อโรคา ปาร์ตี้

(เปลี่ยนทางจาก อโรคาปาร์ตี้)

อโรคา ปาร์ตี้ (อังกฤษ: AROKA PARTY) เป็นรายการวาไรตี้โชว์เพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นรายการที่นำเสนอเรื่องราวที่เกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นรายการวาไรตี้โชว์จากประเทศญี่ปุ่น โดยมีชื่อว่า (ญี่ปุ่น: 最終警告!たけしの本当は怖い家庭の医学โรมาจิSaijyuukeikoku! Takeshi no hontou wa Kowaikatei no igaku) มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า "Medical Horror Check Show" ซึ่งเรียกห้องส่งของรายการว่า Black Hospital ผลิตขึ้นโดยบริษัท ทีวีอาซาฮี จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งถูกผลิตขึ้นให้ผู้คนหวาดกลัว (ต่อโรคที่เป็นแล้วจะมีลักษณะใด)

อโรคา ปาร์ตี้
ภาพตราสัญลักษณ์รายการอโรคา ปาร์ตี้
ภาพตราสัญลักษณ์รายการอโรคา ปาร์ตี้
ประเภทวาไรตี้
พัฒนาโดยบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน)
เสนอโดยธงชัย ประสงค์สันติ
พอลลีน เต็ง
ประเทศแหล่งกำเนิดญี่ปุ่น ประเทศญี่ปุ่น
ภาษาต้นฉบับไทย
จำนวนตอน77 ตอน (นับถึงวันที่ 5 ตุลาคม 2552)
การผลิต
ความยาวตอน45 นาที
ออกอากาศ
เครือข่ายโมเดิร์นไนน์ทีวี
ออกอากาศ6 มีนาคม พ.ศ. 2551 –
5 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ในประเทศไทยได้รับลิขสิทธิ์รายการนี้มาผลิตในประเทศไทยโดยบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ร่วมมือกับโรงพยาบาลพญาไท โดยใช้ชื่อว่า "อโรคา ปาร์ตี้" ดังกล่าว โดยออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 22.05 น. - 22.50 น. (จากนั้นเลื่อนเวลาออกอากาศเป็น 22.15 น. - 23.00 น. และจะเปลี่ยนวันออกอากาศเป็นทุกวันจันทร์ เวลา 22.15 - 23.00 น.เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2552) เริ่มออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2551 และ ออกอากาศเป็นเทปสุดท้ายวันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ดำเนินรายการโดย ธงชัย ประสงค์สันติ และ หมอพี (ทันตแพทย์หญิง พอลลีน เต็ง) โดยใช้คำปรัชญาประจำรายการว่า "อโรคาปาร์ตี้ วาไรตี้ไม่มีโรค"รายการอโรคาปาร์ตี้นำมาออกอากาศอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 2 มกราคม 2553 เวลา 20.15 - 21.10 น.ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5และปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นรายการเกมโชว์ควิซโชว์โดยใช้ชื่อรายการเป็น ปาร์ตี้วิทยาศาสตร์ ตอน อโรคา ซายส์ ปาร์ตี้ แทน อโรคาปาร์ตี้

ลักษณะรายการ แก้

เป็นรายการวาไรตี้ที่ให้ความรู้เรื่องโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ว่า เมื่อเป็นโรคนี้แล้วจะมีอาการอย่างไรบ้าง ภายในรายการจะมีแขกรับเชิญ 5 คนเข้ามาคุยกันเกี่ยวกับเรื่องโรคที่จะนำเสนอในสัปดาห์นั้น ๆ ซึ่งทั้ง 5 คนที่เชิญเข้ามาจะมีลักษณะที่คาดว่าเสี่ยงต่อการเป็นโรคที่จะนำมาเสนอหรือไม่ และมีแพทย์ประจำโรงพยาบาลพญาไทที่เชี่ยวชาญเฉพาะโรคมาให้ความรู้และตอบปัญหาข้อสงสัยของแขกรับเชิญทั้ง 5 คนได้

ประวัติการทำรายการ แก้

  • ปี พ.ศ. 2551
    • ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2551
    • 26 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ได้เพิ่มช่วง "อโรคา การ์ตูน" เกี่ยวกับตอบปัญหาสั้น ๆ ผ่านทางการ์ตูน, สิ้นสุดเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2551 และกลับมาเสนออีกครั้งในวันที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ 2551 และยกเลิกการนำเสนอไปในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2552 แต่เปลี่ยนมาเป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องคลอเลสเตอรอลแทน
    • 4 กันยายน พ.ศ. 2551 เปลี่ยนเพลงประกอบรายการ เป็นครั้งที่ 2 และเปลี่ยนเนื้อหาช่วงละครให้น่าสนใจมากขึ้น
  • ปี พ.ศ. 2552
    • 1 มกราคม พ.ศ. 2552 เริ่มการเปิดโอกาสให้ผู้ชมรายการส่ง SMS เข้ามาร่วมสนุก โดยทายว่าผู้ร่วมรายการท่านใดจะเป็นผู้เข้าไปอยู่ในพื้นที่ RED ZONE ผู้ที่ทายถูก 5 ท่านแรก จะได้รับรางวัลเพื่อสุขภาพจากโรงพยาบาลพญาไท
    • 16 เมษายน พ.ศ. 2552 เปลี่ยนเพลงประกอบรายการ เป็นครั้งที่ 3, และเพิ่มช่วง "ชีพจร ขึ้นหัว" และ "โบราณ บานบุรี"
    • 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ได้ลดจำนวนแขกรับเชิญเหลือ 4 คน
    • 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 เปลี่ยนวันออกอากาศเป็นทุกวันจันทร์ เวลา 22.15 - 23.00 น.
    • 5 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ออกอากาศเป็นเทปสุดท้าย
  • ปี พ.ศ. 2553
    • 2 มกราคม พ.ศ. 2553 กลับมาออกอากาศอีกครั้งทาง ททบ.5 ทุกวันเสาร์ 20.15 น.- 21.05 น. โดยใช้ชื่อว่า ปาร์ตี้วิทยาศาสตร์ ตอน อโรคา ซายส์ ปาร์ตี้ โดยเปลี่ยนรูปแบบเป็นเกมโชว์ควิซโชว์
  • ปี พ.ศ. 2557
    • 12 มกราคม พ.ศ. 2557 กลับมาออกอากาศอีกครั้งทาง ททบ.5 ทุกวันอาทิตย์ 17.00 น.- 17.50 น. โดยใช้ชื่อว่า อโรคา ปาร์ตี้ 2014 โดยเปลี่ยนรูปแบบเป็นวาไรตี้เกมโชว์ควิซโชว์ โดยที่พิธีกรเป็น สมพล ปิยะพงศ์สิริ และ ทันตแพทย์หญิง พอลลีน (ล่ำซำ) เต็ง

รายชื่อตอนที่ออกอากาศ แก้

ตอนที่ วันที่ออกอากาศ ชื่อตอน
1 6 มีนาคม 2551 โรคหยุดหายใจ
2 13 มีนาคม 2551 โรคกระดูกข้อต่อหัวสะโพกตาย
3 20 มีนาคม 2551 โรคกระจกตาเปื่อย
4 27 มีนาคม 2551 โรคเนื้องอกในโสตประสาท
5 3 เมษายน 2551 โรคมะเร็งรังไข่
6 10 เมษายน 2551 โรคฝากล่องเสียงอักเสบเฉียบพลัน
7 17 เมษายน 2551 โรคเส้นเลือดในสมองแตกชนิดที่เกิดจากความผิดปกติของไต
8 24 เมษายน 2551 โรคลดความอ้วน
9 1 พฤษภาคม 2551 โรคเครียด
10 8 พฤษภาคม 2551 โรคมะเร็งปอดฉับพลัน (Epidermoid Carcinoma)
11 15 พฤษภาคม 2551 โรคไขสันหลังตึงรั้ง
12 22 พฤษภาคม 2551 โรคมะเร็งมดลูก
13 5 มิถุนายน 2551 โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
14 19 มิถุนายน 2551 โรคตุ่มพุพอง
15 26 มิถุนายน 2551 โรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
16 3 กรกฎาคม 2551 โรคติดเชื้อจากสัตว์เลี้ยง
17 10 กรกฎาคม 2551 โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่
18 17 กรกฎาคม 2551 โรคไส้เลื่อนที่ขาหนีบ
19 24 กรกฎาคม 2551 โรคมะเร็งในกระเพาะอาหาร
20 31 กรกฎาคม 2551 โรคติดเชื้อแบคทีเรียจากช่องปากชนิดรุนแรง (Descending Necrotizing Mediastinitis)
21 7 สิงหาคม 2551 โรคมะเร็งทางเดินอาหาร
22 14 สิงหาคม 2551 โรคภูมิคุ้มกันทำร้ายตัวเอง (Dermatomyositis)
23 21 สิงหาคม 2551 โรคจอประสาทตาหลุดลอก
24 28 สิงหาคม 2551 โรคกล้ามเนื้อลีบ
25 4 กันยายน 2551 โรคต้อหิน
26 11 กันยายน 2551 โรคนอนไม่เป็นเวลา (Circadian Rhythm Sleep Disorder)
27 18 กันยายน 2551 โรคภาวะเสียสมดุลของเกลือแร่ (Electrolytes Imbalance)
28 25 กันยายน 2551 โรคมะเร็งตับอ่อน
29 2 ตุลาคม 2551 โรคกรวยไตอักเสบเฉียบพลัน
30 9 ตุลาคม 2551 โรคกล้ามเนื้อหดเกร็ง (Muscle Pain Syndrome)
31 23 ตุลาคม 2551 โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเรื้อรัง
32 30 ตุลาคม 2551 โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
33 6 พฤศจิกายน 2551 โรคเนื้องอกของต่อมใต้สมอง (Acromegaly)
34 13 พฤศจิกายน 2551 โรคเส้นเลือดใหญ่อุดตัน
35 20 พฤศจิกายน 2551 โรคกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหย่อน
36 27 พฤศจิกายน 2551 โรคเบาหวานประเภทที่ 1 แบบรุนแรง
37 4 ธันวาคม 2551 โรคมะเร็งกล่องเสียง
38 11 ธันวาคม 2551 โรคอ่อนเพลียเหนื่อยล้าเรื้อรัง (Chronic Fatigue Syndrome)
39 18 ธันวาคม 2551 โรคลิ่มเลือดอุดตัน (Lung Infraction)
40 25 ธันวาคม 2551 โรคเชื้อราในโพรงไซนัส
41 1 มกราคม 2552 โรคเนื้องอกที่ไต
42 8 มกราคม 2552 โรคเลือดออกที่เยื่อหุ้มสมอง
43 15 มกราคม 2552 โรคหัวใจสลาย (Broken Heart Syndrome)
44 22 มกราคม 2552 โรคมะเร็งชนิดที่เกิดจากไฝ (Melanoma)
45 29 มกราคม 2552 โรคหลอดเลือดสมองอุดตันชนิดที่เกิดจากการกดทับของกระดูกสันหลังส่วนคอ (Cerebral Infarction)
46 5 กุมภาพันธ์ 2552 โรคข้อเข่าเสื่อม
47 12 กุมภาพันธ์ 2552 โรคแท้งลูกเพราะภูมิแพ้ตัวเอง (Antiphospholipid Antibody Syndrome)
48 19 กุมภาพันธ์ 2552 โรคกล้ามเนื้อที่คอเกร็งบิด
49 5 มีนาคม 2552 โรคถุงลมโป่งพอง
50 12 มีนาคม 2552 โรคเส้นเลือดลำไส้อุดตัน
51 19 มีนาคม 2552 โรคพาร์กินสัน
52 26 มีนาคม 2552 โรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน
53 2 เมษายน 2552 โรคเบาหวานแฝงเร้น
54 16 เมษายน 2552 โรคต้อหินฉับพลัน
55 23 เมษายน 2552 โรคมะเร็งปอดเรื้อรัง (Lung Cancer)
56 30 เมษายน 2552 โรคเส้นเอ็นข้อไหล่ฉีก (Rotator Cuff Injury)
57 7 พฤษภาคม 2552 โรคกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน (Overactive Bladder)
58 14 พฤษภาคม 2552 โรคแพ้อากาศ
59 21 พฤษภาคม 2552 โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดเฉียบพลัน (Acute Promyelocytic Leukemia)
60 28 พฤษภาคม 2552 โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน (Meniere's Disease)
61 4 มิถุนายน 2552 โรคกระดูกพรุน
62 11 มิถุนายน 2552 โรคมะเร็งเต้านม
63 18 มิถุนายน 2552 โรคกระเปาะทวารหนัก (Rectocele)
64 25 มิถุนายน 2552 โรคหลอดเลือดลำคออุดตัน
65 6 กรกฎาคม 2552 โรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
66 13 กรกฎาคม 2552 โรคนิ่วทางเดินปัสสาวะ
67 20 กรกฎาคม 2552 โรคสมองตาย
68 27 กรกฎาคม 2552 โรคจอประสาทตาเสื่อม
69 3 สิงหาคม 2552 โรคหอบหืด
70 10 สิงหาคม 2552 โรคเส้นเลือดโป่งพองที่บริเวณขา
71 17 สิงหาคม 2552 โรคการติดเชื้อวัณโรคในเยื่อหุ้มสมอง
72 24 สิงหาคม 2552 โรคผนังลำไส้อักเสบ
73 31 สิงหาคม 2552 โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ
74 7 กันยายน 2552 โรคลิ้นหัวใจรั่ว
75 14 กันยายน 2552 โรคงูสวัด
76 28 กันยายน 2552 โรคไตเสื่อมเรื้อรัง
77 5 ตุลาคม 2552 โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ

การออกอากาศ แก้

  • 29 พฤษภาคม 2551 งดออกอากาศ
  • 12 มิถุนายน 2551 งดออกอากาศ
  • 16 ตุลาคม 2551 งดออกอากาศ
  • 26 กุมภาพันธ์ 2552 งดออกอากาศ
  • 9 เมษายน 2552 งดออกอากาศ
  • 21 กันยายน 2552 งดออกอากาศ

ปัญหาของการออกอากาศ แก้

เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2552 รายการก็หลุดออกจากผังช่อง 9 เนื่องจากความผิดพลาดในการสื่อสารและประสานงานกันของบริษัทกับสถานี

รายละเอียดรายการ แก้

ในส่วนของการดำเนินรายการจะมีการนำเสนอโรคประจำสัปดาห์ที่ออกอากาศ โดยมีลำดับการดำเนินรายการอย่างเป็นขั้นตอนดังนี้

ช่วงเกริ่นนำ แก้

พิธีกรทั้ง 2 ท่านจะพูดคุยกับแขกรับเชิญทั้ง 5 คนในเรื่องการดูแลสุขภาพ และอาการที่แขกรับเชิญได้บอกว่าเป็นแบบนั้นบ่อย ๆ โดยที่เนื้อหาการคุยกันจะเกี่ยวข้องกับโรคที่จะนำเสนอ

ช่วงละคร แก้

ช่วงละครนั้น จะเป็นละครที่จำลองมาจากเหตุการณ์จริง ถึงผู้ที่ป่วยหรือเสียชีวิตด้วยโรคนี้ โดยมีผู้บรรยายเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในละคร ซึ่งจะบรรยายอาการของโรคที่จะนำเสนอดังกล่าวว่า มีอาการอย่างไรบ้าง และลักษณะของผู้ที่ป่วยหรือเสียชีวิตด้วยโรคดังกล่าวนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ลักษณะเนื้อหาของละครนั้น จะมีลักษณะน่ากลัวคล้ายกับภาพยนตร์แนวสยองขวัญ เพื่อให้รู้ว่า อาการของโรคนั้น เป็นแล้วน่ากลัวมากแค่ไหน

หลังจากที่ละครได้ดำเนินมาถึงอาการขั้นสุดท้ายของโรค ผู้บรรยายจะเฉลยชื่อโรคที่นำเสนอพร้อมบรรยาย และเตือนผู้ชมทางบ้านว่า อาการลักษณะใดที่เสี่ยงต่อการทำให้เกิดโรคดังกล่าว ซึ่งข้อความคำพูดมักจะบอกว่า "คุณ (มีอาการตามลักษณะที่เสี่ยงต่อโรค) หรือไม่... หากปล่อยไว้เป็นเช่นนี้ คุณอาจเป็นผู้โชคร้ายคนต่อไปก็ได้..."

ช่วงตรวจอาการ แก้

ก่อนที่แขกรับเชิญทั้ง 5 คนเข้าร่วมรายการนั้น จะมีการตรวจสุขภาพเพื่อตรวจสอบความเสี่ยงที่จะเป็นโรคที่จะนำเสนอที่โรงพยาบาลพญาไท แล้วเข้ามาฟังผลในรายการ ผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคดังกล่าว จะถูกเชิญเข้าไปนั่งในพื้นที่สีแดง (RED ZONE) หรือพื้นที่อันตราย ซึ่งแต่ละสัปดาห์ อาจมีแขกรับเชิญเข้าไปนั่งในพื้นที่สีแดงมากกว่า 1 คนหรือไม่มีก็ได้

ต่อมา ทางรายการได้เปลี่ยนแปลงลักษณะการตรวจอาการ ให้ดูมีสาระและดูไม่น่ากลัวมากขึ้น โดยการแบ่งสีออกเป็น 4 สี นั่นคือ แดง ส้ม เหลือง และ เขียว ซึ่งบ่งบาอกลักษณะสุขภาพว่า ยังปลอดภัยจากโรคที่นำเสนอหรือไม่ โดยมีป้ายตามหมายเลขกำกับ เมื่อพิธีกรเปิดป้ายแล้วเป็นแขกรับเชิญคนใด แขกรับเชิญคนนั้นจะมีความเสี่ยงตามป้ายดังกล่าว ในบางครั้งในแต่ละป้ายอาจจะมีมากกว่าหนึ่งคนหรือไม่มีก็ได้ ซึ่งการแบ่งอัตราความเสียงจะเป็นดังนี้

  • ██ สีแดง (ป้ายหมายเลข 1) คือ มีความเสียงมากที่เป็นโรคนี้ จะต้องเข้าไปในพื้นที่สีแดง (RED ZONE)
  • ██ สีส้ม (ป้ายหมายเลข 2) คือ มีความเสี่ยงปานกลาง
  • ██ สีเหลือง (ป้ายหมายเลข 3) คือ มีความเสียงน้อย
  • ██ สีเขียว (ป้ายหมายเลข 4) คือ ไม่มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้

ช่วงท้ายรายการ แก้

หลังจากนั้น จะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญประจำโรคประจำสัปดาห์จากโรงพยาบาลพญาไท มาให้ความรู้พร้อมกับอธิบายโรคดังกล่าวโดยละเอียด และตอบคำถามของแขกรับเชิญต่าง ๆ ที่สงสัย เพื่อให้มีวิธีรักษาและป้องกันโรคดังกล่าวได้

ช่วงพิเศษ แก้

ทางรายการ ได้นำเอาช่วงพิเศษ มาเป็นสาระความรู้เพิ่มเติม โดยมีรายละเอียดดังนี้

กระแสตอบรับ แก้

มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก [ต้องการอ้างอิง] ว่ารายการนี้นำเสนอให้ประชาชนมีความหวาดกลัวในโรคต่างๆ เกินจริง และร้องขอการตรวจทางการแพทย์ที่เกินความจำเป็น ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะความเครียดเพราะความกังวลดังกล่าวได้ในที่สุดจะเห็นได้จากการนำเสนออย่างเกินจริงในบางโรคซึ่งมิใช่โรคที่พบได้ทั่วไป แต่พบได้น้อยถึงน้อยมาก กลับมาทำให้หวาดกลัวกันในประชาชนหมู่มาก จึงนับว่าเป็นดาบสองคมของการบริโภคสื่อ ของผู้รักสุขภาพในปัจจุบัน

อย่างไรก็ดี รายการดังกล่าวก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างดี ทำให้ผู้คนหมั่นใส่ใจในสุขภาพเพิ่มมากขึ้น

ดูเพิ่ม แก้

แหล่งข้อมูลอื่น แก้