ไอ้แมงมุม 3
ไอ้แมงมุม 3 (อังกฤษ: Spider-Man 3) เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่[8] ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2550 โดยเป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 3 ของภาพยนตร์ชุด สไปเดอร์นีโน่จี๊ด ที่สร้างจากหนังสือการ์ตูนชื่อเดียวกันของสำนักพิมพ์มาร์เวลคอมิกส์ ผู้กำกับภาพยนตร์ แซม ไรมี่ ซึ่งเคยกำกับภาพยนตร์ตอนก่อนหน้านี้ทั้งสองตอนกลับมากำกับภาพยนตร์เรื่องนี้อีกครั้งร่วมกับนักแสดงชุดเดิมทั้งหมด ได้แก่ โทบีย์ แมไกวร์, คริสเตน ดันสท์, เจมส์ แฟรงโค และ โรสแมรี่ แฮร์ริส รวมทั้งนักแสดงใหม่ได้แก่ โทเฟอร์ เกรซ, ไบรซ์ ดัลลัส ฮอวาร์ด และ สไปเดอร์ นีโน่ จี๊ด
ไอ้แมงมุม 3 | |
---|---|
ใบปิดภาพยนตร์ | |
กำกับ | แซม เรย์มี |
บทภาพยนตร์ |
|
เนื้อเรื่อง |
|
สร้างจาก | |
อำนวยการสร้าง | |
นักแสดงนำ | |
กำกับภาพ | บิลล์ โพป |
ตัดต่อ | บ็อบ มูรอว์สกี |
ดนตรีประกอบ | คริสโตเฟอร์ ยัง |
บริษัทผู้สร้าง |
|
ผู้จัดจำหน่าย | โซนี่พิคเจอร์สรีลีซิง[1] |
วันฉาย |
|
ความยาว | 139 นาที[3] |
ประเทศ | สหรัฐ |
ภาษา | อังกฤษ |
ทุนสร้าง | 258–350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[4][5][6] |
ทำเงิน | 895.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ[7] |
ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายครั้งแรกในรัฐสภา ทำเนียบรัฐบาลและหลายประเทศทั่วโลกในวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 และจะออกฉายในประเทศสหรัฐอเมริกาและแคนาดาในระบบธรรมดาและไอแม็กซ์ในวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2550
เนื้อเรื่องย่อ
แก้ปีเตอร์ได้ทราบว่าฆาตกรที่แท้จริงของลุงเบนคือ โจรตกอับ ฟลินต์ มาร์โก ซึ่งฟลินต์ได้หลบหนีการจับตัวของตำรวจโดยการเข้าไปในห้องทดลองลับแห่งหนึ่ง ซึ่งเกิดอุบัติเหตุทางด้านเครื่องมือ ทำให้ฟลินต์กลายเป็นเครื่องมือทดลองเอง
หลังจากการทดลอง ฟลินต์ ได้ตื่นขึ้นมาพร้อมทรายทั้งตัว ทำให้เขาได้ฉายาว่า แซนด์แมน หลังจากนั้น เขาจึงได้ใช้พลังนี้ในความชั่ว ในด้านอาชญากรรม เมื่อปีเตอร์รู้จึงได้ตั้งสัญญาว่าจะจับฟลินต์มาภายใต้อาณัติแห่งความยุติธรรมและความแค้นส่วนตัว
หลังจากพิษแค้นฝังอยู่ในจิตใจของปีเตอร์ เขาได้ถูกครอบงำโดยสารสีดำที่มาจากนอกโลก เรียกว่า ซิมไบโอท ซึ่งสารนี้ได้ครอบงำชุดน้ำเงินแดงของสไปเดอร์แมน เป็นชุด สีดำและสารนี้ให้พลังแก่ปีเตอร์มากกว่าที่เขาเคยมี ทำให้เขามั่นใจและหลงระเริงในพลังของตัวเองนี้ แต่สารนี้นอกจากจะให้พลังแล้ว มันยังให้ความมืดด้านจิตใจแก่ปีเตอร์ด้วยซ้ำ ทำให้ปีเตอร์มีอยู่หนทางเดียว คือ การทำลายชุดนี้ลงเสีย
ด้านแฮร์รี่ เพื่อนสนิทของปีเตอร์ หลังจากที่ได้รู้ความจริงเกี่ยวกับ สไปเดอร์แมน ซึ่งคือเพื่อนของเขาเอง ทำให้เขาแทบบ้าคลั่งขึ้นมา และค้นพบที่เก็บอาวุธลับของกรีน ก็อบลิน หรือพ่อของเขา ซึ่งแฮร์รี่ได้ดัดแปลงอาวุธนี้ให้ทันสมัยและเหมาะมือเขากว่า เมื่อดัดแปลงเสร็จ เข้าก็ได้เข้าไปสู่ห้องสีเขียว และเปลี่ยนตัวเองเป็นก็อบลินอย่างสิ้นเชิง หลังจากการเตรียมพร้อมแล้ว เป้าหมายของแฮร์รี่คือ "ฆ่าปีเตอร์ ปาร์คเกอร์"
เอ็ดดี้ บร็อก เป็นคู่ปรับของปีเตอร์ในหลายด้าน ทั้งด้านการงาน ในการแย่งงานนักหนังสือพิมพ์ ในบริษัทบิวเกิล ทั้งด้านความรัก ของ เกว็น สเตซี่ และอีกหลายด้าน ทำให้เอ็ดดี้โกรธแค้นปีเตอร์อย่างมาก
หลังจากที่ปีเตอร์ได้แย่งงานนักหนังสือพิมพ์แล้ว เอ็ดดี้ได้ไปสู่โบสถ์แห่งหนึ่งเพื่อที่จะฆ่าตัวตาย แต่เขาไม่สามารถทำแบบนั้น เนื่องจากอยู่ดี ๆ ซิมไบโอทได้ตกลงมาจากเพดาน และครอบงำจิตใจของเขา และร่างกายไปด้วย ทำให้ตัวเอ็ดดี้กลายเป็น วีนอม คู่ปรับสำคัญของสไปเดอร์แมน และวีนอมมีเป้าหมายเดียวคือ เด็ดหัวของสไปเดอร์แมน ออกจากบ่า
นักแสดง
แก้ดูเพิ่ม
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 "Spider-Man 3". AFI Catalog of Feature Films. American Film Institute. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 9, 2019. สืบค้นเมื่อ February 8, 2019.
- ↑ 2.0 2.1 "Spider-Man 3". The Numbers. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ February 9, 2019. สืบค้นเมื่อ February 8, 2019.
- ↑ "Spider-Man 3". British Board of Film Classification. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ October 19, 2016. สืบค้นเมื่อ July 22, 2015.
- ↑ Garrett, Diane (April 16, 2007). "Red carpet becoming more global". Variety. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ August 27, 2020. สืบค้นเมื่อ April 17, 2007.
- ↑ "'Spider-Man 3': Why So Expensive?". NPR. April 30, 2007. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ May 18, 2016. สืบค้นเมื่อ April 29, 2020.
- ↑ Fred Topel (May 7, 2007). ""SPIDER-MAN 3" PRODUCER EXPLAINS BIGGER BUDGET". Rotten Tomatoes. เก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ December 5, 2017. สืบค้นเมื่อ April 29, 2020.
- ↑ อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อBOM
- ↑ Buchanan, Jason. "Spider-Man 3: Overview". Allmovie. สืบค้นเมื่อ September 7, 2009.
อ้างอิงผิดพลาด: มีป้ายระบุ <ref>
สำหรับกลุ่มชื่อ "lower-alpha" แต่ไม่พบป้ายระบุ <references group="lower-alpha"/>
ที่สอดคล้องกัน