โมริฮิโระ ฮิงาชิกูนิ
บทความนี้ยังต้องการเพิ่มแหล่งอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ความถูกต้อง |
พันตรี โมริฮิโระ ฮิงาชิกูนิ (ญี่ปุ่น: 東久邇 盛厚; โรมาจิ: Higashikuni Morihiro) หรือพระนามเดิม เจ้าชายโมริฮิโระแห่งฮิงาชิกูนิ (ญี่ปุ่น: 盛厚王; โรมาจิ: Morihiro Ō) เป็นเชื้อพระวงศ์ญี่ปุ่นที่รับราชการเป็นทหารสังกัดหน่วยปืนใหญ่ในกองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นอดีตพระชามาดาในจักรพรรดิโชวะ ด้วยเป็นอดีตพระภัสดาในเจ้าหญิงชิเงโกะ เทรุโนะมิยะ
โมริฮิโระ ฮิงาชิกูนิ | |
---|---|
เกิด | 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2459 โตเกียว จักรวรรดิญี่ปุ่น |
เสียชีวิต | 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2512 (52 ปี) โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น |
รับใช้ | จักรวรรดิญี่ปุ่น |
แผนก/ | กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น |
ประจำการ | พ.ศ. 2480-2488 |
ชั้นยศ | พันตรี |
หน่วย | ปืนใหญ่ |
บังคับบัญชา | กรมทหารปืนใหญ่ที่ 1 แห่งกองทัพคันโต |
การยุทธ์ | • สงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 2 • สงครามแปซิฟิก |
บำเหน็จ | • เครื่องราชอิสริยาภรณ์ดอกคิริ • เครื่องราชอิสริยาภรณ์อาทิตย์อุทัย • เครื่องราชอิสริยาภรณ์ว่าวทองคำ (ชั้นที่ 4) |
พระประวัติ
แก้โมริฮิโระ ประสูติในโตเกียว เป็นพระโอรสพระองค์ใหญ่จากทั้งหมดสี่พระองค์ในเจ้าชายนารูฮิโกะ ฮิงาชิกูนิโนะมิยะ ประสูติแต่เจ้าหญิงโทชิโกะ พระชายาฯ พระชนกเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ส่วนพระชนนีเป็นพระราชธิดาในจักรพรรดิเมจิ พระองค์ได้รับการการอุปถัมภ์อำรุงเลี้ยงอย่างดี และได้รับการวางตัวให้ประกอบอาชีพเป็นทหารตั้งแต่ยังเยาว์ชันษา
การทรงงาน
แก้หลังพระองค์สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนกะกุชูอิง ก็ได้ศึกษาที่ต่อที่โรงเรียนเตรียมทหารกลาง และเคยร่วมประชุมในสภาขุนนาง จนในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2480 ทรงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนทหารอิมพีเรียลรุ่นที่ 49 และมียศเป็น ร้อยตรี หน่วยปืนใหญ่ในเดือนสิงหาคม จนถึงเดือนมีนาคมปีถัดมาพระองค์จึงเลื่อนยศเป็น ร้อยโท ประจำการในประเทศแมนจู
ในช่วงเหตุการณ์โนะมงฮังในปี พ.ศ. 2483 พระองค์ได้อยู่หน่วยปืนใหญ่แห่งกองทัพคันโต ต่อมาพระองค์ได้ถอนตัวออกและกลับไปยังญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 2 สิงหาคมปีเดียวกันและเลื่อยยศเป็น ร้อยเอก ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2484
โมริฮิโระเข้าศึกษาในสถาบันวิชาการทหารบกชั้นสูงในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2485-86 หลังสำเร็จการศึกษาจึงมียศเป็น พันตรี
เสกสมรส
แก้โมริฮิโระ เสกสมรสกับเจ้าหญิงชิเงโกะ เจ้าหญิงเทรุ (ญี่ปุ่น: 照宮成子内親王) พระราชธิดาในสมเด็จพระจักรพรรดิโชวะ กับสมเด็จพระจักรพรรดินีโคจุง ขณะที่เจ้าหญิงเทรุมีพระชันษาได้ 13 ปี และทั้งสองต่างเป็นพระประยูรญาติสนิททั้งฝ่ายพระชนกและชนนี ทั้งสองมีพระโอรส-ธิดาด้วยกัน 5 พระองค์ (ภายหลังทั้งหมดได้ถูกถอดจากฐานันดรศักดิ์) ได้แก่[1]
- โนบูฮิโกะ ฮิงาชิกูนิ (ญี่ปุ่น: 東久邇 信彦; 10 มีนาคม พ.ศ. 2488) สมรสกับโยชิโกะ ชิมาดะ มีบุตรหนึ่งคน
- ฟูมิโกะ ฮิงาชิกูนิ (ญี่ปุ่น: 東久邇 文子; 23 ธันวาคม พ.ศ. 2489) สมรสกับคาซูโยะชิ โอมูระ
- ฮิเดฮิโกะ ฮิงาชิกูนิ (ญี่ปุ่น: 東久邇 秀彦; 30 มิถุนายน พ.ศ. 2492) เปลี่ยนชื่อและสกุลเป็น โมโตฮิโระ มิบุ
- นาโอฮิโกะ ฮิงาชิกูนิ (ญี่ปุ่น: 東久邇 真彦; พ.ศ. 2496) สมรสกับคาซูโกะ ซาโต มีบุตรสองคน
- ยูโกะ ฮิงาชิกูนิ (ญี่ปุ่น: 東久邇 優子; พ.ศ. 2497)
หลังอดีตเจ้าหญิงชิเงโกะสิ้นพระชนม์ด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2504 โมริฮิโระจึงได้สมรสใหม่กับโยชิโกะ เทราโอะ (ญี่ปุ่น: 寺尾佳子; พ.ศ. 2470–2554) ในปี พ.ศ. 2507 มีบุตรด้วยกันสองคน ได้แก่
ปัจฉิมวัย
แก้ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2490 ราชสกุลฮิงาชิกูนิและราชสกุลสาขาอื่น ๆ ของราชวงศ์ญี่ปุ่นถูกถอดจากฐานันดรศักดิ์จากการเป็นเจ้า หลังจากนั้นโมริฮิโระได้ประกอบกิจด้านเหมืองแร่ที่ฮกไกโดและมีธุรกิจเดินเรือ
โมริฮิโระ ฮิงาชิกูนิ สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2512 ด้วยโรคมะเร็งในพระปับผาสะ ขณะมีพระชันษา 52 ปี
อ้างอิง
แก้แหล่งข้อมูลอื่น
แก้- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ โมริฮิโระ ฮิงาชิกูนิ