ปลากระแห

สปีชีส์ของปลา
(เปลี่ยนทางจาก Barbonymus schwanenfeldii)

ปลากระแห เป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Barbonymus schwanenfeldii อยู่ในวงศ์ปลาตะเพียน (Cyprinidae) รูปร่างคล้ายปลาตะเพียนทอง (B. altus) ที่อยู่สกุลเดียวกัน แต่มีรูปร่างป้อมสั้นกว่า ลำตัวแบนข้าง ส่วนหลังยกสูง หัวค่อนข้างเล็ก ตาโต มีหนวด 2 คู่ที่ริมฝีปาก ปากเล็กอยู่สุดของจะงอยปาก เกล็ดเล็กมีสีเงินวาวเหลือบเหลืองทอง ครีบหลังสีส้มมีแต้มสีดำชัดที่ด้านบนสุด ครีบอื่น ๆ มีสีส้มสดยกเว้นขอบบนของครีบอกและขอบล่างของครีบหางที่มีแถบสีดำยาว มีขนาดประมาณ 15–30 เซนติเมตร

ปลากระแห
สถานะการอนุรักษ์
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ แก้ไขการจำแนกนี้
โดเมน: ยูแคริโอตา
อาณาจักร: สัตว์
ไฟลัม: สัตว์มีแกนสันหลัง
ชั้น: ปลาที่มีก้านครีบ
อันดับ: อันดับปลาตะเพียน
วงศ์: วงศ์ปลาตะเพียน
วงศ์ย่อย: Cyprininae
สกุล: สกุลบาร์โบนีมัส
(Bleeker, 1853)
สปีชีส์: Barbonymus schwanenfeldii
ชื่อทวินาม
Barbonymus schwanenfeldii
(Bleeker, 1853)
ชื่อพ้อง

Barbodes schwanefeldii (lapsus)
Barbodes schwanenfeldii (Bleeker, 1853)
Barbonymus schwanefeldii (lapsus)
Barbus schwanefeldii (lapsus)
Barbus schwanenfeldii Bleeker, 1853
Puntius schwanefeldii (lapsus)
Puntius schwanenfeldii (Bleeker, 1853)

ฝูงปลากระแหที่ศูนย์แสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสุพรรณบุรี

พบอาศัยอยู่เป็นฝูงในแม่น้ำและหนองบึงทุกภาคของประเทศไทย หรือตามหน้าวัดที่อยู่ติดริมแม่น้ำต่าง ๆ โดยมักจะอาศัยอยู่รวมกับปลาตะเพียน (B. gonionotus), ปลาตะเพียนทอง, ปลาแก้มช้ำ (Puntius orphoides) หรือปลาในตระกูลปลาตะเพียนชนิดอื่นด้วยกันเสมอ

ปลากระแหนิยมบริโภคโดยการปรุงสด รมควัน ตากแห้ง ทำปลาร้า ปลาส้ม นอกจากนี้ยังนิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงามด้วย ชื่อเรียกอื่น ๆ ตามท้องถิ่น เช่น "กระแหทอง" หรือ "ตะเพียนหางแดง", ในภาษาใต้เรียก "ลำปำ", ในภาษาอีสานเรียก "เลียนไฟ", ภาษาเหนือเรียก "ปก" เป็นต้น[2]

อ้างอิง แก้

  1. Allen, D. (2012). "Barbonymus schwanenfeldii". The IUCN Red List of Threatened Species. 2012: e.T181160A1705016. doi:10.2305/IUCN.UK.2012-1.RLTS.T181160A1705016.en. Retrieved 15 December 2017
  2. "การเลี้ยงปลาตะเพียนหางแดง (ปลากระแห)". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-07-28. สืบค้นเมื่อ 2011-06-27.

แหล่งข้อมูลอื่น = แก้