โรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา

โรงเรียนประจำจังหวัดของรัฐ

โรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา (อังกฤษ: Sawananan Wittaya School; ย่อ: ส.อ./SW) เป็นโรงเรียนรัฐบาลมัธยมศึกษาขนาดใหญ่พิเศษประจำจังหวัดสุโขทัย ในอำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุโขทัย เปิดทำการเรียนการสอนมาตั้งแต่ พ.ศ. 2438; 129 ปีที่แล้ว (2438)[1] เป็นโรงเรียนหลวงแห่งแรกของจังหวัดสวรรคโลกและเก่าแก่ที่สุดในจังหวัดสุโขทัย[2]

โรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา
Sawanananwittaya School
ที่ตั้ง
แผนที่
พิกัด17°17′45″N 99°50′24″E / 17.295951°N 99.839958°E / 17.295951; 99.839958
ข้อมูล
ชื่อเดิม
  • บัณฑิตสภา (2438-2442)
  • สวรรควิทยา (2442-2513)
ประเภท
ก่อตั้งพ.ศ. 2438; 129 ปีที่แล้ว (2438)
ผู้ก่อตั้งเจ้าพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์ (เชย กัลยาณมิตร) ผู้ริเริ่มการก่อตั้งโรงเรียนในมณฑลพิษณุโลก
สถานะเปิดทำการปกติ
โรงเรียนพี่น้องโรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา 2
หน่วยงานกำกับ
รหัส64022003
ผู้อำนวยการอนุชิต กมล (ตั้งแต่ปี 2566)
ครู/อาจารย์111 คน
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6
จำนวนนักเรียน2,399 คน (2566)
ระบบการศึกษาในระบบ
ภาษาที่ใช้เป็นสื่อการสอน
สี   น้ำเงิน - ชมพู
คำขวัญเรียนดี ประพฤติดี การงานดี (คำขวัญ) วิชาการเกริกไกร มีวินัยในตนเอง (อัตลักษณ์)
เพลง
  • มาร์ชลูกสวรรค์อนันต์
  • สวรรค์สามัคคี
เว็บไซต์http://www.sawananan.ac.th

ศาลาบัณฑิต (ศาลหลวงปู่)

บริเวณถนนหน้าโรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา

ประวัติโรงเรียน

แก้

ช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2411 - พ.ศ. 2453)

แก้

อำเภอสวรรคโลกเดิมที มีสถานะจังหวัด เป็นเมืองโท สวรรคโลก ภายใต้การปกครองของมณฑลพิษณุโลก ร่วมกับอีก 4 เมือง คือ เมืองพิษณุโลก เมืองพิไชย เมืองสุโขไทย และเมืองพิจิตร มีพระยาสุรสีห์วิสิษฐศักดิ์ (สมัยพระนามว่า พระยาศรีสุริยราชวรานุวัตร) เป็นสมุหเทศาภิบาล ได้บอกตั้งโรงเรียนมูลศึกษาเชลยศักดิ์ แบบเรียนหลวงในแต่ละเมืองของมณฑลพิษณุโลก โดยใน พ.ศ. 2438 ได้บอกให้ก่อตั้งโรงเรียนทั้งหมด 5 โรงตามเมือง ได้แก่

โดยโรงเรียนเมืองสวรรค์โลกย์ ได้ดำเนินการจัดตั้ง ก่อสร้างและเปิดการเรียนการสอนครั้งแรกใน พ.ศ. 2438 (ร.ศ.114) แล้วใช้ชื่อว่า โรงเรียนบัณฑิตสภา ตั้งอยู่ภายในเมืองสวรรคโลก มีหลวงศาสนนิเทศก์ เป็นอาจารย์คนแรกของโรงเรียน และมีพระมหาดไทย ผู้อุปการะ สถานที่ตั้งอยู่ในตำบลในเมือง กึ่งกลางระหว่างศาลจังหวัดสวรรคโลกและศาลากลางจังหวัดสวรรคโลก[3][4]

 
ตำแหน่งข้าราชการกระทรวงธรรมการ รัตนโกสินทร์ศก 115 (เน้นโรงเรียนเมืองสวรรค์โลกย์)

ตัวโรงเรียนเป็นเรือนมุงหญ้าคา ฝากก พื้นปูกระดาน จุนักเรียนประมาณ 50 คน สอนหนังสือแบบมูลศึกษาชั้นต่ำ คือ เรียนหนังสือมูลบรรพกิจ คัด เขียนลายมือ คำนวณเลข หลวงศาสนนิเทศก์ เป็นครูใหญ่ และพระครูอีก 6 รูป ได้แก่ พระวินัยธรจ่าง พระสมุห์น่วม พระมหาเจริญ พระใบฎีกาเชย พระแก้ว บัณฑดิษ และ พระชม

โรงเรียนได้ทำการเรียนการสอน 4-5 ปี จนต่อมามีการตัดสินใจที่จะย้ายที่ตั้งโรงเรียนบัณฑิตสภา ไปอยู่ ณ ที่ดินเหนือวัดสว่างอารมณ์วรวิหาร บริเวณริมแม่น้ำยม พระสีหะสงคราม ปลัดเมืองสวรรคโลก ในขณะนั้น ได้จัดการเรี่ยรายเงินจากข้าราชการและประชาชนเพื่อสร้างโรงเรียนบันฑิตสภาแห่งใหม่ พร้อมได้ขอรับพระราชทานนามโรงเรียนใหม่ จากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ไว้เป็นที่ระลึก โดยรวบรวมเงินได้ทั้งสิ้น 2,576 บาท โดยได้ใช้จ่ายในการปลูกสร้างอาคารทั้งหมด โรงเรียนได้สร้างเสร็จและเปิดในวันที่ 2 มีนาคม 2442 สร้างด้วยเครื่องไม้ ฝากระดาน มุงกระเบื้องอย่างมั่นคง กว้าง 11 เมตร ยาว 20 เมตร[5]

วันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2442 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระราชทานนามโรงเรียนว่า สวรรควิทยา โดยใช้นามของเมืองสวรรคโลกเป็นนามมงคล และโรงเรียนก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น โรงเรียนสวรรควิทยา นับเป็นโรงเรียนแรกในภาคเหนือของสยาม ที่ได้รับชื่อพระราชทานจากพระมหากษัตริย์ไทย พร้อมกับถวายเป็นโรงเรียนหลวง

 
พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (หอสมุด 120 ปี)

ช่วงสมัยรัชกาลที่ 6 (พ.ศ. 2453 - พ.ศ. 2468)

แก้

หลัง พ.ศ. 2459 คำว่า "จังหวัด" ได้กลายเป็นคำที่เรียกหน่วยการปกครองระดับต่ำกว่ามณฑลแทนคำว่า "เมือง" เพื่อแยกความกำกวมจากคำว่าเมืองที่ใช้เรียกที่ตั้งศูนย์กลางการปกครองของจังหวัด (อำเภอเมือง) อีกทั้ง ทางราชการ ได้ใช้ชื่อชื่อจังหวัดในชื่อโรงเรียนหลวง เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ ทำให้โรงเรียนสวรรควิทยามีชื่อทางการว่า โรงเรียนชายประจำจังหวัดสวรรคโลก “สวรรควิทยา”

ช่วงเวลาปี พ.ศ. 2454 - 2461 ภายหลังจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงก่อตั้งกิจการเสือป่าสำหรับเด็กชาย ที่ทรงพระราชทานนามว่า ลูกเสือ ในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2454 กิจการลูกเสือได้กระจายไปในทั่วราชอาณาจักร รวมไปถึงมณฑลพิษณุโลก ได้มีการตั้งกองลูกเสือประจำโรงเรียนแต่ละแห่งในมณฑลพิษณุโลก โดยโรงเรียนสวรรควิทยาเป็นที่ตั้งของกองลูกเสือลำดับที่ 4 ของมณฑล ใช้ชื่อว่า กองลูกเสือมณฑลพิษณุโลกที่ 4 (สวรรควิทยา) โดยต่อมาในปี 2462 ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น กองลูกเสือมณฑลพิษณุโลกที่ 4 (ประจำจังหวัดสวรรคโลก)[6][7]

ก่อตั้งโรงเรียนสตรีหลวง ประจำจังหวัดสวรรคโลก

แก้

พ.ศ. 2465 พระยาสุรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสวรรคโลก ได้มีการจัดตั้งโรงเรียนสตรีประจำจังหวัดสวรรคโลกขึ้นมา โดยใช้ชื่อว่า โรงเรียนสตรีประจำจังหวัดสวรรคโลก "อนันตนารี" เปินทำการสอนเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2465 ในความควบคุมของพระยาสุรินทร์ และมีนางสาวเนื่อง บิณฑดิษฐ์ เป็นครูใหญ่คนแรกได้ทำการสอนอยู่ เดิมทีใช้อาคารเรียนเดิมอาศัยพลับพลา(ปัจจุบันคือที่ตั้งของสถานีตำรวจภูธรอำเภอสวรรคโลก) จนกระทั่งปลาย พ.ศ. 2466 จึงได้ย้ายไปเรียนรวมกับโรงเรียนชายประจำจังหวัดสวรรคโลก “สวรรควิทยา”

พ.ศ. 2467 ได้ก่อสร้างอาคารขึ้นใหม่ในบริเวณวัดสว่างอารมณ์วรวิหารและแยกโรงเรียนสตรี ออกจากโรงเรียนชายมาอยู่ ณ อาคารที่ได้ก่อสร้างใหม่ถาวร ปัจจุบันคือที่ตั้งของ เมรุของวัดสว่างอารมณ์

ช่วงสมัยรัชกาลที่ 7 (พ.ศ. 2468 - พ.ศ. 2478)

แก้

พ.ศ. 2475 โรงเรียนได้มีจำนวนนักเรียนและวิชาที่สอนมากขึ้น ประกอบกับโรงเรียนตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำยม ทำให้น้ำเซาะฝั่งตลิ่งพัง ทำให้ได้ย้ายที่ตั้งโรงเรียนมาตั้งอยู่ข้างหลังวัดสว่างอารมณ์วรวิหาร[8]

เวลาผ่านไปทั้งสองโรงเรียนสถานะเริ่มกลับมาดีขึ้นอีกครั้ง พ.ศ. 2475 โรงเรียนสตรีประจำจังหวัดสวรรคโลก “อนันตนารี” มีจำนวนนักเรียนที่สอบไล่ระดับมัธยมปีที่ 2 จำนวนมากพอที่จะขยายตั้งชั้นมัธยมปีที่ 3 จึงได้ส่งเรื่องไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมการ เรื่องจัดตั้งชั้นมัธยมปีที่ 3 และได้รับอนุญาติขยายชั้นเรียนปีที่ 3 ในปีเดียวกัน[9]

ช่วงสมัยรัชกาลที่ 8 (พ.ศ. 2478 - พ.ศ. 2489)

แก้

พ.ศ. 2480 โรงเรียนอนันตนารีได้ย้ายที่ตั้งไปบริเวณที่ดินท้ายจวนพระยาสวรรคโลก(มั่ง วิชิตนาค) ได้ตั้งอาคารขึ้นแห่งใหม่และใช้อาคารแห่งนั้นจัดการเรียนการสอนเรื่อยมา

 
อาคารโรงเรียนอนันตนารี ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านอำเภอสวรรคโลก

ภายหลังการเปลี่ยนแปลงชื่อจังหวัด

แก้

วันที่ 17 เมษายน 2482 ราชการได้มีการเปลี่ยนแปลงชื่อจังหวัดสวรรคโลก เป็นจังหวัดสุโขทัย หลังจากการรวมทั้งสองจังหวัดในพ.ศ. 2474 เป็นวันที่จังหวัดสวรรคโลกหมดสถานะภาพจังหวัด โรงเรียนสวรรควิทยา และ โรงเรียนอนันตนารี ก็ได้เปลี่ยนสถานะเป็น โรงเรียนชายประจำอำเภอสวรรคโลก “สวรรควิทยา” และ โรงเรียนสตรีประจำอำเภอสวรรคโลก “อนันตนารี” [10]

ใน พ.ศ. 2484 โรงเรียนสวรรควิทยามีจำนวนนักเรียนเพิ่มมากขึ้น ในสมัยนายเจริญ จาดศรี เป็นครูใหญ่ โรงเรียนมีนักเรียนเกือบ 300 คน ทำให้โรงเรียนมีจำนวนนักเรียนที่ล้นสถานที่มาก อีกทั้ง โต๊ะครู โต๊ะนักเรียนก็มีไม่พอใช้ จากรายงานกล่าวว่า เด็กนักเรียนสวรรควิทยานับว่าเป็นเด็กเรียบร้อยเป็นส่วนมาก ถึงแม้จะมีบางอย่างผิดระเบียบ เช่น ผมยาวเกินกำหนด และไม่สวมรองเท้ากันส่วนมาก

ส่วนด้าน โรงเรียนอนันตนารี มีจำนวนและสภาพแวดล้อมที่ดี แต่มี โรงเรียนราษฎร์ “อนันตศึกษา” (โรงเรียนเอกชน) ซึ่งมีนางผัน แสนโกศิก เป็นครูใหญ่ของโรงเรียนสตรีประจำอำเภอสวรรคโลกและเจ้าของผู้จัดการ โรงเรียนราษฎร์อนันตศึกษาเข้ามารวมอยู่ในโรงเรียน ทำให้ห้องครูมีจำนวนไม่เพียงพอ โดย ข้าหลวงตรวจการแนะนำให้แยกโรงเรียนราษฎร์อนันตศึกษาออกไปเป็นเอกเทศ[11]

ในปี พ.ศ. 2486 กระทรวงศึกษาธิการ ได้อนุญาติให้ โรงเรียนราษฎร์ “อนันตศึกษา” ให้ใช้อักษรย่อ: ร-ส.ท. 3[12]

 
รายชื่อโรงเรียนราษฎร์ในจังหวัดสุโขทัย พ.ศ. 2486

รายชื่อโรงเรียนราษฎร์ในจังหวัดสุโขทัย พ.ศ. 2486

ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

แก้

ช่วงระหว่าง พ.ศ. 2485-2488 ในช่วงที่ประเทศไทยเข้าร่วมกับฝ่ายจักรวรรดิญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นได้เข้ามายังอำเภอสวรรคโลก โดยทางสถานีรถไฟสวรรคโลก เพื่อใช้เป็นเส้นทางเดินทัพ ผ่านเมืองเก่าสุโขทัย บ้านด่านลานหอย ตาก แม่สอด เพื่อจะเข้าไปตีเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมาร์[13] ซึ่งในขณะนั้นเป็นส่วนหนึ่งของบริติชราช ทหารญี่ปุ่นได้เข้ามาพักภายในอำเภอสวรรคโลกเป็นจำนวนมาก รวมถึงภายในโรงเรียนประจำอำเภอสวรรคโลก “สวรรควิทยา” จนทำให้ทางโรงเรียนต้องหยุดการเรียนการสอน[14]

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2

แก้

ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ใน พ.ศ. 2488 ครบรอบ 50ปี การก่อตั้งโรงเรียนสวรรควิทยา ในสมัยนายเจริญ ฐิตาภา วิทยศักดิ์ เป็นครูใหญ่โรงเรียน ได้มีการก่อสร้างอาคารแห่งใหม่เพิ่มขึ้น รวมไปถึงการจัดตั้งหอวิทยาศาสตร์ขึ้นมาสำเร็จ อีกด้านนึง ช่วงประมาณหรือก่อนปี พ.ศ. 2492 โรงเรียนราษฎร์ “อนันตศึกษา” ถูกยุบและยุติการเรียนการสอน

ปี พ.ศ. 2495 กระทรวงศึกษาธิการได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนทั่วประเทศโดยตัด “ประจำจังหวัด” และ “อำเภอ” ออก ทำให้ทั้งสองโรงเรียนเปลี่ยนเป็น โรงเรียนสวรรคโลก “สวรรควิทยา” และ โรงเรียนสตรีสวรรคโลก “อนันตนารี [15]

 
รายชื่อโณงเรียนรัฐบาล จังหวัดสุโขทัย ปีพ.ศ. 2495

รายชื่อโรงเรียนรัฐบาล จังหวัดสุโขทัย ปีพ.ศ. 2495

ช่วงสมัยรัชกาลที่ 9 (พ.ศ. 2489 - พ.ศ. 2559)

แก้

เมื่อปี พ.ศ. 2493 ท่านผู้หญิงละเอียด พิบูลสงคราม ประธานสำนักวัฒนธรรมฝ่ายหญิง ได้มาราชการที่อำเภอสวรรคโลก เพื่อมาเปิดสโมสรสำนักวัฒนธรรมฝ่ายหญิง สวรรคโลก โดยในขณะนั้นได้รับหนังสือจากนายเจริญ ฐิตาภา วิทยศักดิ์ ครูใหญ่โรงเรียนสวรรควิทยา ชี้แจงถึงความจำเป็นที่จะต้องรีบสร้างอาคารใหม่ เพื่อการศึกษาของเยาวชน โดยในขณะนั้นมีนักเรียนทั้งสิ้น 283 คน

ผ่านมา 6 ปี ในปี พ.ศ. 2499 กระทรวงมหาดไทยได้รับและส่งเรื่องเข้า เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพราะในขณะนั้นกระทรวงศึกษาธิการยังไม่มีโอกาสจะสร้างโรงเรียนได้ โดยยังไร้การตอบรับหลังจากรายงานขอเงินไปยังกระทรวงศึกษาธิการ อีกทั้งในขณะนั้นทางโรงเรียนได้ทำสัญญาซื้อที่ดินบริเวณติดถนนจรดวิถีถ่อง ตำบลย่านยาว และในขณะเดียวกัน จำนวนนักเรียนก็เพิ่มขึ้นเป็น 513 คน กระทรวงมหาดไทยจึงมีคำสั่ง ขอเงินค่าจำหน่าย ก.ศ.ส เพื่ออุดหนุนในการนี้

ภายหลังจากการซื้อที่ดินใหม่ โรงเรียนได้มีการสร้างอาคาร 1 (สีขาว) หอประชุม(ปัจจุบัน คือ อาคารเกียรติยศ) และหอวิทยาศาสตร์ โดยรื้อมาจากหอวิทยาศาสตร์เก่า (ปัจจุบันคือ ที่อาคาร 2 (สีเขียว)) ในพื้นที่บริเวณนี้และได้ย้ายนักเรียนมาเรียนที่แห่งใหม่ในปี พ.ศ. 2509

รวมโรงเรียนเปลี่ยนเป็นสหศึกษา

แก้

ในวันที่ 23 เมษายน 2513 กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการได้มีประกาศรวม โรงเรียนสวรรควิทยา และโรงเรียนอนันตนารี เป็นโรงเรียนสหศึกษาเพียงแห่งเดียว ใช้ชื่อใหม่ว่า สวรรค์อนันต์วิทยา เป็นการรวมชื่อสองโรงเรียนเข้าด้วยกัน โดยย้ายนักเรียนหญิงจากโรงเรียนอนันตนารีไปเรียนรวมกับนักเรียนชายโรงเรียนสวรรควิทยา โดยใช้ที่ตั้งของโรงเรียนสวรรควิทยา ช่วงแรกเปิดการสอนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ต่อมา พ.ศ. 2515 ได้รับอนุมัติให้เปิดเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยอักษรย่อของโรงเรียนคือ ส.อ. และก็ใช้มาจนถึงทุกวันนี้[16]

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2519 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมด้วย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินจังหวัดสุโขทัย เพื่อพระราชทานธงลูกเสือชาวบ้านจังหวัดสุโขทัย ณ โรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา โดยทางโรงเรียนได้สร้างพลับพลารับเสด็จไว้ตรงสนามหน้าโรงเรียน[17] [18]

พ.ศ. 2559 โรงเรียนได้สร้าง หอประชุมขึ้นมาแห่งใหม่ เพื่อใช้ในการประชุมและจัดกิจกรรมของโรงเรียน แทนที่โรงยิม ซึ่งมีอากาศที่ร้อนและอบอ้าว และใช้ชื่อ "หอประชุม 123 ปี" เนื่องในโอกาสที่โรงเรียนครบรอบ 123 ปีของการก่อตั้ง

ช่วงสมัยรัชกาลที่ 10 (พ.ศ. 2559 - ปัจจุบัน)

แก้

วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2561 โรงเรียนได้เปิด "หอสมุด 120 ปี วิถีแห่งปัญญา" สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสที่โรงเรียนครบรอบ 120 ปี นับตั้งแต่การก่อตั้งตั้งแต่ พ.ศ. 2438 โดยมาแทนที่ตึกห้องสมุดหลังเก่า (ปัจจุบันคือ ห้องประชุมเกียรติยศ) ก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดใช้งานเมื่อ พ.ศ. 2561 โดยมีนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี มาเป็นประธานพิธีเปิดหอสมุด[19]

พ.ศ. 2567 โรงเรียนได้ครบรอบ 125 ปี "สวรรควิทยา" นามพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

 
โรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา ข้างสนามหน้าโรงเรียน

ข้อมูลทั่วไป

แก้

สัญลักษณ์ประจำ

แก้

ดอกเข็มชมพู

แก้

เป็นดอกไม้เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่มีวันพระราชสมภพตรงกับวันอังคาร โดยพระองค์ท่านทรงมีพระมหากรุณาธิคุณหลายอย่างที่ได้กระทำเพื่อชาวเมืองสวรรคโลก ไม่ว่าจะเป็นการพระราชทานชื่อ โรงเรียนสวรรควิทยา, การอนุมัติงบประมาณให้สร้างรถไฟหลวงเข้ามาถึงจังหวัดสวรรคโลก ทำให้โรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา ได้กำหนดให้ดอกเข็มชมพู เป็นดอกไม้ประจำโรงเรียน เพื่อสืบสานความจงรักภักดีที่พสกนิกรชาวสวรรคโลกมีต่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ต้นคูน

แก้

เป็นต้นไม้ประจำโรงเรียน เป็นต้นไม้ดั้งเดิมอยู่ในที่ดินปัจจุบันของโรงเรียน โดยใช้เป็นสัญลักษณ์ของโรงเรียน

 
ดอกคูน บริเวณโดยรอบโรงเรียน

น้ำเงิน - ชมพู

แก้

น้ำเงินและชมเป็นสีประจำโรงเรียน เพื่อระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณหลายอย่างที่ได้กระทำเพื่อชาวเมืองสวรรคโลก โดย

  • สีน้ำเงิน คือ สีของพระมหากษัตริย์
  • สีชมพู คือ สีวันอังคาร วันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

วิชาการ

แก้

กลุ่มสาระการเรียนรู้

แก้

ปัจจุบันโรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา มีกลุ่มสาระการเรียนรู้ทั้งหมด 8 กลุ่มสาระฯ ประกอบไปด้วย[20]

  • กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มตั้งอยู่ในตึกที่ 2 ชั้นที่ 2 (หมวดวิทย์ฯ) และ ตึกที่ 4 ชั้นที่ 1 ฝั่งซ้าย (หมวดคอมพิวเตอร์)
  • กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กลุ่มตั้งอยู่ในตึกที่ 4 ชั้นที่ 2 ฝั่งขวา
  • กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตั้งอยู่ในตึกที่ 3 ชั้นที่ 2 ฝั่งขวา
  • กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ตั้งอยู่ในตึกที่ 3 ชั้นที่ 2 ฝั่งซ้าย
  • กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ตั้งอยู่ตึกที่ 6 ชั้นที่ 2 ฝั่งซ้าย
  • กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ตั้งอยู่ตึกที่ 6 ฝั่งซ้าย (หมวดนาฎศิลป์, หมวดดนตรี) และ ตึกศิลปะ (หมวดศิลปะ)
  • กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ตั้งอยู่ตึกการงานอาชีพ
  • กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพละศึกษา ตั้งอยู่ที่ตึกที่ 6 ชั้นที่ 1 ฝั่งซ้าย

แผนการเรียน

แก้

ปัจจุบันมีการเปิดการสอนตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6 โดยแบ่งเป็นสองระดับคือ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงปีที่ 3 และ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ถึงปีที่ 6[21]

แผนการเรียน (ก่อนปีการศึกษา 2568)
มัธยมศึกษาตอนต้น
ประเภท พิเศษ ปกติ
แผนการเรียน พิเศษมาตรฐานโอลิมปิก ทั่วไป
เลขห้องเรียน O1 O2 1 2 3 4 5 6 7 8
จำนวนรับ 72 คน 320 คน
รวม 392 คน
มัธยมศึกษาตอนปลาย
ประเภท พิเศษ ปกติ
แผนการเรียน พิเศษมาตรฐานโอลิมปิก วิทย์-คณิต อังกฤษ-คณิต ศิลป์-อังกฤษ ศิลป์-ภาษา ศิลป์-ทั่วไป
Science-Olympic Science-Math English-Math English Class Languages Class General
ภาษาจีน-ภาษาญี่ปุ่น

-ภาษาเกาหลี

ตัวย่อ O MS1 MS2 MS3 ME1 ME2 E1 E2 L G
เลขห้องเรียน O1 1 2 3 4 5 6 7 8 9
จำนวนรับ โรงเรียนเดิม(โควต้า) 36 คน 96 คน 64 คน 64 คน 32 คน 32 คน
สอบเข้า 24 คน 16 คน 16 คน 8 คน 10 คน
รวม 120 คน 80 คน 80 คน 40 คน 42 คน
398 คน


ในปีการศึกษา 2568 ทางโรงเรียนได้มีการเพิ่มสายการเรียนเพิ่มอีก 4 สายในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ทำให้มีแผนการเรียนรวมทั้งสิ้น 9 สายและได้ปรับปุรงแผนการเรียนเดิม เพื่อให้ตอบโจทย์แก่นักเรียนในยุคปัจจุบัน[22]

แผนการเรียน (หลังปีการศึกษา 2568)
มัธยมศึกษาตอนต้น
ประเภท พิเศษ ปกติ
แผนการเรียน พิเศษมาตรฐานโอลิมปิก ทั่วไป
เลขห้องเรียน O1 O2 1 2 3 4 5 6 7 8
จำนวนรับ 72 คน 320 คน
รวม 392 คน
มัธยมศึกษาตอนปลาย
ประเภท พิเศษ ปกติ
แผนการเรียน พิเศษมาตรฐานโอลิมปิก วิทย์-คณิต

(วิทยาศาสตร์ สุขภาพ)

วิทย์-คณิต

(วิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์)

วิทย์-คณิต

(เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์)

ศิลป์-คำนวณ ศิลป์-อังกฤษ ศิลป์-นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ศิลป์-ภาษา

(ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น)

ศิลป์-ทั่วไป
Science-Olympic Science-Math (health sciences) Science-Math

(Engineering and Architecture)

Science-Math

(AI and Robotics Technology)

Math Class English Class Law Political Class Languages Class General
ตัวย่อ O MS1 MS2 MS3 ME1 ME2 E1 รอยืนยัน L G
เลขห้องเรียน O1 1 2 3 4 5 6 7 8 9
จำนวนรับ โรงเรียนเดิม(โควต้า) 36 คน 32 คน 32 คน 32 คน 64 คน 32 คน 32 คน 32 คน 32 คน
สอบเข้า 8 คน 8 คน 8 คน 16 คน 8 คน 8 คน 8 คน 8 คน
รวม 40 คน 40 คน 40 คน 80 คน 40 คน 40 คน 40 คน 40 คน
396 คน

หมายเหตุ ศิลป์-ภาษาต่างประเทศ (ภาษาเกาหลี) ได้ถูกยกเลิก

ทำเนียบผู้บริหาร

แก้
ทำเนียบผู้บริหารโรงเรียนบัณฑิตสภาและโรงเรียนสวรรควิทยา
โรงเรียนบัณฑิตสภา โรงเรียนสวรรควิทยา(ต่อ)
ลำดับที่ ชื่อ ระยะเวลาดำรงตำแหน่ง รูปภาพ ลำดับที่ ชื่อ ระยะเวลาดำรงตำแหน่ง รูปภาพ
1 หลวงศาสนนิเทศก์ 2438-2440 17 นายพจน์ จิตต์ภักดี 2506-2509
2 พระวินัยธรจ่าง 18 นายฉลวย บุญครอบ 2509-2513  
3 พระสมุห์น่วม โรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา
4 พระมหาเจริญ 18(ต่อ) นายฉลวย บุญครอบ 2513-2526  
5 พระใบฎีกาเชย 19 นายเขจร เปรมจิตต์ 2526-2529  
6 พระแก้ว ปิณฑดิษ 20 นายปรีชา จาดศรี 2529-2539  
7 พระชม 21 นายไพวัน คงกระพัน 2539-2540  
8 นายแย้ม สีตะสุต 2440-2442   22 นายไพรัตน์ ใยดี 2540-2542  
โรงเรียนสวรรควิทยา
8(ต่อ) นายแย้ม สีตะสุด 2442-2461   23 นายอุทัย อินทนกูล 2542-2547  
9 นายจำปา เวชบุตร 2461-2463 24 นายสมศักดิ์ จงรู้ธรรม 2542-2547  
10 นายแตงกวย บูรณะเกียรติ 2463-2467 25 นายประมวล ลอยฟ้า 2547-2549  
11 นายเหรียญ วงศ์มณี 2467-2471 26 นายจำลอง คุรุบรรเจิดจิต 2549-2551  
12 นายสอด กล่ำประเสริฐ 2471-2475 27 นายถวิล หิรัญศรี 2551-2556  
13 นายด้าย บูรณะกร 2475-2479   28 นายสมชาย ธรรมปรีชา 2556-2561  
14 นายงาม สีตะธาน 2479-2482 29 นายถาวร ปรากฎวงษ์ 2561-2563
15 นายเจริญ ฐิตาภา วิทยศักดิ์ 2482-2494   30 นางสาวจันทร์เพ็ญ ทรัพย์ประชา 2563-2566
16 นายสุด สุวรรณาคินทร์ 2494-2506 31 นายอนุชิต กมล 2566-ปัจจุบัน
โรงเรียนอนันตนารี
ลำดับที่ ชื่อ ระยะเวลาดำรงตำแหน่ง รูปภาพ
1 นางสาวเนื่อง ปิณฑดิษฐ์ 2465-2480
2 นางสาวผัน แสนโกศิก 2480-2486
3 นางสาวเจียมจิตต์ บุญญานุรักษ์ 2486-2491
4 นางทวีศิริ ง้าวสุวรรณ 2491-2594
5 นางเฉลิมรักษณ์ บุญเกตุ 2594-2502
6 นางนันทิยา งามขำ 2549-2502
7 นางลำดวน กำปั่นทอง 2502-2513

พื้นที่เเละอาคารสถานที่

แก้

โรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา ตั้งอยู่เลขที่ 87 หมู่ 3 ถนนจรดวิถีถ่อง ตำบลย่านยาว อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย บนเนื้อที่ที่ครอบครองทั้งสิ้น 134 ไร่ 2 งาน 65 ตารางวา ประกอบด้วย

  • โรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา จำนวน 75 ไร่ 1 งาน 41 ตารางวา
  • พื้นที่ของสมาคมผู้ปกครองและครูฯและสมาคมนักเรียนเก่า จำนวน 53 ไร่ 1 งาน 98 ตารางวา
  • พื้นที่บ้านพักครู (โรงเรียนอนันตนารี) จำนวน 3 ไร่ 3 งาน 96 ตารางวา
  • พื้นที่บ้านพักผู้บริหารจำนวน 1 ไร่ 3 งาน 30 ตารางวา

มีอาคารเรียนเเละสถานที่สำคัญได้เเก่

อาคารเรียน

แก้
ภาพถ่าย ลำดับ สี รายละเอียด[23] ที่ตั้งของ
หน่วยงาน หมวดสาระ ห้องประจำชั้น
 
1 ขาว เป็นตึกเรียนหลักสร้างเมื่อปี 2509 พร้อมกับที่โรงเรียนสวรรควิทยาย้ายมาตั้งในบริเวณนี้
  • ห้องฝ่ายบริหารงานวิชาการ
  • ห้องฝ่ายบริหารงบประมาณ
  • ห้องฝ่ายบริหารงานบุคคล
  • ห้องกลุ่มงานประชาสัมพันธ์
-
  • ห้องเรียนพิเศษวิทย์-โอลิมปิก (O1/O2) ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
  2 เขียว สร้างในปี 2514 เป็นตึกเรียนหลักสร้างเป็นลำดับที่ 2 ของชุดอาคารเรียนหลัก
  • ห้องเรียน วิทยาศาสตร์
  • ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์
  • กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (หมวดวิทย์ฯ)
-
  3 ชมพู สร้างในปี 2522

เป็นตึกเรียนหลักสร้างเป็นลำดับที่ 3 ของชุดอาคารเรียนหลัก

  • ห้องปฏิบัติการ HCEC
  • ห้องฝ่ายบริหารงานทั่วไป
  • ห้องผู้อำนวยการ
  • กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
  • กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
  • ห้องเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
  4 ฟ้า สร้างในปี 2526

เป็นตึกเรียนหลักสร้างเป็นลำดับที่ 4 ของชุดอาคารเรียนหลัก

  • ห้องปฏิบัติคอมพิวเตอร์
  • กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
  • กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (หมวดคอมพิวเตอร์)
  • ห้องเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 (ห้อง 1 - 5)
  • ห้องเรียนพิเศษวิทย์-โอลิมปิก (O1) ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
  5 ส้ม สร้างในปี 2543 เป็นตึกเรียนหลักสร้างเป็นลำดับที่ 5 และเป็นอาคารที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดของชุดอาคารเรียนหลัก
  • ห้องพยาบาล
  • ห้องโสตฯ
  • ห้องพักครู ระดับมัธยมมศึกษาตอนต้น
-
  • ห้องเรียนชั้นชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น (ม.1-ม.2-ม.3)
 
ตึกที่ 6 (สีม่วง)
6 ม่วง สร้างในปี 2548

เป็นตึกเรียนหลักสร้างเป็นลำดับที่ 6 และเป็นอาคารที่มีล่าสุดของชุดอาคารเรียนหลักและเป็นอาคารเรียนที่ไกลที่สุดในโรงเรียน

  • ห้องนาฏศิลป์
  • ห้องดนตรีไทย
  • กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
  • กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ (หมวดดนตรี-นาฏศิลป์)
  • ห้องเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
  • ห้องเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 (ห้อง 6 - 9)
อาคารเรียนอื่น ๆ
ภาพถ่าย ตึก ที่ตั้งของ หมวดสาระ
  อาคารสอนวิชาหมวดศิลปะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ(หมวดศิลปะ) กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ(หมวดศิลปะ)
กลุ่มอาคารอุตสาหกรรม เกษตรกรรม คหกรรม สัตวศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ

อาคารอื่น ๆ

แก้
ภาพถ่าย ตึก รายละเอียด
 
ภาพหอสมุด 120ปี วิถีแห่งปัญญา โดยมีพลับพลารับเสด็จตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าหอสมุด
หอสมุด 120 ปี วิถีแห่งปัญญา สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสที่โรงเรียนครบรอบ 120 ปี นับตั้งแต่การก่อตั้งตั้งแต่ พ.ศ. 2438 โดยมาแทนที่ตึกห้องสมุดหลังเก่า (ปัจจุบันคือ ห้องประชุมเกียรติยศ) ก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดใช้งานเมื่อ พ.ศ. 2561 โดยมีนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี มาเป็นประธานพิธีเปิดหอสมุด ในวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2561[19]
 
หอประชุม 123 ปี โรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา
หอประชุม 123 ปี สร้างในปี 2559 เพื่อใช้ในการประชุมและจัดกิจกรรมของโรงเรียน แทนที่โรงยิม ซึ่งมีอากาศที่ร้อนและอบอ้าว และใช้ชื่อ "หอประชุม 123 ปี" เนื่องในโอกาสที่โรงเรียนครบรอบ 123 ปีของการก่อตั้ง
ห้องประชุมเกียรติยศ สร้างเมื่อปี 2509 เป็นที่จัดประชุมของโรงเรียนขนาดเล็ก เดิมทีคือ ห้องสมุดเก่าของโรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา จนกระทั่งการก่อสร้างหอสมุด 120 ปี วิถีแห่งปัญญา และได้เปลี่ยนตึกเป็นห้องประชุมเกียรติยศ
โรงอาหาร สร้างในปี 2514 เป็นอาคารจำหน่ายอาหารและที่ตั้งร้านค้าสวัสดิการของโรงเรียน
อาคารอเนกประสงค์ สร้างในปี 2530 เดิมทีใช้เป็นอาคารสอนและแข่งกีฬา และเป็นที่มอบประกาศนียบัตรให้แก่นักเรียนที่จบการศึกษา จนกระทั่งการก่อสร้างโดมอเนกประสงค์และหอประชุม 123 ปี ปัจจุบันใช้เป็นที่แข่งกีฬาภายในร่ม
ห้อง To Be Number One

สถานที่อื่น ๆ

แก้
รูป สถานที่ รายละเอียด
 
ศาลาบัณฑิต (ศาลหลวงปู่) โรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา
ศาลาบัณฑิต สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึง พระสวรรค์วรนายก อดีตเจ้าคณะจังหวัดสวรรคโลก ปัจจุบันเป็นที่เคารพนับถือเเละสักการะของครูเเละนักเรียนโรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา
  พลับพลารับเสด็จ[17] [18] สร้างขึ้นเพื่อใช้รับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พร้อมด้วย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานธงลูกเสือชาวบ้านจังหวัดสุโขทัย ณ โรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2519
  สวนป่าองค์พระ
 
หอนาฬิกา บริเวณสี่แยกตึกที่ 5
หอนาฬิกา สร้างบริเวณแยกอาคาร เพื่อระลึกถึงอดีตวงเวียนหอนาฬิกาหน้าสถานีรถไฟสวรรคโลก ในสมัยที่อำเภอสวรรคโลก มีสถานะเป็นจังหวัดสวรรคโลก
  พระบรมรูป

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6)

สร้างขึ้นเพื่อใช้ในงานกิจการลูกเสือของโรงเรียน โดยศิษย์เก่าโรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา รุ่น 81
โดมอเนกประสงค์
ศูนย์วัฒนธรรม
ลานหน้าห้องประชุมเกียรติยศ

โรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา 2

แก้

เป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาในอำเภอสวรรคโลก เกิดจากการประชุมหารือกับสภาตำบลคลองยาง ใน พ.ศ. 2533 เรื่องจัดตั้งโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาสนองนโยบายกรมสามัญศึกษา ต่อมา พ.ศ. 2534 โรงเรียนได้เปิดทำการเรียนการสอนโดยเป็นโรงเรียนสาขาของโรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา ตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2534 มีครู-อาจารย์จากโรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยาเป็นผู้สอน ใช้อาคารเรียนชั่วคราวและอาคารเรียนเกษตรโรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา เป็นสถานศึกษา

พ.ศ. 2536 กรมสามัญศึกษา ได้ประกาศจัดตั้งเป็นโรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา 2 ลงวันที่ 3 มีนาคม 2536 แยกออกจากการเป็นโรงเรียนสาขาของโรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา เริ่มแรกยังคงใช้โรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา จัดการเรียนการสอน ต่อมาได้ย้ายไปตั้งอยู่ที่ ตำบลคลองยาง อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย[24]             

ศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียง

แก้

โรงเรียนสวรรควิทยา

แก้

โรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา

แก้
  • พลตำรวจเอก นเรศ นันทโชติ: อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1
  • นายสามารถ ลอยฟ้า: อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง, ตาก และจันทบุรี
  • พลเอก พนม จีนะวิจารณะ: อดีตผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ เจ้ากรมการรักษาดินแดน (ถึงแก่กรรม)
  • สมชาติ ลิมปะพันธ์ุ: นายกเทศมนตรีเมืองสวรรคโลก

อ้างอิง

แก้
  1. ผู้บริหารโรงเรียนใน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุโขทัย
  2. "สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุโขทัย ข้อมูลพื้นฐานโรงเรียน". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-06-08. สืบค้นเมื่อ 2024-05-17.
  3. ราชกิจจานุเบจศา ตำแหน่งข้าราชการกระทรวงธรรมการ รัตนโกสินทร์ศก ๑๑๕
  4. ราชกิจจานุเบกษา รายงานข้าหลวงเทศาภิบาล มณฑลพิษณุโลก ที่ ๔๗, ๙๗๓
  5. หอจดหมายเหตุเชียงใหม่ : รายงานศาลาว่าการมหาดไทย วันที่ 7 มีนาคม 2442
  6. พระราชกำหนดเครื่องแต่งตัวเสือป่าและลูกเสือ พระพุทธศักราช ๒๔๕๗
  7. แจ้งความสภากรรมการกลางจัดการลูกเสือ เรื่อง เล่นละครพูดเก็บเงินบำรุงกองลูกเสือมณฑลพิศณุโลก
  8. ประวัติโรงเรียนสวรรควิทยา และ โรงเรียนอนันตนารี (จาก สวรรค์อนันต์วิทยา 120ปี วิถีแห่งปัญญา)
  9. หอจดหมายเหตุ ศธ51.11/80 มณฑลพิษณุโลกบอกมาว่าได้อนุญาตให้เปิดชั้นมัธยมปีที่ 3 ขั้นที่โรงเรียนสตรีประจำจังหวัดสวรรคโลก
  10. "พระราชกฤษฎีกา เปลี่ยนนามจังหวัดและอำเภอบางแห่ง พุทธศักราช ๒๔๘๒" (PDF). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 2008-04-09. สืบค้นเมื่อ 2024-08-31.
  11. หอจดหมายเหตุ : ขุนพจนกิจประสาน ข้าหลวงตรวจการเสนอรายงานตรวจราชการจังหวัดกำแพงเพชร ตาก นครสวรรค์ น่าน พิจิตร เพชรบูรณ์ และสุโขทัย
  12. ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับที่ ๔) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบนักเรียน พุทธศักราช ๒๔๘๒
  13. นายสมชาย เดือนเพ็ญ รองปลัดเทศบาลตำบลในเมือง นักประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และผู้ทรงคุณวุฒิกลุ่มจังหวัดมรดกโลกทางวัฒนธรรม จ.สุโขทัย กล่าวในรายงานไทยโพสต์ "พบอุโมงค์สุดซับซ้อนในถ้ำสุโขทัย ชาวบ้านลือมานาน ทหารญี่ปุ่นซ่อนทองคำแท่ง 14 ตัน"
  14. เจริญ ฐ. วิทยศักดิ์ (ปี ๒๔๕๒-๒๕๓๗) [เซ็งลี้ รถถ่าน ไทยถีบ :  เศรษฐกิจสงครามโลกจากหนังสืองานศพ] 19 กรกฎาคม 2016
  15. ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๕
  16. "สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระบบสารสนเทศเพื่อการศึกษา". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-11-11. สืบค้นเมื่อ 2022-11-11.
  17. 17.0 17.1 รัชกาลที่ ๙ กับการเสด็จพระราชดำเนินจังหวัดสุโขทัย
  18. 18.0 18.1 พระราชดำรัส พระราชทานในงานพิธีพระราชทานธงประจำรุ่นลูกเสือ จ.สุโขทัย (จาก สวรรค์อนันต์วิทยา 120ปี วิถีแห่งปัญญา)
  19. 19.0 19.1 "สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ องคมนตรี เปิดงาน Sukhothai Field Day ครั้งที่ 4". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-11-07. สืบค้นเมื่อ 2023-11-07.
  20. ข้อมูลอาคารและสถานที่ โรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา
  21. ประกาศโรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา เรื่องการรับสมัครนักเรียนเข้าศึกษาต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่1 และ 4 ปีการศึกษา 2566
  22. เพจเฟสบุ๊ค โรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา Sawanananwittaya School : แผ่นพับประชาสัมพันธ์ การรับนักเรียน ม.1 และ ม.4 ปีการศึกษา 2568
  23. "ข้อมูลสิ่งก่อสร้าง โรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา ระบบเว็บไซต์สถานศึกษา EMIS WEB School CMS V.1". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-11-25. สืบค้นเมื่อ 2023-11-25.
  24. "ประวัติโรงเรียนสวรรค์อนันต์วิทยา ๒". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2023-09-26. สืบค้นเมื่อ 2023-09-26.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุโขทัย ข้อมูลพื้นฐานโรงเรียน