จิตรางคนางค์ เป็นตอนที่เก้าของ เพชรพระอุมา จำนวน 4 เล่ม ได้แก่จิตรางคนางค์ เล่ม 1 - 4

จิตรางคนางค์
ภาพปกเพชรพระอุมา ตอนจิตรางคนางค์
รายละเอียด
ผู้ประพันธ์นายฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ
จำนวนเล่ม4 เล่ม
ความยาว1,318 หน้า
ออกแบบปกสามารถ จงเจษฎากุล
ภาพประกอบปกสมชาย ปานประชา
ศิลปกรรมฝ่ายศิลปกรรม
ณ บ้านวรรณกรรม กรุ๊ป
บรรณาธิการรักษ์ชนก นามทอน
สำนักพิมพ์สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม
ปีที่พิมพ์ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2538
ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2541
ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2544
ครั้งที่ 4 พ.ศ. 2547
เล่มก่อนหน้าไอ้งาดำ
เล่มถัดไปนาคเทวี

เนื้อเรื่องย่อ แก้

จิตรางคนางค์ เล่มที่ 1 แก้

รพินทร์ถูกปลุกโดยไร้สภาพข่าวสารของการความเป็นไปคริส และเชิดวุธ ดังนั้นจึงออกไปหา ก่อนออกไปหาได้มอบข้อความเขียนโดยเศษกระดาษที่มีอยู่ให้นายจ้างค้นหาเครื่องบินบี 52 ว่าให้เกิดเป็นผุู้นำมัคคุเทศก์นำทางชั่วครัวพานายจ้างไปที่หมู่ห้วยเสือร้อง ส่วนผู้ที่ถูกตามหาต่างอยู่ภายในถ้ำ ด้วยความรุ้สึกผิดพลาดจากเชิดวุธ ด้วยปลอบประโลม ด้วยการพบหินลักษณะคนขาดครึ่ง ส่วยผู้ค้นหาต่างพบกันในฝัน เมื่อรพินทร์บริกรรมคาถาหลวงพ่อทวดจนได้ฝันเจอหลวงพ่อทอดในภาคของผู้เป้าหมายของการค้นหา จนในวันรุ่งขึ้นได้เจอรพินทร์และบุญคำ ก่อนทั้งคู่เช่นคริสและเชิดวุธต่างพบรพินทร์ รพินทร์เองก็เข้าไปสำรวจค้นหาภายในถ้ำตะโกนเรียกนามจริงของคริส จนคริสสารภาพชื่อจริงของคริสนั้นเป็นชื่อของหล่อนแต่ก็ผ่านเลยไป ในเมื่อต่างฝ่ายผู้ค้นหาอย่างรพินทร์และบุญคำต่างเจอคริสและเชิดวุธนั่งพักรับประทานอาหารโดยรพินทร์บอกเขาทั้งสองว่า บัดนี้ให้เกิดเป็นผุ้นำมัคคุเทสก์ชั่วคราวแทนรพินทร์นำคณะนายจ้างไปยังหมู่บ้านห้วยเสือร้อง เมื่อทั้งรพินทร์ คริส เชิดวุธ และบุญคำ ภายหลังรับประทานอาหาร อาบน้ำเป็นที่เรียร้อยเดินทางมุ่งไปที่หมู่บ้านห้วยเสือร้องจนเจอคณะนายจ้างที่อยู่ที่นั่น

จิตรางคนางค์ เล่มที่ 2 แก้

ดารินรับรู้ร่องรอยและข้อความที่รพินทร์รำพึงที่มีต่อเธอ นั่นคือจุดเริ่มต้นเร่งของการออกเดินทางต่่อไปในทิศทางไปหมู่ห้วยตะเคียน พร้อมเชษฐา อนุชา ไชยยันต์ ภายหลังเธอได้ตื่นอีกวัน การเดินทางระยะแรกได้พบช้างคู่กายอย่างไอ้ด้วน ต่างให้ช้างคู่กายไอ้ด้วนให้เป็นมัคคุเทศก์นำทาง ท่ามกลางพี่ชายใหญ่อย่างเชษฐาและพี่ชายกลางอนุชา รวมไปถึงไชยยันต์คลางแคลงใจในความแม่นยำช้างไอ้ด้วน การเดินระยะที่สองต่างปะทะกับควายป่า ในช่วงที่พรานพื้นเมืองในบริเวณที่พบและการปะทะนี้ ทุ่งช้างแรด 10 ปี จนรอดมาได้ แล้วพักรับประทานอาหาร และเดินทางต่อไปยังผ่านผางูเห่า โดยการบอกของหนานอิน จนค้นพบร่องรอยของคณะรพินทร์อันเป็นมัคคุเทศก์นำทางอยู่ ทั้งบราเซียร์ของผู้หญิง แล้วเดินทางต่อไป จนดารินไม่ได้สติ ก่อนที่จะเดินทางลอดถ้ำ้ท่ามกลางพรานพื้นเมืองสัมผัสได้ถึงเสียงคนเดินตามของจากปากของพรานพื้นเมือง เมื่อลอดถ้ำ้มาได้ก็มาเจอแอ่งน้ำ้โดยให้ดารินที่เป็นลมไม่ได้สติได้อาบน้ำ้ ก็ได้เจอเสือ และต่อมาปะทะร่างวิญญาณของมันตรัย เมื่อเดินทางได้ระยะหนึ่ง และปะทะอีกครั้งกับปะทะโขลงช้างผีสิง ทั้งหมดภายหลังดารินแล้วเจอปะทะมันตรัยกับโขลงช้างผีสิง เข้าสู่ภาวะค่ำ่มืดแล้ว ส่วนคำมืดอีกด้านหนึ่ง ภายหลังรพินทร์สะดุ้งเตือนแล้ว เบลหันมาสนทนาสอบถามในระะยะที่หายไป คริสได้เจออะไรบ้าง

จิตรางคนางค์ เล่มที่ 3 แก้

เมื่อภายหลังได้ปะทะ ดารินได้รับบาดเจ็บซึ่งดารินเป็นหนึ่งในคณะติดตามหารพินทร์อันเป็นมัคคุเทศก์นำทางอยู่นัั้น ต่างก็พบร่องรอยสภาพช้างตัวหนึ่งที่มีงาดำสนิทคาไว้อยู่ ในสายตาดาริน เชษฐา อนุชา และไชยยันต์ และพบสภาพร่างซึ่งวิญญาณมันตรัยเข้าสิงต่างก็ถูกช้างไอ้ด้วนหลบช้างของการปะทะต่างเหยียบแหลก จนเกิดการสนทนาความเป็นไปของแต่ละคนรู้สึกอย่างไรในบ้างในการปะทะโขลงช้างดังกล่าว และทราบว่าถ้าดารินพบรพินทร์แต่งานแล้วจะอยู่กับหนองน้ำแห้ง รุ่งช้างอีกด้าหนึ่งของชีวิตที่หมู่บ้านห้วยเสือร้อง ต่างตืน่ขึ้นมาด้วยอารมณ์แห่งความรักทะเลาะกันระหว่างคริสกับเชิดวุธ ผสานกับปมปัญหาการใช้ชื่อจริงของปลอมของคริส และการชกต๋อยเล็กน้อย เมื่อเรื่องได้รับการคลี่คลาย และการเดินทางไปภายใต้มัคคุเทศก์นำทางอย่างรพินทร์ที่เข้าสู่ภวังค์เล็กน้อย ในระยะแรกของการเดินทางเกรงว่าจะผ่านดินแดนนิทนรานครของมันตรัย ระยะที่สอง การเกิดการปะทะต่อควายป่า จุดไฟเผาป่าจนทุกคนกระเจิ่งกันคนละทาง จนกระทั่งมาเจอกันอีกครั้งทั้งหมดและบ่ายหน้าเข้าไปในทิศทางตะเคียนทอง เช้าอีกวันที่คริสและเชิดวุธเกิดการทะเลาะวิวาท ดารินถามหาช้างไอ้ด้วน และคณะเชษฐาเจอการบุกเข้ามาของงูจงอาง ดารินระเบิดกะสุน เป็นอันว่าเชษฐา อนุชา และไชยยันตื่นขึ้นมา ทั้งหมดก็รับประทานอาหาร จนกระทั่งปะทะกับฝูงแร้ง พบร่องรอยกระทิง และซากไฟเผาป่า ซากช้างเน่า และหลุมศพ ดดยเฉพาะหลุมศพ ทั้งกลุ่มเชษฐา และคณะต่างสนทนาว่าอันเป็นหลุมซากศพของเหยื่อโขลงช้างผีสิงบุกเข้าใส่คณะรพินทร์อันเป็นมัคคุเทศก์

จิตรางคนางค์ เล่มที่ 4 แก้

ก่อนจะถึงหมู่บ้านตะเคียนทอง สมาชิกส่วนหนึ่งอันมีรพินทร์อันเป็นมัคคุเทศก์นำทางนั้น การเดินทางมีสภาพภูมิประเทศเป็นขอบเหว จากขอบเหวุทำให้หนึ่งในนั้นหล่นวูบลงข้างล่าง โดยแต่ละคนรู้แน่ว่าสภาพภุมิประเทศเหล่านี้อาจจะถล่มลงมาเมื่อไหร่ก้ได้ จนช่วยเหลือ และปฐมพยาบาลต่อมา เฝ้ารักษาคริสซึ่งเป้นประสบอุปทวเหตุเมื่อสักครู่ โดยมีเชิดวุธระแวงในอารมณ์และอัธยาศัยของคริส และเบลให้น้ำเกลือ เชิดวุธเฝ้ามอง อีกด้านหนึ่งของคณะหน่าบ่ายหน้าในทิศทางของหมู่บ้านตะเคียนทอง เหล่านี้ต่างสนทนาบัดนี้ได้เริ่มเข้าเขตนรกดำ โดยเฉพาะบุญคำเริ่มรู้สึกได้โดยยการรพินทร์ให้รับทราบสืบเนื่องต่อมา จนกระทั่งหลับใหลลงมา จนกระเจอร่างกระแสจิตแงซายต่อว่ารพินทร์ไม่ได้ดูแลน้ำ้ใจรพินทร์ อีกฝ่ายหนึ่งที่ติดตามหลังรพินทร์เข้ามาต่างสภาพหินถล่ม จนพบหลุมจนกลายเป็นแอ่งน้ำ้ตามมา ซึ่งฝ่ายที่ติดตามหลังหนึ่งหรือสองคนไม่เชษฐา อนุชา ดาริน และไชยยันต์ต่างสนทนาสงสัยฝ่ายรพินทร์อันเป็นมัคคุเทศก์นำทางต่างประสบ ก่อนก้าวต่อไป ดารินเองได้นำกระดิ่งมาแขวนคอให้ช้างไอ้ด้วน จนกระทั่งถึงหมู่บ้านตะเคียนทองที่มสภาพราพณาสูร และซากช้างล้มลงมากมาย จนกระทั่งกับฝูงหมาป่า จนเกิดการต่อสู้ตามมาเกิดขึ้น จนกระทั่งเกิดการสนทนาภายในเชษฐา อนุชา ดาริน และไชยยันต์ อาจจะเป้นฝีมือที่ล่วงเข้ามาอย่างฝ่ายรพินทร์อันเป็นมัคคุเทศก์ยิงซากถล่มซากช้าง จนเข้านอนในโพรงถ้ำ้ใกล้เคียงหมู่บ้านย่านตะเคียนทอง จนดารินจุดธูปขึ้น ก่อนเข้านอน มีร่างวราราชดรีบอกว่า ดารินคือ จิตรางคนางค์ ในชาติที่แล้ว จนรุ่งเช้าในวันรุ่งขึ้น ในฝ่ายเชษฐา รวมถึงดารินเป็นตัวตั้งตัวตีในการตามหารพินทร์พบร่องรอยของการเดินเท้าตามมา

อ้างอิง แก้