ลามาร์แซแยซ

(เปลี่ยนทางจาก La Marseillaise)

"ลามาร์แซแยซ" (ฝรั่งเศส: La Marseillaise, ออกเสียง: [la maʁsɛjɛz]; "เพลงแห่งเมืองมาร์แซย์") เป็นชื่อของเพลงชาติสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ประพันธ์คำร้องและทำนองโดย โกลด โฌแซ็ฟ รูเฌ เดอ ลีล เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2335 ที่เมืองสทราซบูร์ในแคว้นอาลซัส เดิมเพลงนี้มีชื่อว่า "ช็องเดอแกร์เดอลาร์เมดูว์แร็ง" (Chant de guerre de l'Armée du Rhin; "เพลงมาร์ชกองทัพลุ่มน้ำไรน์") เดอลีลได้อุทิศเพลงนี้ให้แก่นายทหารชาวแคว้นบาวาเรีย (อยู่ในประเทศเยอรมนีในปัจจุบัน) ซึ่งเกิดในประเทศฝรั่งเศสผู้หนึ่ง คือจอมพลนีกอลา ลุคเนอร์ (Nicolas Luckner) เมื่อกองทหารจากเมืองมาร์แซย์ได้ขับร้องเพลงนี้ขณะเดินแถวทหารเข้ามายังกรุงปารีส ทำให้เพลงนี้เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป และกลายเป็นเพลงปลุกใจในการร่วมปฏิวัติฝรั่งเศส ทั้งยังเป็นที่มาของชื่อเพลงลามาร์แซแยซดังปรากฏอยู่ในปัจจุบันด้วย

ลามาร์แซแยซ
คำแปล: เพลงแห่งเมืองมาร์แซย์
La Marseillaise
เนื้อร้องโกลด โฌแซ็ฟ รูเฌ เดอ ลีล, พ.ศ. 2335
ทำนองโกลด โฌแซ็ฟ รูเฌ เดอ ลีล, พ.ศ. 2335
รับไปใช้14 กรกฎาคม พ.ศ. 2338
พ.ศ. 2413
เลิกใช้พ.ศ. 2342
ตัวอย่างเสียง
ลามาร์แซแยซ (บรรเลง)

สมัชชาแห่งชาติฝรั่งเศสได้ออกประกาศรับรองให้เพลงลามาร์แซแยซเป็นเพลงชาติฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2338 ต่อมาเพลงนี้ได้ถูกงดใช้ในช่วงรัชสมัยของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 แห่งจักรวรรดิฝรั่งเศสที่ 1 และ พระเจ้าหลุยส์ที่ 18 และมีการนำเพลงอื่นมาใช้เป็นเพลงชาติฝรั่งเศสแทนในระยะเวลาดังกล่าวแทน โดยรัชสมัยของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 ใช้เพลงชาติที่ชื่อว่า "แวยงโอซาลูว์เดอล็องปีร์" (Veillons au salut de l'Empire) และ โดยรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 18 ใช้เพลงชาติที่ชื่อว่า "เลอเรอตูร์เดแพร็งส์ฟร็องแซอาปารี (Le Retour des Princes français à Paris) หลังการปฏิวัติในปี พ.ศ. 2373 เพลงนี้ก็ได้กลับมาใช้เป็นเพลงชาติในระยะสั้น ๆ แต่ก็งดใช้อีกครั้งในสมัยของจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 ตราบจนกระทั่งฝรั่งเศสเข้าสู่สมัยสาธารณรัฐที่ 3 เพลงนี้จึงได้รับการรับรองให้เป็นเพลงชาติอย่างถาวรเมื่อ พ.ศ. 2422[1]

บทร้อง

แก้

เนื้อร้องฉบับทางการ

แก้

หมายเหตุ เนื้อร้องที่แสดงในหน้านี้เป็นเนื้อร้องฉบับทางการจากเว็บไซต์ของสำนักงานประธานาธิบดีฝรั่งเศส[2] ส่วนการขับร้องเพลงนี้ในปัจจุบันนิยมร้องเฉพาะเนื้อร้องบทที่ 1 (บางครั้งรวมถึงบทที่ 3 และบทที่ 5) เท่านั้น

ลามาร์แซแยซ
บทร้องฉบับทางการ
ภาษาฝรั่งเศส คำแปล
Allons enfants de la Patrie ตื่นเถิด ลูกหลานแห่งปิตุภูมิเอ๋ย
Le jour de gloire est arrivé! วันอันสว่างไสวมาถึงแล้ว
Contre nous de la tyrannie เบื้องหน้าเรา เหล่าทรราช
L'étendard sanglant est levé (bis) ชักธงอาบเลือดขึ้นแล้ว (ซ้ำ)
Entendez-vous dans les campagnes พวกท่านได้ยินเสียงในท้องทุ่งหรือไม่?
Mugir ces féroces soldats? เสียงโห่ร้องของอ้ายทหารป่าเถื่อนนั่น
Ils viennent jusque dans vos bras มันจะบุกเข้ามาจนประชิดตัว
Égorger vos fils, vos compagnes! เพื่อบั่นศีรษะของลูกเมียที่อยู่ในอ้อมแขนท่าน!
 
Aux armes, citoyens! จับอาวุธเถิด พลเมืองเอย
Formez vos bataillons! จัดกองทัพของพวกท่านไว้!
Marchons, marchons! หน้าเดิน หน้าเดิน!
Qu'un sang impur จงยังให้เลือดชั่ว
Abreuve nos sillons! อาบนองรอยผลานไถของเรา!
 
Que veut cette horde d'esclaves, จะต้องการอะไรอีกเล่า เจ้าพวกทาส
De traîtres, de rois conjurés? แห่งคนทรยศและราชาผู้ลวงโลก?
Pour qui ces ignobles entraves ห่วงโซ่อันเลวร้ายนี้มีไว้ให้ใครกัน
Ces fers dès longtemps préparés? (bis) คงเตรียมเหล็กพวกนี้ไว้มานานแล้วสิ? (ซ้ำ)
Français, pour nous, ah! Quel outrage, ชาวฝรั่งเศสเอ๋ย มันเตรียมไว้กับเรานั่นแหละ อ้า! ช่างโหดร้ายนัก
Quels transports il doit exciter! มันน่าแค้นเสียเหลือเกิน!
C'est nous qu'on ose méditer เรานี้แหละคือผู้ที่มันบังอาจ
De rendre à l'antique esclavage! คิดกดหัวให้เรากลับเป็นทาสอีกครั้ง!
 
Aux armes, citoyens... จับอาวุธเถิด พลเมืองเอย...
 
Quoi! Des cohortes étrangères ชะ! กองทหารต่างชาติพวกนี้หรือ
Feraient la loi dans nos foyers! หมายจะตรากฎหมายของมันในแผ่นดินเรา!
Quoi! Ces phalanges mercenaires ชะ! อ้ายพวกทหารรับจ้างนี้นะหรือ
Terrasseraient nos fiers guerriers! (bis) หมายจะทำลายนักรบผู้ภาคภูมิของเรา! (ซ้ำ)
Grand Dieu! Par des mains enchaînées พระเป็นเจ้า! ด้วยสองมือที่ถูกล่ามไว้
Nos fronts sous le joug se ploieraient เราจำต้องก้มหน้าลงภายใต้แอก
De vils despotes deviendraient เพราะผู้กดขี่สารเลวจะกลายเป็น
Les maîtres de nos destinées! ผู้ลิขิตชะตาชีวิตของพวกเรา!
 
Aux armes, citoyens... จับอาวุธเถิด พลเมืองเอย...
 
Tremblez, tyrans et vous perfides จงสั่นสะท้านเถิด! เหล่าคนทรยศและทรราช
L'opprobre de tous les partis สิ่งอันน่าอัปยศของมนุษย์ทั้งหลาย
Tremblez! Vos projets parricides จงสั่นสะท้านเถิด! แผนพิฆาตมาตุภูมิของแก
Vont enfin recevoir leurs prix! (bis) จะต้องได้รับการตอบแทนอย่างสาสม! (ซ้ำ)
Tout est soldat pour vous combattre เราทุกคนคือนักรบที่จะสู้กับแก
S'ils tombent, nos jeunes héros, มาตรว่าวีรชนผู้เยาว์ของเราสูญชีพไป
La terre en produit de nouveaux, แผ่นดินย่อมสร้างพวกเขาขึ้นใหม่
Contre vous tout prêts à se battre! และพร้อมที่จะเข้าร่วมรบต่อต้านแกเสมอ!
 
Aux armes, citoyens... จับอาวุธเถิด พลเมืองเอย...
 
Français, en guerriers magnanimes, ชาวฝรั่งเศสเอ๋ย ในฐานะนักรบผู้สูงเกียรติ
Portez ou retenez vos coups! จงรู้จักทั้งใช้และยับยั้งอาวุธของท่าน!
Épargnez ces tristes victimes จงไว้ชีวิตเหยื่อผู้โศกาดูร
À regret s'armant contre nous (bis) เพราะมิได้เต็มใจจะจับอาวุธต่อต้านพวกเรา (ซ้ำ)
Mais ces despotes sanguinaires แต่ไม่ใช่กับพวกคนกดขี่กระหายเลือด
Mais ces complices de Bouillé แต่ไม่ใช่กับพวกสมคบคิดกับนายพลบูเย
Tous ces tigres qui, sans pitié, มันทั้งนั้นคือเสือร้ายไร้ปรานี
Déchirent le sein de leur mère! ที่ฉีกกระชากทรวงอกของแม่มันเอง!
 
Aux armes, citoyens... จับอาวุธเถิด พลเมืองเอย...
 
Amour sacré de la Patrie, ความรักอันศักดิ์สิทธิ์ต่อแผ่นดินแม่เอ๋ย
Conduis, soutiens nos bras vengeurs จงนำทางและเกื้อหนุนหัตถ์แห่งการล้างแค้นของเรา
Liberté, Liberté chérie, เสรีภาพ เสรีภาพที่รักยิ่งเอ๋ย
Combats avec tes défenseurs! (bis) จงมาสู้ร่วมกับผู้พิทักษ์ของเจ้าเถิด! (ซ้ำ)
Sous nos drapeaux que la victoire ภายใต้ร่มธงของเรานี้ ชัยชนะเอ๋ย
Accoure à tes mâles accents, เจ้าจงมาเร็วไวดุจดังชายชาตรี
Que tes ennemis expirants ขอให้ศัตรูของเจ้าผู้ใกล้ขาดใจตาย,
Voient ton triomphe et notre gloire! จงได้ประจํกษ์ความมีชัยของเจ้าและเกียรติศักดิ์ศรีของพวกเรา!
 
Aux armes, citoyens... จับอาวุธเถิด พลเมืองเอย...
 
(Couplet des enfants) (บทประสานเสียงสำหรับเด็ก)
Nous entrerons dans la carrière เราจะขอเข้าแบกรับภาระต่อ
Quand nos aînés n'y seront plus ในยามที่ผู้ใหญ่ทั้งหลายวอดวายสิ้น
Nous y trouverons leur poussière เราจะขอแสวงหาซึ่งอัฐิธาตุ
Et la trace de leurs vertus (bis) และตามรอยทางแห่งความดีงามของพวกเขาไว้ (ซ้ำ)
Bien moins jaloux de leur survivre เรามิได้อิจฉาในการมีชีวิตอยู่รอด
Que de partager leur cercueil, ยิ่งไปกว่าการได้ร่วมตายในโลงเดียวกัน
Nous aurons le sublime orgueil พวกเราจะขอหยิ่งทะนงในศักดิ์ศรีอันสูงส่ง
De les venger ou de les suivre! ในการล้างแค้น หรือการตามรอยพวกเขาสืบไป!
 
Aux armes, citoyens... จับอาวุธเถิด พลเมืองเอย...

เนื้อร้องสำนวนอื่น

แก้

หมายเหตุ เนื้อร้องที่แสดงในหน้านี้เป็นเนื้อร้องสำนวนอื่นซึ่งมิได้นับเป็นเพลงชาติ.

ลามาร์แซแยซ
บทร้องสำนวนอื่น
ภาษาฝรั่งเศส คำแปล
Dieu de clémence et de justice พระเจ้าแห่งความเมตตาและความยุติธรรม
Vois nos tyrans, juge nos coeurs มองพวกทรราช, ผู้กุมหัวใจเรา
Que ta bonté nous soit propice ความดีของเราสถิตถ์อยู่กับท่าน
Défends-nous de ces oppresseurs (bis) โปรดปกป้องเราจากการกดขี่ (ซ้ำ)
Tu règnes au ciel et sur terre พระผู้คุ้มครองสวรรค์และผืนโลก
Et devant Toi, tout doit fléchir และขอพระองค์จงปกป้อง
De ton bras, viens nous soutenir พวกเราในอ้อมแขนของพระองค์, โปรดมาช่วยเรา
Toi, grand Dieu, maître du tonnerre. พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่, พระผู้เนรมิตสายฟ้า
 
Aux armes, citoyens... จับอาวุธเถิด พลเมืองเอย...
 
Peuple français, connais ta gloire ; ชาวฝรั่งเศสต่างรับรู้ถึงความรุ่งโรจน์ของพระองค์
Couronné par l’Égalité, ซึ่งความเสมอภาคได้สวมมงกุฏให้,
Quel triomphe, quelle victoire, ช่างน่าปรีดา, ดั่งได้ชัยชนะ,
D’avoir conquis la Liberté ! (bis) เพราะเราได้มีเสรีภาพแล้ว! (ซ้ำ)
Le Dieu qui lance le tonnerre พระเจ้า พระผู้เนรมิตสายฟ้า
Et qui commande aux éléments, และพระผู้ทรงบัญชาบรรดาสรรพสิ่ง,
Pour exterminer les tyrans, เพื่อขจัดบรรดาทรราช
Se sert de ton bras sur la terre. เพียงโปรดยื่นพระหัตถ์มายังพื้นพิภพ.
 
Aux armes, citoyens... จับอาวุธเถิด พลเมืองเอย...
 
Nous avons de la tyrannie ของการปกครองแห่งทรราช
Repoussé les derniers efforts; ปฏิเสธด้วยความพยายามครั้งสุดท้าย;
De nos climats, elle est bannie ; ในสภาพอากาศของเรา ถูกห้ามอย่างเด่น
Chez les Français les rois sont morts. (bis) ในฝรั่งเศสทรงกษัตริย์สิ้นพระชนม์ไปเถิด(ซ้ำ)
Vive à jamais la République ! จงอยู่สาธารณรัฐตลอดกาล!
Anathème à la royauté ! คำสาปนั้นแช่งถึงพระบรมวงศานุวงศ์!
Que ce refrain, partout porté, ที่ได้ละเว้นนี้ จงสวมไปทุกที่เถิด,
Brave des rois la politique. จงท้าทายการเมืองของกษัตริย์เอย
 
Aux armes, citoyens... จับอาวุธเถิด พลเมืองเอย...
 
La France que l’Europe admire ประเทศฝรั่งเศสที่ยุโรปชื่นชมไปเถิด
A reconquis la Liberté แล้วได้รับเสรีภาพกลับคืนมาเอย
Et chaque citoyen respire และให้ประชาชนทุกคน จงหายใจเถิด
Sous les lois de l’Égalité ; (bis) ภายใต้กฎหมายแห่งความเท่าเทียมกัน, (ซ้ำ)
Un jour son image chérie วันหนึ่ง ภาพอันเป็นที่รักของข้านั้น
S’étendra sur tout l’univers. จะขยายใหญ่ไปทั่วทั้งจักรวาล.
Peuples, vous briserez vos fers ผู้คนนั้น ข้าจะทำลายโซ่ของข้าทิ้งไปเสีย
Et vous aurez une Patrie ! และข้าจะมีปิตุภูมิเอ๋ย!  
Aux armes, citoyens... จับอาวุธเถิด พลเมืองเอย...
 
Foulant aux pieds les droits de l’Homme, Trampling on the rights of man,
Les soldatesques légions soldierly legions
Des premiers habitants de Rome The first inhabitants of Rome
Asservirent les nations. (bis) enslave nations. (ซ้ำ)
Un projet plus grand et plus sage A larger project and wiser
Nous engage dans les combats We engage in battle
Et le Français n’arme son bras And the Frenchman does not arm himself
Que pour détruire l’esclavage. But to destroy slavery.
 
Aux armes, citoyens... จับอาวุธเถิด พลเมืองเอย...
 
Oui ! Déjà d’insolents despotes Yes! Already insolent despots
Et la bande des émigrés And the band of emigrants
Faisant la guerre aux Sans-Culottes Waging war on the unclothed [lit. without-breeches]
Par nos armes sont altérés; (bis) By our weapons are withered; (ซ้ำ)
Vainement leur espoir se fonde Vainly their hope is based
Sur le fanatisme irrité, On piqued fanaticism
Le signe de la Liberté The sign of Liberty
Fera bientôt le tour du monde. Will soon spread around the world.
 
Aux armes, citoyens... จับอาวุธเถิด พลเมืองเอย...
 
À vous ! Que la gloire environne, ถึงข้า! ขอให้ความรุ่งโรจน์จงล้อมรอบไป
Citoyens, illustres guerriers, พลเมืองนี้ นักรบผู้มีชื่อเสียงที่สุด
Craignez, dans les champs de Bellone, ความกลัวในทุ่งแห่งเบลโลน (เทพธิดา)
Craignez de flétrir vos lauriers ! (bis) กลัวความอับอายด้วยไม่ย่อมถือนางเถิด! (ซ้ำ)
Aux noirs soupçons inaccessibles ทั้งความสงสัยที่ไม่เคยมีมูลความจริงมาก่อน
Envers vos chefs, vos généraux, ต่อผู้นำของข้า นายพลของข้า,
Ne quittez jamais vos drapeaux, จงอย่าทิ้งธงไตรรงค์ของข้าเถิด,
Et vous resterez invincibles. และข้าจะอยู่ยังคงกระพันโดยสิ้นเชิง
 
Aux armes, citoyens... จับอาวุธเถิด พลเมืองเอย...
 
(Couplet des enfants) (บทประสานเสียงสำหรับเด็ก)
Enfants, que l’Honneur, la Patrie ลูกหลานนี้ ขอให้เกียรติและปิตุภูมิ
Fassent l’objet de tous nos vœux ! เป็นเป้าหมายของความปรารถนาทั้งหมดของเรา!
Ayons toujours l’âme nourrie ขอให้เรามีจิตวิญญาณหล่อเลี้ยงอยู่เสมอไป
Des feux qu’ils inspirent tous deux. (bis) ด้วยเปลวเพลิงที่อาจสร้างแรงบันดาลใจให้ทั้งคู่เอ๋ย(ซ้ำ)
Soyons unis ! Tout est possible ; ให้เราเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน! อะไรก็เกิดขึ้นได้หมดเลย;
Nos vils ennemis tomberont, ศัตรูที่ชั่วช้าของเราจะล้มลงอย่างสาหัส,
Alors les Français cesseront จากนั้นฝรั่งเศสจะหยุดลงไปดื้อๆ
De chanter ce refrain terrible : ในการขับขาน การละเว้นที่รุนแรงนี้เทอญ:
 
Aux armes, citoyens... จับอาวุธเถิด พลเมืองเอย...

อิทธิพลของลามาร์แซแยซ

แก้

ในประเทศรัสเซีย เพลงลามาร์แซแยซได้ถูกใช้เป็นเพลงปฏิวัติฝ่ายสาธารณรัฐโดยชาวรัสเซียซึ่งรู้ภาษาฝรั่งเศสในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 ซึ่งไล่เลี่ยกับช่วงเวลาการปฏิวัติในฝรั่งเศส ถึงปี ค.ศ. 1875 ปีเตอร์ ลัฟรอฟ (Peter Lavrov) นักปฏิวัติและนักทฤษฎีกลุ่ม Narodism ได้เขียนเพลงโดยใส่เนื้อร้องภาษารัสเซียขึ้นใหม่ตามทำนองเพลงลามาร์แซแยซ และให้ชื่อเพลงว่า "มาร์แซแยซของกรรมกร" ("Rabochaya Marselyeza", "Worker's Marseillaise") ซึ่งเพลงนี้ได้กลายเป็นเพลงปฏิวัติยอดนิยมเพลงหนึ่งในรัสเซียและได้มีการใช้ในการปฏิวัติรัสเซีย ค.ศ. 1905 ต่อมาเมื่อเกิดการปฏิวัติรัสเซียในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1917 เพลงนี้ก็ได้มีลักษณะเป็นกึ่งเพลงชาติของสาธารณรัฐที่ตั้งขึ้นใหม่ หลังเหตุการณ์การปฏิวัติเดือนตุลาคมซึ่งเกิดขึ้นในปีเดียวกัน เพลงนี้ก็ยังคงใช้เป็นเพลงปฏิวัติควบคู่กับเพลงแองเตอร์นาซิอองนาล[3]

สำหรับประเทศไทย เพลงลามาร์แซแยซได้เป็นแรงดลใจให้คณะราษฏรคิดเพลงชาติขึ้นใหม่ในช่วงการปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475[4] และยังมีการนำทำนองไปใช้ในเพลงมาร์ชต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียง อันได้แก่ เพลง "มาร์ช ม.ธ.ก." ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ม.ธ.ก. เป็นอักษรย่อนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อครั้งยังใช้ชื่อว่า "มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง") ซึ่งประพันธ์โดยทวีป วรดิลก ในช่วงพุทธทศวรรษที่ 2490 และเพลง "มาร์ชลาดยาว" ซึ่งประพันธ์โดย จิตร ภูมิศักดิ์ ขณะที่เขาถูกคุมขังในเรือนจำลาดยาว (เรือนจำคลองเปรม) ด้วยคดีการเมือง ระหว่างปี พ.ศ. 2503 - 2505 เพื่อใช้ร้องในงานรื่นเริงภายในคุก[ต้องการอ้างอิง]

เชิงอรรถ

แก้
  1. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-08-14. สืบค้นเมื่อ 2007-06-26.
  2. La Marseillaise เก็บถาวร 2010-04-14 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, l’Elysée.
  3. "Соболева, Н.А. 2005. Из истории отечественных государственных гимнов. Журнал "Отечественная история", 1. P.10-12" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2008-12-16. สืบค้นเมื่อ 2009-05-12.
  4. เจนดุริยางค์, พระ. บันทึกความทรงจำของพระเจนดุริยางค์ (ปิติ วาทยากร) ชิวประวัติของข้าพเจ้า. พระนคร: สถาบันวัฒนธรรมเยอรมัน, 251-. หน้า 20 - 21.

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้
เว็บไซต์ของทางการฝรั่งเศส
แหล่งรวบรวมข้อมูลและไฟล์เสียง