ไป่ตู้
ไป่ตู้ (จีน: 百度; พินอิน: Bǎidù) เป็นเสิร์ชเอนจินอันดับหนึ่งของประเทศจีน และเป็นเว็บไซต์ที่คนใช้มากที่สุดอันดับ 4 ของโลก (ข้อมูล กรกฎาคม พ.ศ. 2549)[5] ใน พ.ศ. 2549 ไป่ตู้มีดัชนีข้อมูลมากกว่า 740 ล้านเว็บเพจ 80 ล้านภาพ และ 10 ล้านไฟล์เพลงและภาพยนตร์
 | |
| ประเภท | บริษัท (แนสแด็ก: BIDU) |
|---|---|
| ISIN | US0567521085  |
| อุตสาหกรรม | อินเทอร์เน็ตเสิร์ช |
| ก่อตั้ง | ปักกิ่ง จีน (ค.ศ. 2000) |
| ผู้ก่อตั้ง | โรบิ้ หลี่ และ อีริค ซู |
| สำนักงานใหญ่ | ปักกิ่ง , จีน |
พื้นที่ให้บริการ | จีน, ญี่ปุ่น, ไทย, อียิปต์, อินเดีย |
บุคลากรหลัก | โรบิน หลี่ (ประธาน, CEO) เจนีเฟอร์ หลี่ (CFO) Peng Ye (COO) |
| บริการ | บริการค้นหาข้อมูลทางอิเตอร์เน็ต |
| รายได้ |  US$651 ล้าน (ก.พ. 2009)[1] |
รายได้จากการดำเนินงาน | US$235 ล้าน (ก.พ. 2009)[1] |
รายได้สุทธิ | US$218 ล้าน (ก.พ. 2009)[1] |
| สินทรัพย์ | US$902 ล้าน (ก.พ. 2009)[2] |
| ส่วนของผู้ถือหุ้น | US$696 ล้าน (ก.พ. 2009)[2] |
พนักงาน | 6,252[3] |
| บริษัทในเครือ | Baidu, Inc. (ญี่ปุ่น) |
| เว็บไซต์ | www |
ในปี พ.ศ. 2549 ไป่ตู้ ได้เปิดส่วนที่เป็นสารานุกรมออนไลน์ขึ้นชื่อว่า ไป่ตู้ไป่เคอ หรือรู้จักในชื่อ ไป่ตู้พีเดีย ลักษณะของสารานุกรมใกล้เคียงกับวิกิพีเดีย แตกต่างกันโดยข้อความต้องผ่านการตรวจสอบจากทีมงานก่อนที่จะแสดงผลทางหน้าจอ ข้อมูลที่ขัดแย้งกับรัฐบาลจีนและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับลัทธิหรือนิกายต้องห้ามในประเทศจีนจะถูกห้ามในเว็บไซต์แห่งนี้
ปัจจุบันไป่ตู้ ครองส่วนแบ่งทางการตลาดเสิร์ชเอนจินในประเทศจีนถึงร้อยละ 72% และมียอดทางการตลาดมากกว่า 50 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ไป่ตู้ เป็นเครื่องมือสำคัญของนักการตลาดออนไลน์ที่จะช่วยปรับปรุงการเข้าไปมีบทบาททางการตลาดในประเทศจีนให้ดียิ่งขึ้น โดยทาง Baidu ระบุว่าไตรมาสที่ 3 ของปี 2557 นี้เป็นไตรมาสแรกที่ทราฟิกจากอุปกรณ์เคลื่อนที่แซงหน้าพีซี และรายได้ทั้งหมดมาจากพีซี 36% สำหรับไตรมาสที่สี่คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นเป็น 2,256 ล้านดอลลาร์ถึง 2,322 ล้านดอลลาร์ แต่ยังไม่ได้ระบุคาดการณ์กำไร
Baidu ผู้นำเสริช์เอนจินรายใหญ่ของโลก ได้รับการจัดอันดับจาก MIT Technology Review ให้เป็น 1 ใน 50 บริษัทผู้ผลิตและสร้างสรรค์นวัตกรรมที่มีอิทธิพลของโลก ประจำปีพ.ศ. 2557 การพิจารณามาจากบรรณาธิการ ที่เฝ้าจับตามองบรรดาบริษัทต่างๆ ที่นำเสนอเทคโนโลยีที่มีความโดดเด่น และมีคุณประโยชน์ต่างๆ รวมถึงมีอิทธิพลต่อคู่แข่งอย่างชัดเจน ตลอดทั้งปีพ.ศ. 2556 ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทที่อยู่ในอันดับจะมีนวัตกรรมที่สามารถเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตของคนทั่วไปได้ Jason Pontin หัวหน้ากองบรรณาธิการและผู้พิมพ์ MIT Technology Review กล่าวว่า “ในเวลานี้ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะก้าวเดินให้ทันกับเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งการจัดอันดับครั้งนี้ เป็นการแสดงความยินดีต่อองค์กรในระดับแถวหน้า ผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมอันโดดเด่น สามารถก้าวข้ามการแข่งขันทางธุรกิจ รวมถึงสร้างการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมและการดำรงชีวิตของผู้คนด้วย”
“Baidu ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นหนึ่งในบริษัทเว็บไซต์ชั้นนำของโลก ที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ พร้อมทั้งขยายแนวธุรกิจออกไปสู่ตลาดโลก เป็นเรื่องที่สนใจและจับตามองเป็นอย่างยิ่งสำหรับการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจของไป่ตู้ ที่จะทำตลาดแข่งขันกับกูเกิ้ล (Google) ในหลายๆ ประเทศภายในปีนี้” เจสัน ปอนติน กล่าวทิ้งท้าย[6]
อ้างอิง แก้ไข
- ↑ 1.0 1.1 1.2 Baidu.com (BIDU) annual SEC income statement filing via Wikinvest
- ↑ 2.0 2.1 Baidu.com (BIDU) annual SEC balance sheet filing via Wikinvest
- ↑ "Company Profile for Baidu.com Inc (BIDU)". สืบค้นเมื่อ 2008-10-21.
- ↑ "baidu.com - Traffic Details from Alexa". Alexa Internet, Inc. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-07-23. สืบค้นเมื่อ 2009-10-17.
- ↑ จำนวนคนเข้าใช้จาก Alexa[ลิงก์เสีย]
- ↑ "Baidu ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 50 บริษัท ผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมของโลก จาก MIT Technology Review's 2014". กุมภาพันธ์ 25, 2557. สืบค้นเมื่อ กรกฎาคม 5, 2561.
{{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน:|accessdate=(help)
แหล่งข้อมูลอื่น แก้ไข
- ไป่ตู้ (ไทย)
- ไป่ตู้ (จีน)
- ไป่ตู้ไป่เคอ (จีน)
- ไป่ตู้ (ญี่ปุ่น)
- ไป่ตู้ เก็บถาวร 2011-09-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน (อาหรับ)