โอลิเวอร์ สกิปป์

โอลิเวอร์ วิลเลียม สกิปป์ (อังกฤษ: Oliver William Skipp; เกิด 16 กันยายน ค.ศ. 2000) เป็นนักฟุตบอลอาชีพชาวอังกฤษที่เล่นในตำแหน่งกองกลางตัวกลางให้แก่ทอตนัมฮอตสเปอร์ในพรีเมียร์ลีก

โอลิเวอร์ สกิปป์
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม โอลิเวอร์ วิลเลียม สกิปป์[1]
วันเกิด (2000-09-16) 16 กันยายน ค.ศ. 2000 (23 ปี)[2]
สถานที่เกิด เวลวีนการ์เดนซิตี อังกฤษ
ส่วนสูง 1.75 เมตร (5 ฟุต 9 นิ้ว)
ตำแหน่ง กองกลาง
ข้อมูลสโมสร
สโมสรปัจจุบัน
ทอตนัมฮอตสเปอร์
หมายเลข 4
สโมสรเยาวชน
0000–2013 Bengeo Tigers
2013–2018 ทอตนัมฮอตสเปอร์
สโมสรอาชีพ*
ปี ทีม ลงเล่น (ประตู)
2018– ทอตนัมฮอตสเปอร์ 43 (1)
2020–2021นอริชซิตี (ยืม) 45 (1)
ทีมชาติ
2015–2016 อังกฤษ อายุไม่เกิน 16 ปี 13 (0)
2016 อังกฤษ อายุไม่เกิน 17 ปี 1 (0)
2017–2018 อังกฤษ อายุไม่เกิน 18 ปี 3 (0)
2019– อังกฤษ อายุไม่เกิน 21 ปี 11 (0)
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น
ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 18:06, 19 กันยายน 2021 (UTC)
‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 21:17, 7 กันยายน 2021 (UTC)

สโมสรอาชีพ แก้

สกิปป์เริ่มเล่นฟุตบอลในระดับเยาวชนให้แก่สโมสร Bengeo Tigers ก่อนที่จะย้ายไปทอตนัมฮอตสเปอร์ใน ค.ศ. 2013[3]

วันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ. 2018 สกิปป์ได้เซ็นสัญญาอาชีพสามปีกับทอตนัมฮอตสเปอร์[4] เขาได้ลงเล่นระดับอาชีพครั้งแรกให้แก่สโมสรในอีเอฟแอลคัพนัดที่เอาชนะเวสต์แฮมยูไนเต็ด 3–1 เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม ค.ศ. 2018[5] เขาลงเล่นในพรีเมียร์ลีกครั้งแรกในนัดที่พบกับเซาแทมป์ตัน โดยได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองช่วยให้ทีมเอาชนะไปได้ 3–1[6]

สกิปป์ลงเล่นเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกครั้งแรกในนัดที่เปิดบ้านเอาชนะเบิร์นลีย์ 1–0 เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ. 2018[7]

เดือนมกราคม ค.ศ. 2019 สกิปป์ทำแอสซิสต์แรกในนามสโมสร ช่วยให้ทีมถล่มเอาชนะแทรนเมียร์โรเวอส์ในเอฟเอคัพ 7–0 โดยในนัดนั้น เขาทำได้สองแอสซิสต์[8]

วันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 สกิปป์ได้ตัดสินใจขยายสัญญากับสโมสรไปอีกสามปี โดยมีตัวเลือกขยายเป็นสี่ปีได้[9] เขาถูกปล่อยยืมตัวให้แก่นอริชซิตีในฤดูกาล 2020–21[10] เขาทำประตูแรกให้แก่นอริชในนัดที่เอาชนะเบอร์มิงแฮมซิตี 3–1 เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2021[11] สกิปป์มีส่วนช่วยให้นอริชชนะเลิศแชมเปียนชิปจนได้เลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีก เขามีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมประจำปี 2021 ของพีเอฟเอ[12]

สกิปป์ลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับท็อตนัมในครึ่งแรกของฤดูกาล 2021-22 โดยลงเล่นไป 18 นัดก่อนจะได้รับบาดเจ็บที่กระดูกเชิงกรานในเดือนมกราคม ซึ่งทำให้เขาพลาดการลงเล่นในช่วงที่เหลือของฤดูกาล[13] เมื่อวันที่ 20 เมษายน ค.ศ. 2022 สกิปป์ได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่ 5 ปีกับท็อตนัมซึ่งจะหมดอายุในปี ค.ศ. 2027[14] สกิปป์กลับมาจากอาการบาดเจ็บในเกมกระชับมิตรปรีซีซั่นเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ค.ศ. 2022[13] ในวันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2023 ในดาร์บีลอนดอนกับเชลซี เขาทำประตูได้หลังจากเริ่มครึ่งหลังได้เพียง 20 วินาทีเท่านั้นเป็นประตูแรกของเขาในทีมชุดใหญ่ของสเปอร์สกับเป็นประตูแรกของเขาในรอบ 2 ปี[15]

ทีมชาติ แก้

สกิปป์เคยเป็นตัวแทนของอังกฤษในรุ่นอายุไม่เกิน 16, 17 และ 18 ปี[16]

วันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 2019 เขามีชื่อติดทีมชาติอังกฤษรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปีเป็นครั้งแรก[17] เขาลงเล่นนัดแรกให้แก่ทีมชุดนี้เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม ค.ศ. 2019 โดยลงเล่นเป็นตัวสำรองในนัดที่เสมอกับสโลวีเนียที่มาริบอร์ 2-2[18]

รูปแบบการเล่น แก้

สกิปป์สามารถเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับและมีความสามารถในการตัดเกมและแย่งบอล[19]

เพื่อนร่วมทีม แกรนต์ แฮนลีย์ กล่าวถึงสกิปป์เมื่อเดือนมกราคม ค.ศ. 2021 ว่า "เขามีประสบการณ์ที่เหนือกว่าอายุของเขามาก" เขายังได้กล่าวชื่นชมถึงความสามารถในการอ่านเกมและตัดสินใจภายใต้ความกดดัน[20]

ชีวิตส่วนตัว แก้

สกิปป์เกิดที่เวลวีนการ์เดนซิตีและโตที่เฮิร์ตฟอร์ต[16] ระหว่าง ค.ศ. 2003 ถึง 2012 เขาได้ศึกษาที่โรงเรียนประถมดังคอมบ์และโรงเรียนริชาร์ดเฮลในเฮิร์ตฟอร์ต[21]

เกียรติประวัติ แก้

ทอตนัมฮอตสเปอร์

นอริชซิตี

รางวัลส่วนตัว

  • ทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ: แชมเปียนชิป 2020–21[12]

อ้างอิง แก้

  1. "Updated squads for 2017/18 Premier League confirmed". Premier League. 2 February 2018. สืบค้นเมื่อ 5 January 2019.
  2. "Oliver Skipp". 11v11. สืบค้นเมื่อ 12 October 2019.
  3. "Tigers past and present". Bengeo Tigeres. 24 March 2019. สืบค้นเมื่อ 22 September 2019.
  4. Joanna Durkan (29 August 2018). "Tottenham Announce Contract Extensions for Trio of Up and Coming Young Stars". 90 Min. สืบค้นเมื่อ 2 November 2018.
  5. Steve Sutcliffe (31 October 2018). "West Ham United 1–3 Tottenham Hotspur". BBC Sport. สืบค้นเมื่อ 1 November 2018.
  6. Gold, Alasdair (5 December 2018). "Spurs player ratings: Kane, Lucas & Son strike & Skipp makes league debut as Tottenham go third". football.london. สืบค้นเมื่อ 1 November 2020.
  7. Miller, Nick (15 December 2018). "Christian Eriksen's late strike gives Tottenham win over Burnley". The Guardian.
  8. "Tranmere Rovers 0–7 Tottenham: Fernando Llorente scores hat-trick in thrashing". 2019-01-04. สืบค้นเมื่อ 27 February 2019.
  9. "Oliver Skipp signs new Tottenham deal". Sky Sports. 17 July 2020.
  10. "Skipp loaned to Norwich". Tottenham Hotspur F.C. 17 August 2020. สืบค้นเมื่อ 17 August 2020.
  11. "Birmingham 1-3 Norwich". BBC Sport. 23 February 2021. สืบค้นเมื่อ 24 February 2021.
  12. 12.0 12.1 12.2 "Skipp in PFA Championship Team of the Year". Tottenham Hotspur F.C. 3 June 2021. สืบค้นเมื่อ 12 June 2021.
  13. 13.0 13.1 Gorrie, Jonathan (2022-07-14). "Midfielder glad for Tottenham return after Conte's public frustration". Evening Standard (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-09-01.
  14. "New contract for Skipp". Tottenham Hotspur (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2022-04-20.
  15. "Tottenham Hotspur v Chelsea Live Commentary & Result, 26/02/2023, Premier League | Goal.com". www.goal.com. สืบค้นเมื่อ 2023-02-26.
  16. 16.0 16.1 "Oliver Skipp Player Profile". Tottenham Hotspur F.C. สืบค้นเมื่อ 1 November 2018.
  17. "ENGLAND U21S KICK-OFF A NEW CAMPAIGN AND AIDY BOOTHROYD HAS PICKED HIS SQUAD". The FA. 30 August 2019. สืบค้นเมื่อ 30 August 2019.
  18. "GOALS FROM EDDIE NKETIAH AND SAM SURRIDGE CANCELLED OUT AS YOUNG LIONS TIE IN MARIBOR". The FA. 11 October 2019. สืบค้นเมื่อ 12 October 2019.
  19. Southwell, Connor (2021-04-29). "Spurs loanee Skipp claims third place in Player of the Season vote". The Pink Un (ภาษาอังกฤษ). สืบค้นเมื่อ 2021-08-24.
  20. 161385360554578 (2021-01-20). "Skipp branded 'top quality' as Spurs starlet shines on loan with Norwich". talkSPORT (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). สืบค้นเมื่อ 2021-08-24.{{cite web}}: CS1 maint: numeric names: authors list (ลิงก์)
  21. "Spurs Academy player and ex-Duncombe pupil, Oliver Skipp goes back to school". Attain. 2 July 2018. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2018-12-06. สืบค้นเมื่อ 2021-09-24.

แหล่งข้อมูลอื่น แก้