โรฮัน
โรฮัน (อังกฤษ: Rohan) คือชื่ออาณาจักรมนุษย์แห่งหนึ่งบนทวีปมิดเดิลเอิร์ธ ในจินตนิยายของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ชุด เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ บางครั้งถูกกล่าวถึงด้วยชื่อว่า ริดเดอร์มาร์ค (RidderMark) หรือ มาร์ค (Mark) ชาวโรฮันมีชื่อเรียกว่า "ชาวโรเฮียร์ริม" ซึ่งหมายถึง "ผองชนแห่งอาชา" พวกเขามีภาษาพูดเป็นของตัวเอง เรียกว่า "ภาษาโรเฮียร์ริค" แต่ก็สามารถใช้ภาษาเวสทรอน ในการติดต่อสื่อสารทั่วไป
อาณาจักรโรฮันตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเทือกเขาเอเร็ดนิมไรส์ (เทือกเขาขาว) และทางใต้ของเทือกเขามิสตี้ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทุ่งหญ้า เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงม้าพันธุ์ดีที่สุดบนมิดเดิลเอิร์ธ และชาวโรฮันยังเป็นผู้ชำนาญการรบบนหลังม้าที่สุดในโลกด้วย ตราสัญลักษณ์ของอาณาจักรโรฮันคือ ภาพอาชาสีขาวกระโจนบนพื้นหลังสีเขียว
ประวัติ
แก้บรรพบุรุษของชาวโรฮัน คือชาวเอโอเธด (Éothéod) ซึ่งเป็นพลเมืองแดนเหนือกลุ่มหนึ่งในแผ่นดินโรห์วาเนียน เป็นพันธมิตรกับอาณาจักรกอนดอร์มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 ของยุคที่สาม ชาวเอโอเธดตั้งถิ่นฐานอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของป่าใหญ่กรีนวู้ด เป็นเผ่าพันธุ์ที่ชำนาญในการเลี้ยงม้า มีม้าสายพันธุ์ดีๆ อยู่มาก[1]
ปีที่ 2509 ของยุคที่สาม คิริออน สจ๊วตแห่งกอนดอร์ ได้ขอความช่วยเหลือจากพันธมิตรชาวเหนือเพื่อช่วยต้านทานทัพออร์คของเซารอนที่ยกมาโจมตี เอออร์ลผู้เยาว์วัย ได้ตอบรับคำขอคราวนั้น เขารวบรวมพลลงมาช่วยกอนดอร์ ทำให้กอนดอร์และทัพพันธมิตรชนะสงคราม อาณาจักรกอนดอร์จึงมอบที่ดินส่วนหนึ่งทางตะวันตกให้อยู่อาศัย คือแคว้นคาเลนาร์ดอน เอออร์ลนำประชาชนของตนอพยพมาตั้งถิ่นฐานที่นี่ กลายเป็นอาณาจักรโรฮัน พันธสัญญาระหว่างเอออร์ลกับคิริออนในครั้งนั้นมีชื่อเรียกต่อมาว่า "คำสาบานของเอออร์ล" เป็นสัญลักษณ์ถึงสัมพันธไมตรีระหว่างสองอาณาจักร ว่าจะต้องให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันเมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งส่ง "ลูกศรแดง" มาให้ หรือส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือผ่าน "หอสัญญาณเพลิงแห่งกอนดอร์" อันเป็นหอหรือแท่นสัญญาณไฟขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนแนวเทือกเขาขาวตั้งแต่มินัสทิริธมาถึงเอโดรัส
สายวงศ์ของเอออร์ลปกครองอาณาจักรสืบต่อมานานถึง 249 ปี ชาวโรฮันบางครั้งก็เรียกตัวเองว่า เอออร์ลลิงกัส ซึ่งหมายถึง 'พลเมืองของเอออร์ล' จนกระทั่งถึงสมัยของกษัตริย์องค์ที่ 9 เฮล์ม แฮมเมอร์แฮนด์ โอรสของพระองค์สิ้นพระชนม์ไร้ผู้สืบทอด บัลลังก์โรฮันจึงตกไปสู่วงศ์ใกล้ชิด ได้แก่ เฟรอาลาฟ ฮิลเดอสัน ผู้เป็นหลาน และปกครองโรฮันต่อมาจนถึงปลายยุคที่สาม
เมื่อถึงยุคสมัยในเรื่องเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ เจ้าผู้ครองโรฮันมีนามว่า เธโอเดน บุตรชายของเขา เธโอเดร็ด เสียชีวิตในการรบ เธโอเดนมีหลานซึ่งเป็นลูกของน้องสาวอยู่สองคน คือ เอโอแมร์ และ เอโอวีน หลังเสร็จสิ้นสงครามแหวน เอโอแมร์ได้ขึ้นเป็นผู้ปกครองโรฮันสืบต่อไป
เมืองและสถานที่สำคัญในโรฮัน
แก้สถานที่สำคัญในโรฮันประกอบด้วย
- เอโดรัส
เอโดรัส (Edoras) เมืองหลวงและ ที่ประทับของกษัตริย์แห่งโรฮัน ตั้งอยู่ติดกับเทือกเขาขาว พรมแดนระหว่างโรฮันและกอนดอร์ เมืองตั้งอยู่บริเวณบนหุบเขาสีเขียว ที่เรียกว่า ฮาร์โรว์เดล (Harrowdale) สภาพของเมืองนั้นมีบ้านที่ทำด้วยไม้หลายหลัง ปลูกอยู่บนทางลาดของเนินเขาลงมา บนยอดเนินเป็นที่ตั้ง เมดูเซลด์ (Meduseld) พระราชวังสีทองของกษัตริย์โรฮัน ทางประตูเหนือของเมืองเอโดรัส เป็นสุสานของกษัตริย์ ซึ่งเป็นบรรพชนของโรฮัน 9 องค์ มาตั้งแต่เอออร์ล (Eorl) กษัตริย์องค์แรกของโรฮัน เป็นสถานที่ที่สวยงามปกคลุมไปด้วยหญ้าสีเขียวสดและดอกไม้สีขาว ซิมเบลมิเน
- เฮล์มสดีพ (ถ้ำผาเฮล์ม)
เฮล์มสดีพ (Helm's Deep) เป็นชื่อหุบเขาแห่งหนึ่งในเทือกเขาขาว และยังเป็นปราการสำคัญของโรฮัน ตั้งอยู่ทางตะวันตกของอาณาจักรโรฮัน ใกล้กับช่องแคบโรฮัน (Gap of Rohan) อันเป็นช่องแคบระหว่างเทือกเขามิสตี้ กับเทือกเขาขาว ปราการสร้างอยู่ในช่องหุบเขาแคบๆ และผาสูงชันที่อยู่ลึกเข้าไป มีกำแพงยาวสร้างปิดกั้นระหว่างหุบเขา ที่สุดปลายของกำแพงด้านหนึ่งเป็นที่ตั้งของ ป้อมฮอนเบิร์ก (Hornburg) ซึ่งไม่เคยมีทัพใดสามารถยึดป้อมนี้ได้
ในหุบเขาเป็นที่ตั้งของ อะกลารอนด์ ถ้ำใต้ขุนเขาอันแวววาว และเป็นชื่อดั้งเดิมของหุบเขานี้ด้วย เมื่อกอนดอร์ยกแผ่นดินคาเลนาร์ดอนให้แก่ชาวโรฮัน อะกลารอนด์ก็ถูกยกไปด้วย ชาวโรฮันเรียกชื่อหุบเขานี้ใหม่ว่า 'ซุทเบิร์ก' ซึ่งหมายถึง ป้อมใต้
ในรัชสมัยของกษัตริย์ เฮล์ม แฮมเมอร์แฮนด์ อาณาจักรโรฮันถูกโจมตีโดยพวกดันเลนดิง เอโดรัสถูกตียึดไปได้ พระองค์พาประชาชนอพยพลี้ภัยไปอยู่ในหุบเขาซุทเบิร์กแห่งนี้ เนื่องจากกษัตริย์เฮล์มมักเป่าแตรใหญ่ประจำองค์ก่อนออกศึก ในภายหลังป้อม 'ซุทเบิร์ก' จึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น 'ฮอร์นเบิร์ก' และชื่อหุบเขาถูกเรียกใหม่ตามพระนามของกษัตริย์เฮล์มว่า 'เฮล์มสดีพ'
- ดันแฮโร่ว์
ดันแฮโร่ว์ (Dunharrow) สถานที่หลบภัยอีกแห่งของโรฮัน และยังเป็นประตูสู่เส้นทางสายความตาย (Paths of the Dead) ด้วย ดันแฮโร่ว์ตั้งอยู่ในหุบเขาฮาร์โรว์เดลของเทือกเขาขาว เป็นที่บรรจบของภูเขาถึงสามลูก สภาพทั่วไปเป็นสถานที่สูงชัน หลายชั้น ปกคลุมไปด้วยหญ้าสีเขียว บนหุบเขานี้ยังมีป่าเล็กๆ เรียกว่า ดิมโฮลท์ (Dimholt) ซึ่งเป็นประตูสู่เส้นทางสายความตาย
ม้าของชาวโรฮัน
แก้ในบรรดาม้าสายพันธุ์ดีของชาวโรฮัน มีสายพันธุ์ที่ดีที่สุดอยู่สายหนึ่งชื่อว่า เมอารัส (Mearas) ซึ่งเชื่อกันว่าสืบสายมาจาก นาฮาร์ อาชาของเทพโอโรเม
ม้าตัวแรกในสายพันธุ์เมอารัส ที่เป็นที่รู้จักกันก็คือ เฟลารอฟ ตำนานกล่าวว่ามันเป็นม้าที่เฉลียวฉลาด มีอายุยืนนานเหมือนมนุษย์ และยังเข้าใจภาษามนุษย์ด้วย เฟลารอฟถูกจับได้โดยเลโอด์ บิดาของเอออร์ล แต่เมื่อพยายามจะจับมันใส่อาน เขาถูกมันเตะจนเสียชีวิต เอออร์ลจึงต่อสู้กับมันเพื่อแก้แค้น แต่เมื่อเขาชนะก็ไม่ได้เอาชีวิต เพียงให้เฟลารอฟยินยอมเป็นพาหนะให้แก่เขาในยามศึก ชื่อ 'เฟลารอฟ' เป็นชื่อที่เอออร์ลตั้งให้แก่มัน และเขาต้องขึ้นขี่มันโดยไม่ใช้อาน
เจ้าแห่งอาชาในตอนปลายยุคที่สามคือ ชาโดว์แฟกซ์ ซึ่งยินยอมเป็นพาหนะให้แก่แกนดัล์ฟ พ่อมดเทา สำหรับภารกิจในสงครามแหวน
อ้างอิง
แก้- ↑ คริสโตเฟอร์ โทลคีน. Unfinished Tales. เรื่องของคิริออนกับเอออร์ล และสัมพันธไมตรีระหว่างกอนดอร์กับโรฮัน