ไทยยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์
บทความนี้อาศัยการอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลปฐมภูมิมากเกินไป |
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (อังกฤษ: THAI UNION GROUP PUBLIC COMPANY LIMITED ชื่อย่อ:TU) [3] บริษัทดำเนินธุรกิจผลิตและส่งออกอาหารทะเลแช่แข็ง โดยเริ่มก่อตั้งในปี พ.ศ 2531 และบริษัทได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี พ.ศ. 2537 ปัจจุบันบริษัทเป็นผลิตทูน่ากระป๋องที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นผู้นำและเชี่ยวชาญด้านอาหารทะเลโดยมียี่ห้อชั้นนำระดับโลก โดยมีฐานการผลิตที่ประเทศไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม อินเดีย สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส โปรตุเกส ปาปัวนิวกินี เซเซลส์ และกานา [4]
ประเภท | อาหารและเครื่องดื่ม |
---|---|
อุตสาหกรรม | เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร |
รูปแบบ | บริษัทมหาชน SET:TU |
ก่อตั้ง | 17 มีนาคม พ.ศ. 2531 |
สำนักงานใหญ่ | อาคารเอสเอ็มทาวเวอร์ ชั้น M เลขที่ 979/12 ถนนพหลโยธิน แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร[1] |
ผลิตภัณฑ์ | ปลาทูน่ากระป๋อง ปลาเส้น ปลาแผ่น ปลาหมึกแผ่น ผลิตภัณฑ์อาหารทะเล ผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน เบเกอรี่ และกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสุนัขและแมว [2] |
เว็บไซต์ | http://www.thaiuniongroup.com |
ประวัติ
แก้ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป เริ่มก่อตั้งในปี 2520 ภายใต้ชื่อ บริษัท ไทยรวมสินพัฒนาอุตสาหกรรม จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกปลาทูน่าบรรจุกระป๋อง จากนั้น บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2531 โดยครั้งแรกได้ร่วมกันจัดตั้งบริษัท เอเซี่ยน แปซิฟิค ไทยทูน่า จำกัด ขึ้นก่อนเพื่อประกอบกิจการผลิตและนำเข้าส่งออกอาหารทะเลแช่แข็ง รวมถึงแปรสภาพผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ต่อมาในเดือนตุลาคม 2531 จึงได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด
ในปี 2535 บริษัทได้ก่อสร้างห้องเย็นเพิ่มเติม พร้อมกับการเข้าร่วมลงทุนจากบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายรายใหญ่ ในประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ บริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และบริษัท ฮาโกโรโม่ ฟู้ดส์ จำกัด ซึ่งเป็นลูกค้าและผู้จำหน่ายของบริษัท ต่อมาบริษัทได้แปลงสภาพเป็นบริษัทมหาชน พร้อมทั้งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2537
การประกอบธุรกิจ
แก้บริษัทประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารทะเลแช่แข็งและบรรจุกระป๋อง เพื่อส่งออกต่างประเทศ ปัจจุบันโรงงานของบริษัทตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร ณ 28 กุมภาพันธ์ 2556 บริษัทเข้าลงทุนในบริษัทย่อย รวม 22 แห่ง ซึ่งเป็นบริษัทในประเทศ 14 แห่งและต่างประเทศ 8 แห่ง ครอบคลุมธุรกิจด้านอาหารสำเร็จรูปและอาหารว่าง เช่น อาหารบรรจุกระป๋อง อาหารแช่แข็ง และอาหารว่างประเภทต่างๆ โดยเน้นอาหารทะเลเป็นหลัก ขณะเดียวกันก็ได้ขยายเข้าสู่การดำเนินงานในรูปธุรกิจบรรจุภัณฑ์และสิ่งพิมพ์ ธุรกิจตลาดภายในประเทศ ธุรกิจอาหารสัตว์ พัฒนาสายพันธุ์กุ้งเพื่อจำหน่าย ธุรกิจโรงเพาะฟักและอนุบาลลูกกุ้ง และฟาร์มเลี้ยงกุ้ง
นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีการลงทุนในบริษัทร่วมอีก 5 แห่ง ซึ่งเป็นบริษัทในประเทศ 3 แห่งและต่างประเทศ 2 แห่ง ประกอบธุรกิจผลิตปูอัด อาหารกุ้ง อาหารสัตว์ ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์พลอยได้จากอาหารทะเล ลงทุนในธุรกิจการจับปลาทูน่า และธุรกิจให้บริการบริหารการจัดซื้อจัดจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Procurement)
โครงสร้างรายได้จากการขายของบริษัทและบริษัทย่อย
แก้แบ่งเป็น 5 กลุ่มธุรกิจ
- 1 กลุ่มธุรกิจผลิตและส่งออกอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งและบรรจุกระป๋อง
- 2 กลุ่มผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์
- 3 กลุ่มผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์และสินค้าเกษตร
- 4 กลุ่มธุรกิจตลาดภายในประเทศ
- 5 กลุ่มธุรกิจการลงทุนต่างประเทศ
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
แก้- ข้อมูล ณ วันที่ 26 สิงหาคม 2563 [5]
ลำดับที่ | รายชื่อผู้ถือหุ้น | จำนวนหุ้นสามัญ | สัดส่วนการถือหุ้น |
1 | บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด | 618,690,225 | 12.97% |
2 | สำนักงานประกันสังคม | 232,207,0082 | 4.87% |
3 | นาย ธีรพงศ์ จันศิริ | 231,468,824 | 4.85% |
4 | MITSUBISHI CORPORATION | 218,145,120 | 4.57% |
5 | นาย เชง นิรุตตินานนท์ | 200,442,084 | 4.20% |
อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 รายละเอียดบริษัท/หลักทรัพย์เซ็ทเทรดดอตคอม
- ↑ ผลิตภัณฑ์บริษัท ไทยยูเนียน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
- ↑ สรุปข้อสนเทศบริษัทจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- ↑ TUF: The World's Seafood Expert.[ลิงก์เสีย]บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
- ↑ ผู้ถือหุ้นรายใหญ่เซ็ทเทรดดอตคอม