เทพไท่ไป๋จิงซิง (อังกฤษ: Taibai Jianxi จีน: 太白金星; pinyin: Tài Bái Jīn Xīng; lit.: 'Great White Golden Star'; เรียกสั้นๆว่า เทพไท้ไป๋) หรือในนวนิยายไซอิ๋วเรียกว่า เทพไทแป๊ะกิมแช เป็นเทพในลัทธิเต๋าและศาสนาชาวบ้านจีน โดยเป็นเทพประจำดาวศุกร์และนามนี้หมายถึงดาวย่ำรุ่ง[1]ในวรรณกรรมไซอิ๋ว พระองค์เป็นเทพบริวารของเง็กเซียนฮ่องเต้.[2] ในทางดาราศาสตร์จีนทรงเป็นผู้รักษาดาวศุกร์

ไท่ไป๋จิงซิง
เทวรูปไทแป๊ะกิมแช ภาคเทพบุรุษ (กลาง) ณ ไท่ไป๋เตี้ยน (太白殿) ตำบลหูซี เขตเผิงหู ไต้หวัน
ดาวพระเคราะห์ดาวศุกร์

รูปลักษณ์ แก้

ไท่ไป๋ ภาคเทพนารี จากภาพวาดผ้าไหมสมัยราชวงศ์ถัง พ.ศ.1440 ถ้ำมั่วเกา ตุนหวง
ไท่ไป๋ ภาคเทพนารี จากภาพวาดผ้าไหมสมัย ราชวงศ์เซี่ยตะวันตก จากเขตเมืองโบราณเฮยเฉิง (Heicheng Historic Site) มองโกเลีย ปัจจุบันจัดแสดงใน พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิทาจ รัสเซีย

ในลัทธิเต๋าเดิมทรงมีรูปลักษณ์เทพยรูปเป็นเทพนารีและทรงพิณในหัตถ์ แต่ต่อมาทรงกลายรูปเป็นเทพบุรุษภาคชราอาวุโสในช่วงราชวงศ์หมิงจากอิทธิพลในวรรณกรรมไซอิ๋ว[3]

ในวรรณกรรมไซอิ๋ว แก้

ในช่วงที่ซุน หงอคงสร้างความวุ่นวายที่เมืองบาดาลแล้ว ด้วยความกลัวตาย หงอคงจึงบุกไปเมืองนรก แล้วแย่งบัญชีมรณะจากพญายมราชมาขีดฆ่าชื่อตัวเองทิ้ง แล้วเหาะกลับคืนสู่เขาฮัวกั่วซาน

ขณะนั้น เมื่อเง็กเซียนฮ่องเต้ทรงทราบเรื่องจึงมีบัญชาให้กองทัพสวรรค์ยกกันลงไปปราบเห้งเจียเสีย แต่เทพไท่ไป๋เห็นว่าหงอคงเป็นลิงมีฤทธิ์เดชเกินกว่าที่จะปราบได้โดยง่าย หากต้องสู้กันจริง สรรพสัตว์น้อยใหญ่ต่างหากที่จะล้มตายลงไปอย่างมหาศาลจึงได้ขออนุญาตลงไปเกลี้ยกล่อมหงอคง และขอให้หงอคงขึ้นมารับใช้บนสรวงสวรรค์ แต่ว่าถ้อยคำของท่านกลับถูกเทวดาทักท้วง ด้วยง่าหงอคงเป็นสัตว์เดรัจฉาน ย่อมไม่รู้กาลเทศะ สวรรค์จะยิ่งวุ่นวายไปใหญ่ ซึ่งเง๊กเซียนเองก็ทรงเห็นด้วย แต่เทพไท้ไป๋ให้เหตุผลว่า "หากเรายกตำแหน่ง เบ๊กเบ๊อุน ให้หงอคงเสีย (หน้าที่นี้เป็นแค่คนเลี้ยงม้า ซึ่งเป็นคนรับใช้ระดับต่ำที่สุด ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทวยเทพอื่นแต่อย่างใด) ซึ่งหงอคงเองก็คงไม่รู้ว่าตำแหน่งนี้สำคัญอย่างไร"[4][ระบุข้อมูลทางบรรณานุกรมไม่ครบ]

ต่อมาเมื่อซุนหงอคงรู้ความจริงก็อาละวาด ทำลายแดนสวรรค์จนพังพินาศ แล้วจึงตั้งต้นเป็น ฉีเทียนต้าเสิ้ง อันแปลว่า จอมราชันย์ ผู้ยิ่งใหญ่เสมอสวรรค์ เมื่อเง็กเซียนฮ่องเต้ทรงทราบก็ทรงพิโรธมาก ถักทะลีทีอ๋อง แม่ทัพใหญ่แห่งสรวงสวรรค์ พร้อมด้วย เทพนาจา ทหารเอกขออาสาออกนำทัพปราบซุนหงอคง แต่ก็พ่ายแพ้ เง็กเซียนฮ่องเต้จึงส่งทวยเทพออกสู้รบกับหงอคงด้วยกองทัพที่ใหญ่กว่าเดิม เทพไท้ไป๋จึงห้ามเง๊กเซียนด้วยว่า "ด้วยขณะนี้ซุนหงอคงลุ่มหลงในยศฐาบรรดาศักดิ์ ขอพระองค์ทรงมีรับสั่งให้ซุนหงอคงครองตำแหน่งฉีเทียนต้าเสิ้งไปตามนั้น โดยถือว่าเป็นตำแหน่งเปล่า ๆ เท่านี้เราก็สามารถควบคุมพฤติกรรมได้โดยง่าย"หลังจากนั้น ซุนหงอคงจึงได้เป็นฉีเทียนต้าเสิ้งตามใจปรารถนา[5][ระบุข้อมูลทางบรรณานุกรมไม่ครบ][6][ระบุข้อมูลทางบรรณานุกรมไม่ครบ][7][ระบุข้อมูลทางบรรณานุกรมไม่ครบ]

อ้างอิง แก้

  1. Walsh, Michael J. (25 March 2010). Sacred Economies: Buddhist Monasticism and Territoriality in Medieval China (ภาษาอังกฤษ). Columbia University Press. ISBN 978-0-231-51993-9.
  2. Mair, Victor H.; Bender, Mark (3 May 2011). The Columbia Anthology of Chinese Folk and Popular Literature (ภาษาอังกฤษ). Columbia University Press. ISBN 978-0-231-52673-9.
  3. Macdonald, Sean (6 November 2015). Animation in China: History, Aesthetics, Media (ภาษาอังกฤษ). Routledge. ISBN 978-1-317-38216-4.
  4. อ้างอิงจากหนังสือ เดินทางไกลกับไซอิ๋ว จากสำนักพิมพ์กองทุนวุฒิธรรม
  5. อ้างอิงจากหนังสือ ไซอิ๋ว หน้าที่ 18-26 จากสำนักพิมพ์ Skybook
  6. อ้างอิงจากหนังสือ ไซอิ๋ว จากสำนักพิมพ์ ศรีปัญญา
  7. อ้างอิงจากบทความ เห้งเจีย (ฉีเทียนต้าเสิ้ง) ลิงในวรรณกรรมที่กลายเป็นเทพเจ้า จากสำนักพิมพ์ มติชน