ไมเคิล ฮัตเชนซ์

ไมเคิล เคลแลนด์ จอห์น ฮัตเชนซ์ (อังกฤษ: Michael Kelland John Hutchence, 22 มกราคม ค.ศ. 1960 – 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 1997) เป็นนักร้อง-นักแต่งเพลงและนักแสดงชาวออสเตรเลีย เขาเป็นนักร้องนำและหนึ่งในผู้ก่อตั้งวง INXS วงร็อกออสเตรเลียที่มียอดขายมากกว่า 60 ล้านชุดทั่วโลก[1] เอียน แมกฟาร์เลน นักวิจารณ์เพลงร็อกกล่าวถึงฮัตเชนซ์ว่า "ฮัตเชนซ์เป็นแบบฉบับของนักร้องเพลงร็อก เขามีเสน่ห์อย่างล้นเหลือ และมีภาพลักษณ์และท่าทางบนเวทีอันดึงดูด"[2] ฮัตเชนซ์และวง INXS ได้รับรางวัลบริตอะวอดส์ สาขาศิลปินต่างชาติยอดเยี่ยม ประจำปี ค.ศ. 1991[3]

ไมเคิล ฮัตเชนซ์
ฮัตเชนซ์ที่เมืองซานฟรานซิสโก
เดือนสิงหาคม ค.ศ. 1986
เกิดไมเคิล เคลแลนด์ จอห์น ฮัตเชนซ์
22 มกราคม ค.ศ. 1960(1960-01-22)
ซิดนีย์, รัฐนิวเซาท์เวลส์, ออสเตรเลีย
เสียชีวิต22 พฤศจิกายน ค.ศ. 1997(1997-11-22) (37 ปี)
ซิดนีย์, รัฐนิวเซาท์เวลส์, ออสเตรเลีย
อาชีพ
  • นักดนตรี
  • นักร้อง
  • นักแต่งเพลง
  • นักแสดง
ปีปฏิบัติงานค.ศ. 1977–1997
คู่รักพอลลา เยตส์ (ค.ศ. 1995–1997; ฮัตเชนซ์เสียชีวิต)
บุตร1 คน
อาชีพทางดนตรี
แนวเพลง
ค่ายเพลง
เว็บไซต์michaelhutchence.com

ประวัติ แก้

ไมเคิล ฮัตเชนซ์เกิดเมื่อวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 1960 ที่เมืองซิดนีย์ เป็นบุตรคนโตของเคลแลนด์กับแพทริเซีย ฮัตเชนซ์ ในวัยเด็ก ฮัตเชนซ์ย้ายตามครอบครัวไปหลายเมืองก่อนจะกลับมาเรียนที่โรงเรียนมัธยมเดวิดสันในซิดนีย์ ที่ซึ่งเขาได้พบกับแอนดรูว์ ฟาร์ริสและเริ่มก่อตั้งวงดนตรีที่ต่อมาใช้ชื่อว่า INXS วงเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นจากอัลบั้ม Listen Like Thieves ที่มีเพลง "What You Need" ที่ขึ้นถึงอันดับ 5 ในชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100[4] และได้รับความนิยมแพร่หลายไปทั่วโลกจากอัลบั้ม Kick ที่มียอดขายระดับ 7× Platinum ในออสเตรเลียและ 6× Platinum ในสหรัฐ รวมถึงมีหลายซิงเกิลที่ติด 10 อันดับแรกบนชาร์ตบิลบอร์ดฮอต 100[5] ในช่วงเวลาเดียวกัน ฮัตเชนซ์ได้ทำวง Max Q กับออลลี โอลเซนและแสดงภาพยนตร์ 2 เรื่องคือ Dogs in Space และ Frankenstein Unbound

วันที่ 22 พฤศจิกายน ค.ศ. 1997 ระหว่างการทัวร์คอนเสิร์ตครบรอบ 20 ปีของวง INXS ฮัตเชนซ์ถูกพบว่าเสียชีวิตอยู่ในห้องพักโรงแรมริตซ์-คาร์ลตันในซิดนีย์ รายงานของเจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพระบุว่าฮัตเชนซ์เสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายด้วยการผูกคอด้วยเข็มขัดกับประตูห้อง[6] อย่างไรก็ตาม พอลลา เยตส์ คนรักของฮัตเชนซ์กล่าวว่าฮัตเชนซ์อาจเสียชีวิตจากความผิดพลาดขณะกระทำออโตอีโรติก[7]

ด้านชีวิตส่วนตัว ฮัตเชนซ์เคยคบหากับไคลี มิโนก นักร้องและนักแสดงชาวออสเตรเลีย[8] ก่อนจะคบหากับพอลลา เยตส์ นักข่าวชาวอังกฤษ ทั้งคู่มีบุตรสาวด้วยกัน 1 คนชื่อ ไทเกอร์ ลิลี ฮัตเชนซ์[9] หลังเยตส์เสียชีวิตในปี ค.ศ. 2000 บ็อบ เกลดอฟ อดีตสามีของเยตส์ได้รับไทเกอร์ ลิลีเป็นบุตรบุญธรรม[10]

อ้างอิง แก้

  1. "INXS celebrate 40 years, 60 million records with VIP masquerade ball". Mediaweek. สืบค้นเมื่อ 28 October 2017.
  2. McFarlane, "'INXS' entry". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 30 September 2004. สืบค้นเมื่อ 18 April 2014.. Retrieved 5 December 2010.
  3. "The BRITs 1991". Brit Awards. สืบค้นเมื่อ April 14, 2019.
  4. "INXS - What You Need - Chart History". Billboard. สืบค้นเมื่อ April 14, 2019.
  5. "INXS' 'Kick': 10 Things You Didn't Know". Rolling Stone. October 19, 2017. สืบค้นเมื่อ April 14, 2019.
  6. Gibbs, Stephen (November 19, 2017). "Michael Hutchence's death solved in coroner's full report". Daily Mail Online. สืบค้นเมื่อ April 14, 2019.
  7. "Paula challenges Hutchence verdict". BBC News (BBC). 10 August 1999. สืบค้นเมื่อ 9 December 2010.
  8. McLuckie, Kirsty (23 January 2003). "Dating Danger". The Scotsman. UK. สืบค้นเมื่อ 26 January 2006.
  9. Boshoff, Alison (July 21, 2017). "Bob Geldof's greatest success, Tiger Lily, turns 21". Daily Mail Online. สืบค้นเมื่อ April 14, 2019.
  10. Morris, Linda (February 24, 2014). "Michael Hutchence planned to leave Paula Yates before death, Kirk Pengilly says". The Sydney Morning Herald. สืบค้นเมื่อ April 14, 2019.