองขึ้นและสถาปนาตนเป็น พระเจ้าขุนลอ ปกครองเมืองชวา นับแต่นั้นมาในปีพ.ศ. 1896 ในรัชสมัยของ สมเด็จเจ้าฟ้างุ่มแหล่งหล้าธรณี ศรีสัตตนาคนหุต พระองค์ทรงทำสงครามตีเอานครเวียงจันทน์ เมืองหลวงพระบาง และหัวเมืองพวนทั้งหมด ตลอดจนหัวเมืองอีกหลายแห่งในที่ราบสูงโคราชเข้ารวมเป็นอาณาจักรเดียวกัน ภายใต้การช่วยเหลือของพระเจ้าอิทรปัทนคร กษัตริย์เขมร (ผู้เป็นพระพ่อตา) ก่อตั้งเป็น อาณาจักรล้านช้าง ขึ้นบนดินแดนที่ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างลุ่มแม่น้ำโขงกับเทือกเขาอันหนำ มีศูนย์กลางอยู่ที่ เมืองเชียงดง-เชียงทอง เป็นอาณาจักรที่รุ่งเรืองในทุกๆ ด้าน หลังจากสถาปนาเมืองเชียงดง-เชียงทองแล้ว เจ้าฟ้างุ้มทรงรับพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ (นิกายเถรวาท) จากราชสำนักเขมรมาเป็นศาสนาประจำชาติ และได้อัญเชิญ "พระบาง" ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศิลปะสิงหลจากราชสำนักเขมรมายังล้านช้าง เจ้าฟ้างุ้มได้ทรงเปลี่ยนชื่อ เมืองเชียงดง-เชียงทอง เป็น เมืองหลวงพระบาง ซึ่งแปลว่าเมืองที่มีพระบางประดิษฐานอยู่เมื่อพระเจ้าฟ้างุ้มสิ้นพระชนม์ในปีพ.ศ. 1916 พระยาสามแสนไทไตรภูวนาถ โอรสของพระเจ้าฟ้างุ้มได้ขึ้นครองราชย์ต่อ อาณาจักรล้านช้าง เริ่มตกต่ำลงเพราะสงครามแย่งชิงอำนาจและเกิดกบฏต่างๆ นานนับร้อยปี จนถึงพ.ศ. 2063 พระโพธิสารราชเจ้าขึ้นครองราชย์และรวบรวมแผ่นดินให้เกิดความเป็นปึกแผ่นประกาศยกเลิกไม่ให้ประชาชนนับถือผีสางให้มายึดมั่นในพระพุทธศาสนา ทรงสร้างวัดวาอารามต่างๆ มากมาย ให้การช่วยเหลือเวียดนามและเจริญสัมพันธไมตรีกับล้านนา (เชียงใหม่)ต่อมาเมื่อถึงปีพ.ศ. 2091 พระราชโอรสองค์ใหญ่ของพระโพธิสารราชเจ้าซึ่งประสูติกับพระมเหสีที่มีพระนามว่า “พระนางยอดคำทิพย์” (หรือเจ้านางหลวงคำผาย;พระธิดาในกษัตริย์ล้านนา) ได้ทรงขึ้นครองราชย์ทรงมีพระนามว่า สมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ในรัชสมัยของพระองค์เกิดศึกพม่ายกทัพมาตีเมืองเชียงใหม่ พระองค์ทรงเล็งเห็นว่า กรุงสีสัตนาคนหุตล้านช้างร่มขาวหลวงพระบาง แห่งนี้ชัยภูมิไม่เหมาะสมที่จะตั้งเป็นเมืองหลวงอีกต่อไปเพราะอยู่ใกล้กับศัตรู เมื่อพวกพม่าตีเมืองเชียงใหม่ได้แล้วต่อไปภายภาคหน้าก็อาจยกทัพมารุกราน ลาวล้านช้าง ก็เป็นได้ พระองค์จึงทรงย้ายเมืองหลวงจาก หลวงพระบาง มาสร้างเมือง เวียงจันทน์ และสถาปนาขึ้นเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่โดยพระราชทานนามว่า กรุงศรีสัตตนาคะนะหุตล้านช้างร่มขาวเวียงจันทน์ในปีพ.ศ. 2096 ในรัชสมัยของพระองค์พระพุทธศาสนาทรงมีความเจริญรุ่งเรืองมาก ทรงสร้าง วัดพระธาตุหลวง หรือที่เรียกว่า พระธาตุเจดีย์โลกจุฬามณี และสร้าง วัดหอพระแก้ว ขึ้นเพื่อประดิษฐานพระแก้วมรกต เมื่อสิ้นแผ่นดิน สมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช, อาณาจักรล้านช้าง มีกษัตริย์ปกครองสืบต่อกันมาหลายรัชกาล เจริญสูงสุดในรัชกาล พระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช ถือว่าเป็นยุคทองแห่ง อาณาจักรล้านช้าง พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่ตั้งมั่นอยู่ในทศพิธราชธรรมและเป็นที่นับถือของประชาชน มีชาวฮอลันดาเดินทางมาเจริญสัมพันธไมตรีเป็นชาติแรกเมื่อปีพ.ศ. 2184 คือคณะของ Geritt Van Wuysthoff ซึ่งได้บันทึกจดหมายเหตุ ทำให้เราทราบความเป็นมาของ ราชอาณาจักรล้านช้าง ในสมัยนั้นได้เป็นอย่างดีหลังสมเด็จพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราชสวรรคตแล้ว ล้านช้างได้แตกออกเป็น 3 อาณาจักร คือ “อาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง” “อาณาจักรล้านช้างเวียงจันทน์” และ “อาณาจักรล้านช้างจำปาศักดิ์” และตกเป็นเมืองขึ้นของสยาม จนถึงปีพ.ศ. 2436 สยามได้ยกดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงให้แก่ฝรั่งเศส หลังจากปกครองอาณาจักรแห่งนี้มาได้ 114 ปี สำหรับ อาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง ได้มีพระมหากษัตริย์ปกครองสืบต่อกันมาหลายรัชกาลคือ พระเจ้าสักรินทรฤทธิ์ (เจ้าคำสุก), สมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวงศ์ จนกระทั่งในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2518 พรรคประชาชนปฏิวัติลาว ได้เข้ายึดอำนาจและเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบกษัตริย์มาเป็นระบอบสังคมนิยมประชาธิปไตยและเปลี่ยนชื่อประเทศจาก ล้านช้างร่มขาว เป็น สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นับแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งตรงกับรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จบรมเสฏฐา ขัติยสุริยวงศา พระมหาศรีสว่างวัฒนา ถือเป็นพระมหากษัตริย์องค์สุดท้าย และสิ้นสุดระบอบราชาธิปไตย ด้วยเหตุนี้เอง หลวงพระบาง จึงมีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน เป็นราชธานีเก่าแก่ วัดวาอารามมากมายและมีความเป็นธรรมชาติที่แสนวิเศษ อีกทั้งยังคงรักษาระเบียบความงามไว้ได้เป็นอย่างดีที่สุด ชาวเมืองมีความสุขและพอใจกับชีวิตที่เรียบง่าย เป็นชาวพุทธที่ยึดมั่นในการรักษาขนบธรรมเนียมและประเพณีโบราณ วัดและวังเต็มไปด้วยภาพเขียนและภาพแกะสลัก ทำให้เมืองเล็กๆ แห่งนี้เต็มไปด้วยสีสันและมีชีวิตชีวาท่ามกลางกลิ่นอายแห่งพระพุทธศาสนาและศิลปวัฒนธรรมอย่างไม่เสื่อมคลาย ไม่ว่าเวลาจะผ่านพ้นไปนานแสนนานเท่าใดก็ตาม. 'ที่มาหลวงพระบาง.เน๊ต louangprabang'ข้อความตัวหนา