สโมสรฟุตบอลปารีส

(เปลี่ยนทางจาก Paris FC)

สโมสรฟุตบอลปารีส (ฝรั่งเศส: Paris FC) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพของฝรั่งเศสที่ตั้งอยู่ในกรุงปารีสที่จะแข่งขันในลีกเอิงในฤดูกาล 2025–26 หลังจากได้เลื่อนชั้นจากลีกเดอ ตั้งแต่ฤดูกาล 2025–26 เป็นต้นไป สโมสรฟุตบอลปารีสจะลงเล่นเกมเหย้าที่สนามสตาดฌอง-บวงซึ่งตั้งอยู่ในเขตบูโลญ-บีย็องกูร์ในปารีส

ปารีส
ชื่อเต็มสโมสรฟุตบอลปารีส
ก่อตั้ง1 สิงหาคม 1969; 55 ปีก่อน (1969-08-01)
สนามสตาดฌอง-บวง
ความจุ20,000 คน
สนามกีฬา
พิกัด
48°50′35″N 2°15′10″E / 48.84306°N 2.25278°E / 48.84306; 2.25278
ลีกลีกเอิง
2024–25ลีกเดอ, รองแชมป์ (เลื่อนชั้น)
สีชุดทีมเยือน
สีชุดที่สาม

สโมสรฟุตบอลปารีสก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1969 โดยรวมกับสตาดแซ็ง-แฌร์แม็ง เพื่อก่อตั้งปารีแซ็ง-แฌร์แม็งใน ค.ศ. 1970 แต่ในที่สุดก็แยกตัวออกไปในปี ค.ศ. 1972 พวกเขาได้รับฉายาว่า เลอ เบลอส์ (เดอะบลูส์) เนื่องมาจากสีเสื้อของสโมสรเป็นสีน้ำเงิน และตราประจำทีมมีรูปหอไอเฟล สโมสรฟุตบอลปารีสลงเล่นเกมเหย้าที่สตาดฌอง-บวง ในปารีสตั้งแต่ปี ค.ศ. 2025 ซึ่งตั้งอยู่ในเขตที่ 16 ของปารีส

หลังแยกตัวจากปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง สโมสรต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อสร้างตัวเองในลีกฟุตบอลฝรั่งเศส โดยเล่นส่วนใหญ่ในลีกสมัครเล่น ก่อนจะกลับมามีสถานะเป็นสโมสรอาชีพอีกครั้งในปี ค.ศ. 2015 เดอะบลูส์ฟื้นตัวกลับมาได้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2024 เมื่อพวกเขาถูกครอบครัวอาร์โนเข้าเทคโอเวอร์ ด้วยการลงทุนทางการเงินจำนวนมาก พวกเขาจึงเลื่อนชั้นกลับสู่ลีกเอิงอีกครั้งในฤดูกาล 2024–25 หลังจากห่างหายไปนานถึง 46 ปี

ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2024 สโมสรฟุตบอลปารีสตกเป็นของ Agache Sport ของตระกูลอาร์โนซึ่งปัจจุบันถือหุ้นอยู่ 52.4%, เรดบูล จีเอ็มบีเอช กลุ่มบริษัทของออสเตรีย ถือหุ้น 10.6%, Alter Paris นำโดยปีแยร์ เฟอรัคชี ถือหุ้น 29.8% และบีอาร์ไอถือหุ้น 7.2%

ประวัติ

แก้

สโมสรฟุตบอลปารีสก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 1969 เป้าหมายของสโมสรคือการได้เล่นในลีกเอิงภายใน ค.ศ. 1970 ความพยายามที่จะควบรวมกับเซแอ็ส เซอด็องอาร์แดน ถูกปฏิเสธ ดังนั้นปารีสจึงมองหาสโมสรในลีกเดอ และต่อมาได้รวมกับสตาดแซ็ง-แฌร์แม็งเพื่อก่อตั้งปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง ซึ่งเป็นสโมสรอาชีพที่เล่นในลีกเอิง สโมสรฟุตบอลปารีสในปัจจุบันถือกำเนิดขึ้นใน ค.ศ. 1972 เมื่อสโมสรแยกตัวออกจากปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง หลังจากได้รับแรงกดดันจากนายกเทศมนตรีปารีสซึ่งปฏิเสธที่จะสนับสนุนสโมสรที่ไม่ได้มาจากปารีส (แต่เดิมสโมสรตั้งอยู่ในแซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แล)

ในตอนต้นของฤดูกาล 1972–73 ปารีลงเล่นในลีกเอิงโดยใช้สนามเหย้าที่ปาร์กเดแพร็งส์ 2 ฤดูกาลต่อมา สโมสรตกชั้นสู่ลีกเดอ ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับการที่ปารีแซ็ง-แฌร์แม็งก้าวขึ้นสู่ลีกสูงสุดและการเข้าซื้อสนามปาร์กเดแพร็งส์ หลังจากเล่นในลีกเดอได้ 4 ปี ปารีสก็กลับสู่ลีกเอิงในฤดูกาล 1978–79 อย่างไรก็ตาม ฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลที่ยากลำบากและส่งผลให้สโมสรต้องตกชั้นกลับสู่ลีกเดอหลังจากผ่านไป 1 ฤดูกาล หลังจากนั้น สโมสรฟุตบอลปารีสยังไม่สามารถหวนคืนสู่ลีกสูงสุดของฝรั่งเศสได้

ใน ค.ศ. 1983 สโมสรฟุตบอลปารีสซึ่งขณะนั้นนำโดยฌ็อง-ลุก ลาการ์แดร์ นักอุตสาหกรรม ได้รวมเข้ากับราซีงเกลิบเดอฟร็องส์ขณะที่ราซีงยังคงอยู่ในลีกเอิง สโมสรฟุตบอลปารีสตกชั้นสู่ดิวิชัน 4 หลังจากผ่านไป 1 ฤดูกาล ก่อนจะตกชั้นสู่ดิวิชัน 5 และใช้เวลา 4 ฤดูกาลในดิวิชัน 5 ก่อนกลับสู่ดิวิชัน 4 ใน ค.ศ. 1988 การเลื่อนชั้นในฤดูกาลถัดมา ทำให้ปารีสเลื่อนชั้นขึ้นสู่ดิวิชัน 3 ปารีสยังคงอยู่ในดิวิชัน 3 เป็นเวลา 12 ปีก่อนที่จะเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งของช็องปียอนานาซียอนาล ใน ค.ศ. 2000 สโมสรจบอันดับที่ 17 และตกชั้นไปเล่นในช็องปียอนาเดอฟร็องส์ระดับสมัครเล่น ปารีสใช้เวลา 6 ปีในลีกก่อนจะกลับสู่ช็องปียอนานาซียอนาล ในฤดูกาล 2006–07 หลังจากประสบความสำเร็จในฤดูกาล 2014–15 สโมสรได้เลื่อนชั้นสู่ลีกเดอ ดิวิชัน 2 ของฝรั่งเศส ร่วมกับสโมสรฟุตบอลแรดสตาร์ คู่แข่งร่วมเมือง อย่างไรก็ตาม พวกเขาอยู่ในลีกเดอได้เพียง 1 ฤดูกาลและตกชั้นกลับสู่ช็องปียอนานาซียอนาลในฤดูกาล 2016–17

ในฤดูกาล 2016–17 สโมสรฟุตบอลปารีสเข้ารอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้น/ตกชั้นกับอูว์แอ็ส ออร์เลอ็อง แต่แพ้ในผลรวม 2 นัด จากนั้น สโมสรฟุตบอลปารีสได้เลื่อนชั้นสู่ลีกเดอหลังจากที่แอ็สเซ บัสตียา ถูกลดระดับสู่ดิวิชัน 3 เนื่องจากความผิดปกติทางการเงิน[1] สำหรับฤดูกาล 2017–18 ปารีสจบอันดับที่ 8 ของตารางอยู่ห่างจากโซนเพลย์ออฟเลื่อนชั้นเพียง 3 อันดับ[2]

ในฤดูกาล 2018–19 ปารีสจบอันดับที่ 4 และแข่งขันรอบเพลย์ออฟกับอาเซ ล็องส์ แต่แพ้การยิงลูกโทษหลังจากเสมอกัน 1–1[3]

เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2021 สโมสรฟุตบอลปารีส พร้อมด้วยอองเชร์ ได้รับคำสั่งแบนการซื้อขายโดยฟีฟ่า เนื่องจากละเมิดกฎข้อบังคับเกี่ยวกับการซื้อขายในเดือนสิงหาคม 2020 การแบนมีผลในช่วงตลาดซื้อขายช่วงซัมเมอร์ปี 2021[4]

การลงทุนโดยบาห์เรน

แก้

เดือนกรกฎาคม 2020 สโมสรฟุตบอลปารีสได้ประกาศความร่วมมือกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์รายใหม่ นั่นคือ ราชอาณาจักรบาห์เรน เพื่อร่วมกันพัฒนาและยกระดับสโมสรให้ก้าวไปสู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ข้อตกลงเสร็จสิ้นลงด้วยการลงทุนเพื่อปรับปรุงสถานะทางการเงินของสโมสร ทำให้ราชอาณาจักรบาห์เรนถือหุ้นในสโมสรเป็นสัดส่วน 20 เปอร์เซ็นต์ของหุ้นทั้งหมด ปีแยร์ เฟอรัคชี ผู้ก่อตั้ง อัลฟ่ากรุป[5] ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นหลักในสัดส่วนร้อยละ 77 นอกเหนือจากการลงทุนครั้งนี้ ราชอาณาจักรบาห์เรนยังกลายเป็นผู้สนับสนุนหลักของสโมสรอีกด้วย

การบริหารงานของตระกูลอาร์โนและกลับสู่ลีกเอิง (2025–ปัจจุบัน)

แก้

ในเดือนตุลาคม 2024 มีรายงานว่าตระกูลอาร์โนจะเข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของสโมสรในอนาคต พร้อมกับการเข้ามาถือหุ้นส่วนน้อยของบริษัทเรดบูล จีเอ็มบีเอช[6] เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 2024 การเข้าซื้อกิจการได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการ โดยตระกูลอาร์โนซื้อหุ้น 52.4% ผ่านบริษัท Agache Sport ซึ่งเป็นบริษัทผู้ถือหุ้นของพวกเขา[7][8] ปีแยร์ เฟอรัคชียังคงถือหุ้น 29.8% ผ่าน Alter Paris ในขณะที่ เรดบูลเข้าซื้อ 10.6% และ BRI Sports Holdings ถือหุ้น 7.2% ในสโมสร[7]

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2025 สโมสรฟุตบอลปารีสบรรลุข้อตกลงกับสโมสรรักบี้ Stade Français เพื่อให้ทีมย้ายไปที่สตาดฌอง-บวงของพวกเขาซึ่งตั้งอยู่ในเขตที่ 16 ก่อนฤดูกาล 2025–26[9] ในวันที่ 2 พฤษภาคม ค.ศ. 2025 สโมสรฟุตบอลปารีสได้เลื่อนชั้นสู่ลีกเอิง เป็นการกลับสู่ลีกสูงสุดของฟุตบอลฝรั่งเศสหลังจากห่างหายไปนานถึง 46 ปี[10]

สนาม

แก้

นับตั้งแต่ก่อตั้ง สโมสรฟุตบอลปารีสได้ลงเล่นในสนามกีฬาหลายแห่ง โดยเฉพาะปาร์กเดแพร็งส์, สตาดเดเฌรีน, สตาดชาร์เลตี และล่าสุดคือสตาดฌอง-บวง สโมสรได้เล่นเกมเหย้าที่สนามปาร์กเดแพร็งส์ที่สร้างใหม่ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1972 ถึง 1974 และอีกครั้งในฤดูกาล 1978–79 ในช่วงสั้น ๆ ที่ลงเล่นในลีกเอิง โดยแบ่งสนามกับทีมปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง[11][12] หลังจากที่สโมสรตกชั้นในปี ค.ศ. 1974 ทีมได้ย้ายสนามไปที่ Stade de la Porte de Montreuil ที่มีความเก่าแก่ ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นสตาดเดเฌรีนโดยเป็นสนามขนาดเล็กที่มีความจุจำกัด สโมสรฟุตบอลปารีสยังคงอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหลายปี แม้จะประสบปัญหาเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่ดี และแม้กระทั่งเกิดไฟไหม้ที่ทำลายห้องแต่งตัวในช่วงฤดูกาล 1974–75[13]

ในปี ค.ศ. 1999 สโมสรได้ย้ายไปยังสตาดชาร์เลตีเป็นการชั่วคราวเป็นส่วนหนึ่งของการกลับสู่ฟุตบอลอาชีพ แต่หลังจากตกชั้น พวกเขาก็กลับมายังเดเฌรีนจนถึงปี ค.ศ. 2007[14] ในปีนั้น พวกเขาย้ายไปอยู่ที่สตาดชาร์เลตีเป็นการถาวร และในปี ค.ศ. 2013 เนื่องจากมีผู้เข้าชมน้อย สโมสรจึงกลับมาที่เดเฌรีนอีกครั้งในช่วงสั้น ๆ[15][16]

ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2025 สโมสรฟุตบอลปารีสบรรลุข้อตกลงสำคัญกับสตาดฟรองเซส์เพื่อย้ายไปยังสนามสตาดฌอง-บวง เริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2025–26 ฌอง-บวงตั้งอยู่ในเขตที่ 16 ซึ่งมีบรรยากาศที่ปิดและเป็นมิตรต่อการแข่งขันฟุตบอล การเคลื่อนไหวดังกล่าวได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากเยือร์เกิน คล็อพ หัวหน้าฝ่ายฟุตบอลระดับโลกของเรดบูล ซึ่งผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากชาร์เลตีมีประสบการณ์ในวันแข่งขันที่ไม่ดีนัก คล็อพเชื่อว่าที่นั่งที่อยู่ห่างไกลเนื่องจากมีลู่วิ่งคั่นกลางที่ชาร์เลตี ทำให้ทั้งการมีส่วนร่วมของแฟนบอลและประสิทธิภาพของผู้เล่นลดลง การเคลื่อนไหวครั้งนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ด้านฟุตบอลของเรดบูลที่จะสร้างบรรยากาศการเชียร์ที่เข้มข้นจากแฟนบอลและยกระดับสถานะการแข่งขันของสโมสรฟในวงการฟุตบอลฝรั่งเศส[17][18][19][20][21][22]

ผู้เล่นชุดปัจจุบัน

แก้
ณ วันที่ 28 เมษายน 2025[23]

หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ

เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น
1 GK   เรมี ริอู
2 DF   ตูมัส โอลลิลา
4 MF   แว็งซ็อง มาร์เกตติ
5 DF   มุสตาฟา เอ็มโบ
7 FW   อาลิมามิ กอรี
8 MF   โลฮันน์ ดูเซต์
9 FW   อ็องดี แปมเบเล
10 MF   อิลาน เกบบาล
11 FW   ฌ็อง-ฟิลิปป์ ครัสโซ
12 FW   นัวฮา ดิกโก
13 FW   มาติเยอ คาฟาโร
15 DF   ทิโมธี โคโลดเซียจซัค (กัปตันทีม)
16 GK   โอเบ็ด อึนกัมบาดิโอ
เลข ตำแหน่ง สัญชาติ ผู้เล่น
17 MF   อาดามา กามารา
18 FW   โอมาร์ ซิสโซโก
20 FW   จูเลียน โลเปซ
21 MF   มักซิม โลเปซ
22 DF   โซฟียาน อาลาคูช
26 FW   ลามีน เกย์
27 FW   โมซิส ซีมง
28 DF   ตีโบ เดอ สเมต

อ้างอิง

แก้
  1. "Ligue 2: Paris FC Promoted To Second Division". www.thestoppagetime.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-12-29. สืบค้นเมื่อ 28 March 2018.
  2. "French Football League - Domino's Ligue 2 - League Table". Ligue1.com. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 10 March 2015. สืบค้นเมื่อ 18 October 2018.
  3. "Lens qualifié au bout de la nuit ira à Troyes vendredi" (ภาษาฝรั่งเศส). foot-national.com. 21 May 2019.
  4. "Angers et le Paris FC condamnés par la FIFA !" (ภาษาฝรั่งเศส). foot-national.com. 30 April 2021. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 May 2021. สืบค้นเมื่อ 30 April 2021.
  5. Chalandon, Sorj (10 January 2014). "Amis des salariés, conseils des patrons (Le Canard Enchaîné - La mare aux canards)" [Friends of employees, employers' councils (Le Canard Enchaîné - La mare aux canards)]. filpac cgt (filpac-cgt.fr) (ภาษาฝรั่งเศส). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 25 April 2017. สืบค้นเมื่อ 3 August 2021.
  6. "Le Paris FC bientôt racheté par la famille Arnault et le groupe Red Bull" [Paris FC soon to be bought by the Arnault family and the Red Bull group] (ภาษาฝรั่งเศส). Le Monde. 9 October 2024. สืบค้นเมื่อ 10 October 2024.
  7. 7.0 7.1 "Le Paris FC officialise l'évolution de son actionnariat - Paris FC" (ภาษาฝรั่งเศส). 2024-11-29. สืบค้นเมื่อ 2025-05-03.
  8. "Ligue 2. Le Paris FC officiellement racheté par la famille Arnault avec le soutien de Red Bull". Ouest-France.fr (ภาษาฝรั่งเศส). 2024-11-29. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2024-12-08. สืบค้นเมื่อ 2025-05-03.
  9. AFP (2025-02-12). "D'accord avec le Stade Français, le Paris FC jouera à Jean-Bouin". Ligue 1 (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2025-05-05.
  10. "Paris FC join PSG in Ligue 1 for 1st time in 46 yrs". ESPN.com (ภาษาอังกฤษ). 2025-05-02. สืบค้นเมื่อ 2025-05-03.
  11. "Paris-fc Saison 1974". footballstats.fr. สืบค้นเมื่อ 7 January 2015.
  12. "Paris-fc Saison 1979". footballstats.fr. สืบค้นเมื่อ 7 January 2015.
  13. Stéphane Corby (16 September 2006). "Déjerine, un stade à part". leparisien.fr. สืบค้นเมื่อ 18 January 2015.
  14. "Le Paris FC jouera à Charlety". 20minutes.fr. 20 June 2007. สืบค้นเมื่อ 18 January 2015.
  15. "Le Paris FC retrouve son jardin". leparisien.fr. 16 August 2013. สืบค้นเมื่อ 29 December 2014.
  16. "Foot – National – Le Paris FC déménage à Déjérine". sportsco-idf.fr. 5 August 2013. สืบค้นเมื่อ 29 December 2014.
  17. "Paris FC to move to Stade Jean-Bouin from 2025–26 season". example.com. สืบค้นเมื่อ 14 May 2025.
  18. "Jürgen Klopp: Paris FC move 'exciting new challenge'". BBC Sport (ภาษาอังกฤษ). 2025-05-10. สืบค้นเมื่อ 2025-05-14.
  19. Soccer Dispatch (2025-05-08). "Paris FC is Jürgen Klopp's First Project Since Liverpool". The Soccer Dispatch (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2025-05-14.
  20. Romero, Andrés (2025-05-06). "París desafía al PSG". AS (ภาษาสเปน). สืบค้นเมื่อ 2025-05-14.
  21. "Paris FC – Klopp salue une « réussite extraordinaire » (Exclu)". Orange Sports (ภาษาฝรั่งเศส). 2025-05-09. สืบค้นเมื่อ 2025-05-14.
  22. "Paris Poised for a Thrilling Soccer Rivalry as Ambitions Rise". AZScore (ภาษาอังกฤษ). 2025-05-11. สืบค้นเมื่อ 2025-05-14.
  23. "Effectif et staff" (ภาษาฝรั่งเศส). Paris FC. สืบค้นเมื่อ 3 June 2024.