ไดกิ คาเมดะ
ไดกิ คาเมดะ (ญี่ปุ่น: 亀田 大毅; โรมาจิ: Kameda Daiki) นักมวยสากลชาวญี่ปุ่น เป็นน้องชายคนที่ 2 ของตระกูลคาเมดะ เป็นน้องชายแท้ ๆ ของ โคกิ คาเมดะ
ไดกิ คาเมดะ | |
---|---|
![]() | |
ฉายา | 浪速乃弁慶 (พระนักรบยอดนักสู้แห่งโอซากะ) |
รุ่น | ฟลายเวท ซูเปอร์ฟลายเวท แบนตัมเวท ซูเปอร์แบนตัมเวท |
ส่วนสูง | 167 เซนติเมตร |
เกิด | 6 มกราคม พ.ศ. 2532 โอซากะ ประเทศญี่ปุ่น |
ชกทั้งหมด | 33 |
ชนะ | 29 |
ชนะน็อก | 18 |
แพ้ | 4 |
เสมอ | 0 |
ประวัติ แก้
ไดกิ คาเมดะ ก่อนขึ้นชิงแชมป์โลกครั้งแรกกับไดซูเกะ ไนโต แชมป์โลกของสภามวยโลก (WBC) รุ่นฟลายเวท ที่สามารถคว้าแชมป์ด้วยการเอาชนะพงษ์ศักดิ์เล็ก กระทิงแดงยิม นักมวยชาวไทยไปได้ ในปี พ.ศ. 2550 นั้น คาเมดะสามารถเอาชนะน็อกวันดี สิงห์วังชา นักมวยไทยอีกคนที่เป็นอดีตแชมป์โลก WBC 2 สมัยใน 2 รุ่นไปได้ในยกที่ 6 ชกจนติดอันดับโลกในลำดับที่ 14 ของ WBC แต่การชกชิงแชมป์โลกกับไดซูเกะนั้น ปรากฏว่าคาเมดะเป็นฝ่ายแพ้คะแนนไป โดยการชกในครั้งนี้เป็นไปอย่างไม่โปร่งใส เพราะ ชิโร คาเมดะ ผู้เป็นพ่อสอนคาเมดะผู้เป็นลูกชายระหว่างพักยกที่มุมเวทีตลอดให้ใช้วิธีการชกที่ผิดกติกา เช่น ใช้ศีรษะชน เป็นต้น โดยกล้องที่ดำเนินการถ่ายทอดสามารถจับเสียงนี้ได้ชัดเจน ส่งผลให้คณะกรรมการมวยสากลอาชีพของญี่ปุ่น (JBC) ลงโทษห้ามยุ่งเกี่ยวกับมวยอีกเลยตลอดชีวิต ในส่วนของไดกิ คาเมดะ เอง ก็ถูกลงโทษแบนห้ามขึ้นชกเป็นเวลา 2 ปี
จากนั้นเมื่อพ้นโทษ 2 ปีออกมาแล้ว ไดกิ คาเมดะ ได้มีโอกาสชิงแชมป์โลกอีกครั้งของสมาคมมวยโลก (WBA) ในรุ่นฟลายเวท ในฐานะรองแชมป์โลก WBA อันดับ 11 กับ เด่นเก้าแสน กระทิงแดงยิม ในวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ที่ เซ็นทรัลยิม โอซากะ ซึ่งตลอดระยะเวลาก่อนการชก คาเมดะได้พยายามยียวนกวนประสาทเด่นเก้าแสนตลอด จนถูกสื่อมวลชนของญี่ปุ่นเองโห่ใส่ เนื่องจากถือเป็นการแสดงกิริยาที่ไม่มีมารยาท และในวันที่ขึ้นชก ก็มีแฟนมวยชาวญี่ปุ่นเข้ามาชมไม่เต็มความจุสนามด้วย ผลการชกก็ออกมาปรากฏว่า คาเมดะ เป็นฝ่ายแพ้คะแนนไปอีกอย่างไม่เป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนน 114–114, 115–113, 115–113[1]
คาเมดะมาประสบความสำเร็จในการชิงแชมป์โลกครั้งที่ 3 เมื่อพบกับ เด่นเก้าแสน อีกครั้ง ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 ที่โคเบะ ในฐานะรองแชมป์โลก WBA อันดับ 11 เหมือนกับการชกกับเด่นเก้าแสนครั้งแรก ซึ่งก่อนการชกครั้งนี้ คาเมดะได้ไปเก็บตัวที่ประเทศฟิลิปปินส์ แต่ไม่ได้ขึ้นชกกับใครอีก ตลอดการชกทั้ง 12 ยก คาเมดะได้ใช้ลูกตุกติกด้วยการเข้ากอดและล้มลงอยู่หลายครั้ง จนกรรมการสั่งตัดคะแนนเด่นเก้าแสนไปถึง 2 ครั้ง ในที่สุดเมื่อครบ 12 ยก คาเมดะเป็นฝ่ายชนะคะแนนไปอย่างเอกฉันท์ 110–116, 112–114, 110–116 และสร้างประวัติศาสตร์เป็นคู่พี่น้องที่เป็นแชมป์โลกพร้อมกันเป็นครั้งแรกของญี่ปุ่น
ต่อมาในวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ไดกิ คาเมดะ ได้เลื่อนรุ่นขึ้นมาชกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท ต่อมาไดกิได้ชิงแชมป์โลกของสมาคมมวยโลกรุ่นนี้ ในฐานะรองแชมป์โลก WBA อันดับ 1 พบกับ เทพฤทธิ์ สิงห์วังชา นักมวยชาวไทย ที่ศูนย์กีฬาในร่มจังหวัดโอซากะ เมืองโอซากะ ปรากฏว่าไดกิ คาเมดะ เป็นฝ่ายแพ้คะแนนเมื่อครบ 12 ยกอย่างเป็นเอกฉันท์ ด้วยคะแนน 115–113, 116–112 และ 119–110 พร้อมด้วยสภาพร่างกายที่บอบช้ำและหน้าตาที่บวมปูดเพราะพิษหมัดของเทพฤทธิ์[2]
ต่อมาได้ขึ้นชิงแชมป์โลก IBF รุ่นจูเนียร์แบนตัมเวท ของ ที่ว่าง กับ โรดริโก เกร์เรโร นักมวยชาวเม็กซิกัน ที่คางาวะ เมื่อวันที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2556 ผลปรากฏว่าไดกิ คาเมดะ ชนะคะแนนไปแบบเอกฉันท์ แต่ต่อมาก็ได้ชกล้มแชมป์กับแชมป์โลกรุ่นเดียวกันของ WBA คือ ลิโบริโอ โซลิส นักมวยชาวเวเนซุเอลา เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ปีเดียวกัน ผลปรากฏว่าไดกิ คาเมดะ เป็นฝ่ายแพ้คะแนนไป แม้ก่อนหน้านั้นในการชั่งน้ำหนัก โซลิส จะเป็นฝ่ายเสียแชมป์โลกเนื่องจากทำน้ำหนักไม่ผ่านก็ตาม[3]
เกียรติประวัติ แก้
- แชมป์โลก WBA รุ่นฟลายเวท
- ชิง 7 กุมภาพันธ์ 2553 ชนะคะแนน เด่นเก้าแสน เก้าวิชิต ( ไทย) ที่ หออนุสรณ์โลก โคเบะ ประเทศญี่ปุ่น
- ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 1 29 กันยายน 2553 ชนะคะแนน ทาเกฟูมิ ซากาตะ ( ญี่ปุ่น) ที่ โตเกียว บิก ไซท์ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
- ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 2 26 ธันวาคม 2553 ชนะคะแนน ซิลวิอู โอลเตนาอู ( โรมาเนีย) ที่ ไซตามะซูเปอร์อารีนา ไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น
- แชมป์ WBA International รุ่นซูเปอร์ฟลายเวท
- ชิง 24 กันยายน 2554 ชนะน็อกยก 1 ราอุล อิดาลโก ( เม็กซิโก) ที่ เซนโตร เด กอนเบนซิโอเนส โกซูเมล ประเทศเม็กซิโก
- แชมป์โลก IBF รุ่นจูเนียร์แบนตัมเวท
- ชิง 24 กันยายน 2556 ชนะคะแนน โรดริโก เกร์เรโร ( เม็กซิโก) ที่ ซัน เมซเซ ทากามัตสึ ประเทศญี่ปุ่น
- เสียแชมป์ 3 ธันวาคม 2556 แพ้คะแนน ลิโบริโอ โซลิส ( เวเนซุเอลา) ที่ ศูนย์กีฬาในร่มจังหวัดโอซากะ โอซากะ ประเทศญี่ปุ่น
- เคยชิงแชมป์ต่อไปนี้แต่ไม่สำเร็จ
- ชิงแชมป์โลก WBC รุ่นฟลายเวท 11 ตุลาคม 2550 แพ้คะแนน ไดซูเกะ ไนโต ( ญี่ปุ่น) ที่ อาริอาเกะคอลิเซียม โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
- ชิงแชมป์โลก WBA รุ่นฟลายเวท 6 ตุลาคม 2552 แพ้คะแนน เด่นเก้าแสน เก้าวิชิต ( ไทย) ที่ ศูนย์กีฬาในร่มกลางเทศบาลโอซากะ โอซากะ ประเทศญี่ปุ่น
- ชิงแชมป์โลก WBA รุ่นซูเปอร์ฟลายเวท 7 ธันวาคม 2554 แพ้คะแนน เทพฤทธิ์ สิงห์วังชา ( ไทย) ที่ ศูนย์กีฬาในร่มจังหวัดโอซากะ โอซากะ ประเทศญี่ปุ่น
- ชิงแชมป์โลก WBA รุ่นซูเปอร์ฟลายเวท 3 ธันวาคม 2556 แพ้คะแนน ลิโบริโอ โซลิส ( เวเนซุเอลา) ที่ ศูนย์กีฬาในร่มจังหวัดโอซากะ โอซากะ ประเทศญี่ปุ่น
อ้างอิง แก้
- ↑ เทปการชกของเด่นเก้าแสน กับ ไดกิ คาเมดะ (ครั้งที่ 1)
- ↑ ""เทพฤทธิ์" สอนมวย "คาเมดะ" ก่อนชนะแต้มขาดลอย". เดลินิวส์. 7 December 2011. สืบค้นเมื่อ 3 January 2013.
- ↑ ""แชแม้" ยัน "แวฮามะ" ไม่เป็นรอง "โคเฮอิ โคโนะ"". เดลินิวส์. 30 December 2012. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2014-01-02. สืบค้นเมื่อ 3 January 2013.