4 ต่อ 4 แฟมิลี่เกม
4 ต่อ 4 FAMILY GAME (อังกฤษ: Feud Thailand) เป็นรายการโทรทัศน์ประเภทเกมโชว์ตอบปัญหา (ควิซโชว์) ที่บริษัท เอ็กแซ็กท์ จำกัด และ บริษัท ซีเนริโอ จำกัด ซื้อลิขสิทธิ์รายการ "แฟมิลีฟิวด์" (Family Feud) จากฟรีแมนเทิลของสหรัฐ มาผลิตในรูปแบบของประเทศไทย ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2544 – 31 ธันวาคม พ.ศ. 2549 ทางช่อง 3 เอชดี และต่อมา บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ได้นำกลับมาทำใหม่อีกครั้งและออกอากาศทางช่องวัน 31 ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2559 – ปัจจุบัน
4 ต่อ 4 แฟมิลี่เกม | |
---|---|
ประเภท | เกมโชว์ |
สร้างโดย | Mark Goodson |
พัฒนาโดย | |
พิธีกร |
|
บรรยายโดย |
|
ประเทศแหล่งกำเนิด | ประเทศไทย |
ภาษาต้นฉบับ | ภาษาไทย |
จำนวนฤดูกาล | 2 |
การผลิต | |
กล้อง | หลายกล้อง |
บริษัทผู้ผลิต | ฟรีแมนเทิล |
ออกอากาศ | |
เครือข่าย | ช่อง 3 เอชดี |
ออกอากาศ | 13 มกราคม 2544 – 31 ธันวาคม 2549 |
เครือข่าย | ช่องวัน 31 |
ออกอากาศ | 7 มีนาคม 2559 – ปัจจุบัน |
ออกอากาศ | - |
ออกอากาศ | - |
ออกอากาศ | - |
ออกอากาศ | - |
ใน พ.ศ. 2563 รายการ 4 ต่อ 4 FAMILY GAME เปลี่ยนเวลาออกอากาศจากเดิม วันอาทิตย์ เวลา 15:30 – 16:30 น. เป็น ช่วงบ่าย วันเสาร์ เวลา 15:00 – 16:00 น. ทางช่องวัน 31 ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2563 – 18 มกราคม พ.ศ. 2568 และ รายการ 4 ต่อ 4 CELEBRITY เปลี่ยนเวลาออกอากาศจากเดิม วันเสาร์ เวลา 11:15 – 12:15 น. เป็น ช่วงบ่าย วันอาทิตย์ เวลา 15:00 – 16:00 น. ทางช่องวัน 31 ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2563 – 19 มกราคม พ.ศ. 2568
ใน พ.ศ. 2568 รายการ 4 ต่อ 4 FAMILY GAME มีการเปลี่ยนแปลงการออกอากาศให้เร็วขึ้น ในทุกวันเสาร์ จากเดิม 15:00 – 16:00 น. มาเป็น 14:00 – 15:00 น. เนื่องจากมีรายการใหม่ของสถานีช่องวัน 31 เวลาเดิม 15:00 – 16:00 น. ตั้งแต่วันเสาร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2568 – ปัจจุบัน และ รายการ 4 ต่อ 4 CELEBRITY มีการเปลี่ยนแปลงการออกอากาศให้เร็วขึ้น ในทุกวันอาทิตย์ จากเดิม 15:00 – 16:00 น. มาเป็น 14:00 – 15:00 น. เนื่องจากมีรายการใหม่ของสถานีช่องวัน 31 เวลาเดิม 15:00 – 16:00 น. ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2568 – ปัจจุบัน
ประวัติ
แก้4 ต่อ 4 เป็นรายการโทรทัศน์ประเภทเกมโชว์แนวทายปัญหา (ควิซโชว์) โดยมีผู้เข้าแข่งขันทีมละ 4 คน จำนวน 2 ทีม (หรือจำนวน 3 ทีม ในรายการ "4 ต่อ 4 เซเลบริตี้") มาแข่งขันตอบคำถามจาก "ผลสำรวจ" โดยทางบริษัท เอ็กแซ็กท์ จำกัด (ภายหลังได้เปลี่ยนบริษัทผู้ผลิตมาเป็นบริษัท ซีเนริโอ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่ในสังกัดเดียวกัน) ซื้อลิขสิทธิ์รายการนี้จากบริษัท FremantleMedia ของเอเชีย นำมาผลิตในรูปแบบของประเทศไทย เริ่มออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2544 จนถึงครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2549 ทางช่อง 3 เอชดี ดำเนินรายการโดย กนิษฐ์ สารสิน
ในช่วงปี 2545 ได้เพิ่ม 4 ต่อ 4 ซันเดย์ ซึ่งเป็นช่วงเฉพาะที่จัดในช่วงทุกวันอาทิตย์ และ 4 ต่อ 4 ฮอลิเดย์ ที่ออกอากาศในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์บางวันตามโอกาส โดยกฏกติกาในเกมเหมือนทุก 4 ต่อ 4 ทุกประการ
ในปี พ.ศ. 2559 ช่องวัน 31 ได้นำรายการนี้กลับมาทำใหม่อีกครั้ง โดยเปลี่ยนผู้ผลิตเป็น บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ที่รับโอนหน้าที่การผลิตรายการโทรทัศน์มาจากเอ็กแซ็กท์และซีเนริโอ ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2559 และเพิ่มรายการ 4 ต่อ 4 เซเลบริตี้ โดยออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2559 และได้ย้ายวัน–เวลาออกอากาศใหม่เป็นทุกวันอาทิตย์ เวลา 12:00 – 12:50 น. เริ่มวันที่ 3 กรกฎาคม – 25 ธันวาคม พ.ศ. 2559 ดำเนินรายการโดย กิตติ เชี่ยววงศ์กุล
ในช่วงปี พ.ศ. 2560 ได้เพิ่ม 4 ต่อ 4 ฟรายเดย์ ซึ่งเป็นช่วงเฉพาะที่จัดในช่วงทุกวันศุกร์ โดยกฏกติกาในเกมเหมือน 4 ต่อ 4 ทุกประการ
รูปแบบและกติกาของรายการ
แก้4 ต่อ 4 แฟมิลี่เกม
แก้รูปแบบหลักของรายการคือจะมีผู้เข้าแข่งขันจำนวน 2 ทีม มีจำนวนสมาชิกในทีม ทีมละ 4 คน มาแข่งขันตอบคำถามในรูปแบบผลสำรวจ โดยมีข้อมูลจากการสำรวจบุคคลทั่วไปจำนวน 100 คน
ทั้งนี้เมื่อทีมใดทำคะแนนได้ถึง 300 คะแนนก่อน ทีมนั้นจะเป็นแชมป์ในรายการ และได้เข้ารอบไปเล่นในรอบโบนัสเพื่อสะสมเงินรางวัล
รอบตอบคำถาม
แก้ในแต่ละรอบจะส่งสมาชิกในทีม ทีมละ 1 คนเรียงจากหัวแถวไปท้ายแถวเพื่อมาตอบคำถามเพื่อเลือกทีมที่จะได้เล่นก่อน โดยจะมีคำตอบของคำถามตั้งแต่ 3 – 8 คำตอบ (ขึ้นอยู่กับผลสำรวจของแต่ละคำถาม) เมื่อพิธีกรอ่านคำถาม สมาชิกที่ถูกส่งมาของแต่ละทีมจะต้องแย่งกันกดปุ่ม คนที่กดปุ่มจนหลอดไฟติดได้ก่อนจะมีสิทธิ์ตอบคำถามก่อนและต้องตอบภายใน 3 วินาที ฝ่ายที่ตอบคำตอบที่มีอันดับสูงกว่า หรือตอบคำตอบอันดับที่ 1 ได้ จะมีสิทธิ์เลือกว่าจะเล่นเองหรือโยนให้อีกทีมเล่น (ในกรณีที่สมาชิกที่กดปุ่มของทั้งสองทีมตอบคำตอบที่ไม่มีในผลสำรวจ ผู้เล่นลำดับต่อไปในทีมจะได้สิทธิ์ตอบคำถาม เพื่อดูว่าฝ่ายไหนจะมีสิทธิ์เลือกเล่นหรือโยน)
ทีมที่ได้เล่นจะต้องตอบคำตอบที่มีอยู่ในผลสำรวจบนหน้าจอให้หมดเพื่อคว้าคะแนนทั้งหมดโดยห้ามปรึกษากันในระหว่างการเล่น ถ้าตอบสิ่งที่ไม่มีในผลสำรวจหรือตอบไม่ทันภายในเวลา 3 วินาที จะถือว่าตอบพลาด 1 ครั้ง หากตอบพลาดครั้งที่ 2 ทีมฝ่ายตรงข้ามจะสามารถปรึกษากันได้ และถ้าหากตอบพลาดครั้งที่ 3 ทีมฝ่ายตรงข้ามจะมีสิทธิ์ขโมยคะแนนในรอบนั้น โดยสมาชิกในทีมทุกคนจะได้เสนอคำตอบของตัวเองคนละ 1 คำตอบ แต่ผู้ที่มีสิทธิ์ตอบคือหัวหน้าทีม ซึ่งมีสิทธิ์จะเชื่อคำตอบของเพื่อนในทีมหรือคิดคำตอบเองก็ได้ (ปัจจุบันพิธีกรจะให้หัวหน้าทีมตอบทันที โดยไม่ให้ลูกทีมเสนอคำตอบ) ถ้าคำตอบที่ตอบมานั้นมีอยู่ในผลสำรวจจะสามารถขโมยคะแนนที่อีกทีมทำไว้มาได้ทันที แต่ถ้าคำตอบนั้นไม่มีอยู่ในผลสำรวจ คะแนนจะกลับเป็นของทีมที่ตอบไปตอนแรก
ลักษณะในการให้คะแนนของแต่ละรอบคือในรอบที่ 1 และรอบที่ 2 จะมีคะแนนปกติ (คำตอบของผลสำรวจ 1 คน = 1 คะแนน) รอบที่ 3 จะเป็นรอบคูณสอง และรอบที่ 4 เป็นรอบคูณสาม (ในรอบคูณสาม หากฝ่ายที่ได้เล่นตอบพลาดแม้เพียงครั้งเดียว ทีมฝ่ายตรงข้ามจะมีสิทธิ์ขโมยคะแนนทันที) เมื่อทีมใดมีคะแนนรวมถึง 200 คะแนนก่อน ทีมนั้นจะเป็นแชมป์ในรายการ และได้เข้าไปสะสมเงินรางวัลในรอบโบนัส
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2560 ได้มีการปรับเปลี่ยนกติกาเพิ่มอีกเล็กน้อยคือ ใน 3 รอบแรกจะมีคะแนนปกติ (คำตอบของผลสำรวจ 1 คน = 1 คะแนน) รอบที่ 4 จะเป็นรอบคูณสอง และรอบที่ 5 เป็นรอบคูณสาม (ในรอบคูณสาม หากฝ่ายที่ได้เล่นตอบพลาดแม้เพียงครั้งเดียว ทีมฝ่ายตรงข้ามจะมีสิทธิ์ขโมยคะแนนทันที) เมื่อทีมใดมีคะแนนรวมถึง 300 คะแนนก่อน ทีมนั้นจะเป็นแชมป์ในรายการ และได้เข้าไปสะสมเงินรางวัลในรอบโบนัส (ซึ่งกติกาและเป้าหมาย 300 คะแนนนี้ก็จะคล้ายคลึงกับ รายการ แฟมิลีฟิวด์ หรือ 4 ต่อ 4 เวอร์ชั่น สหรัฐ อีกด้วย)
และเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2561 ได้มีการย้ายเวลาพร้อมกับเพิ่มช่วงใหม่ของรายการในชื่อช่วงนี้ว่า “เงินขวัญถุง” ซึ่งจะเริ่มก่อนเข้าสู่การแข่งขันในรอบที่ 4 (รอบคะแนน X2) โดยทั้ง 2 ทีมจะต้องส่งตัวแทนออกมาทีมละ 1 คน ออกมาแข่งกันกดปุ่มสัญญาณไฟเพื่อหาคำตอบอันดับที่ 1 ของคำถามข้อนั้นๆ (ตัวแทนที่ส่งมาในแต่ละข้อจะต้องไม่ซ้ำกัน และไม่จำเป็นต้องส่งในตำแหน่งยืนเดียวกัน) ทีมใดที่ทำได้ 2 ข้อก่อน ทีมนั้นจะได้รับเงินขวัญถุงมูลค่า 5,000 บาทไปทันที
รอบโบนัส
แก้ทีมที่เป็นแชมป์จะเลือกสมาชิกในทีม 2 คน โดยสมาชิกคนหนึ่งจะต้องอยู่ในห้องเก็บเสียง แล้วให้สมาชิกอีกคนได้ตอบคำถาม 5 ข้อ โดยมีเวลาในการตอบคำถาม 15 วินาที ผู้แข่งขันสามารถ "ข้าม" คำถามได้ โดยคำถามข้อที่ข้ามไปแล้วจะวนกลับมาถามใหม่เมื่อถามคำถามหมดทุกข้อไปแล้วแต่เวลายังไม่หมด เมื่อสมาชิกคนแรกเล่นเกมเสร็จแล้ว และสมาชิกคนที่ 2 จะต้องมาตอบคำถามเดียวกับสมาชิกคนแรก โดยจะมีเวลาในการตอบคำถาม 20 วินาที แต่ไม่สามารถตอบคำตอบที่ซ้ำกับคนแรกได้ (หากตอบซ้ำจะมีเสียงออด พร้อมทั้งสมาชิกคนนั้นจะต้องตอบคำถามนั้นใหม่) ทั้งนี้พิธีกรจะเฉลยข้อคำตอบ 2 อันดับแรก
อนึ่ง การออกอากาศในระยะหลังได้เพิ่มเวลาในการตอบคำถามรอบแรกเป็น 20 วินาที และในรอบที่ 2 เป็น 25 วินาที
โดยการคิดเงินรางวัลนั้น ถ้าสมาชิกทั้งสองคนทำคะแนนได้รวมกัน 200 คะแนนขึ้นไป จะได้เงินรางวัลโบนัสจำนวน 100,000 บาท คูณกับจำนวนสมัยที่ทำโบนัสแตกที่มากที่สุด แต่ถ้าทำคะแนนไม่ถึง 200 คะแนน ก็จะไม่ได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท (เช่น เป็นแชมป์สมัยแรก ทำโบนัสแตก รับเงินรางวัลจำนวน 100,000 บาท แล้วไปทำโบนัสแตกอีกครั้งในสมัยที่ 5 เงินรางวัลสะสมของทีมจะกลายเป็น 300,000 บาท เป็นต้น) และจะสามารถสะสมเงินรางวัลได้เรื่อยๆ จนกว่าจะถูกโค่นแชมป์
ต่อมา ทางรายการได้ปรับกติกาเพียงเล็กน้อย โดยทีมแชมป์จะสามารถเป็นแชมป์ได้สูงสุด 5 สมัย ถ้าหากทำคะแนนครบ 200 คะแนน จะได้รับเงินรางวัลจำนวน 100,000 บาท สำหรับโบนัสรอบนั้นๆ แต่ถ้าหากทำคะแนนได้ไม่ครบ 200 คะแนน จะได้รับเงินรางวัลจำนวน 10,000 บาท
ต่อมา การออกอากาศภายในปี พ.ศ. 2559 ทีมแชมป์จะสามารถเป็นแชมป์ได้สูงสุด 5 สมัย ถ้าหากทำคะแนนครบ 200 คะแนน จะได้รับเงินรางวัลจำนวน 50,000 บาทสำหรับโบนัสรอบนั้น ๆ แต่ถ้าหากทำคะแนนได้ไม่ครบ 200 คะแนน จะได้รับเงินรางวัลจำนวน 10,000 บาท สำหรับโบนัสรอบนี้ไป และเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2560 ได้มีการเพิ่มความพิเศษคือ หากสามารถทำคะแนนครบ 200 คะแนนในการเป็นแชมป์สมัยที่ 5 ได้ จะได้รับเงินรางวัลจำนวน 100,000 บาทในสมัยนั้นทันที ซึ่งทำให้เงินรางวัลรวมเมื่อทำโบนัสแตกทั้ง 5 สมัยมีมูลค่าสูงสุดถึง 300,000 บาท (เงินรางวัลสูงสุดที่แชมป์มีสิทธิ์จะคว้าได้คือ 325,000 บาท โดยแบ่งออกเป็น เงินโบนัส 300,000 บาท + เงินขวัญถุง (25,000 บาท) (ปัจจุบันยุติไปแล้ว)
ลำดับ | ชื่อทีม | เงินรางวัลสะสม | |
---|---|---|---|
1 | กะปิ | บาท | |
2 | ชนะโชติ | บาท | |
3 | เรื่องของตุ๊ด | 180,000 บาท | |
4 | เพื่อนนัก...รักซะเลย | 90,000 บาท | 26 มีนาคม – 30 เมษายน พ.ศ. 2565 |
5 | อรัญญเวศ | 90,000 บาท | 11 มิถุนายน – 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 |
6 | กิตติพิรุฬห์ | 90,000 บาท | 21 มกราคม – 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 |
7 | คู่ซี้คู่กัด | 90,000 บาท | 18 มีนาคม – 22 เมษายน พ.ศ. 2566 |
8 | CAT ALWAYS | 180,000 บาท | 29 เมษายน – 3 มิถุนายน พ.ศ. 2566 |
9 | 4 มอ รอเล่า | 50,000 บาท | 8 กรกฎาคม – 26 สิงหาคม พ.ศ. 2566 |
10 | คู่กรรม | 90,000 บาท | 4 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม พ.ศ. 2566 |
4 ต่อ 4 เซเลบริตี้
แก้4 ต่อ 4 เซเลบริตี้ เป็นรายการโทรทัศน์ประเภทเกมโชว์แนวทายปัญหา (ควิซโชว์) โดยมีรูปแบบรายการต้นฉบับมาจากรายการ "แฟมิลีฟิวด์" (Family Feud) ในสหรัฐ เป็นรายการย่อยของ 4 ต่อ 4 และได้มีการเปลี่ยนรูปแบบรายการเป็นการแข่งขันของทีมดาราทั้ง 2 ทีม ทั้งนี้เมื่อทีมใดทำคะแนนได้ถึง 200 คะแนนก่อน ทีมนั้นจะเป็นผู้ชนะในรายการ และได้เข้ารอบไปเล่นในรอบสู้โบนัสเพื่อชิงเงินรางวัล 50,000 บาท
รอบโบนัส
แก้ทีมที่เป็นผู้ชนะในการแข่งขัน 4 ต่อ 4 Celebrity จะเลือกสมาชิกในทีม 2 คน โดยในรอบนี้จะใช้กติกาในรอบโบนัสของรายการ "4 ต่อ 4" ทุกประการ โดยหากทีมที่เป็นผู้ชนะทำคะแนนครบ 200 คะแนน จะได้รับเงินรางวัลจำนวน 50,000 บาท แต่ถ้าหากทำคะแนนได้ไม่ครบ 200 คะแนน จะได้รับเงินรางวัลจำนวน 10,000 บาท สำหรับ 4 ต่อ 4 เซเลบริตี้จะไม่มีการครอบครองแชมป์