โทมิอิจิ มูรายามะ

โทมิอิจิ มูรายามะ (ญี่ปุ่น: 村山 富市โรมาจิMurayama Tomiichi; เกิดวันที่ 3 มีนาคม ค.ศ. 1924) เป็นนักการเมืองชาวญี่ปุ่นที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นตั้งแต่ ค.ศ. 1994 ถึง 1996 เขาเป็นหัวหน้าพรรคสังคมนิยมญี่ปุ่นและมีส่วนในการเปลี่ยนชื่อพรรคไปเป็นพรรคสังคมประชาธิปไตยแห่งญี่ปุ่นใน ค.ศ. 1996

โทมิอิจิ มูรายามะ
村山富市
ภาพถ่ายทางการใน ค.ศ. 1994
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
ดำรงตำแหน่ง
30 มิถุนายน ค.ศ. 1994 – 11 มกราคม ค.ศ. 1996
กษัตริย์สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะ
รองโยเฮ โคโนะ
รีวตาโร ฮาชิโมโตะ
ก่อนหน้าสึโตมุ ฮาตะ
ถัดไปรีวตาโร ฮาชิโมโตะ
ประธานพรรคสังคมประชาธิปไตย
ดำรงตำแหน่ง
25 กันยายน ค.ศ. 1993 – 28 กันยายน ค.ศ. 1996
ก่อนหน้าซาดาโอะ ยามาฮานะ
ถัดไปทากาโกะ โดอิ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
จากโออิตะ เขต 1
ดำรงตำแหน่ง
11 ธันวาคม ค.ศ. 1972 – 19 พฤษภาคม ค.ศ. 1980
ก่อนหน้าอิซามุ มูรากามิ
ถัดไปอิซามุ มูรากามิ
ดำรงตำแหน่ง
19 ธันวาคม ค.ศ. 1983 – 2 มิถุนายน ค.ศ. 2000
ก่อนหน้าอิซามุ มูรากามิ
ถัดไปบัง คูงิมิยะ
สมาชิกสภาจังหวัดโออิตะ
จากนครโออิตะ
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. 1963 – 1972
สมาชิกสภานครโออิตะ
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. 1955 – 1963
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด (1924-03-03) 3 มีนาคม ค.ศ. 1924 (100 ปี)
โออิตะ จักรวรรดิญี่ปุ่น
พรรคการเมืองพรรคสังคมประชาธิปไตย
การเข้าร่วม
พรรคการเมืองอื่น
พรรคสังคมนิยมญี่ปุ่น (จนถึง ค.ศ. 1996)
คู่สมรสโยชิเอะ มูรายามะ (สมรส 1953)[1]
ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเมจิ
ลายมือชื่อ
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง
รับใช้ ญี่ปุ่น
แผนก/สังกัด กองทัพบกจักรวรรดิญี่ปุ่น
ประจำการค.ศ. 1944–1945
ชั้นยศเจ้าหน้าที่รับสมัคร
การยุทธ์สงครามโลกครั้งที่สอง

เมื่อดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มูรายามะกลายเป็นผู้นำฝ่ายสังคมนิยมคนแรกของญี่ปุ่นที่อยู่ในตำแหน่งนี้เป็นเวลาเกือบ 50 ปี ปัจจุบันตัวเขาเป็นที่จดจำมากที่สุดจากคำปราศรัย "เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีแห่งการสิ้นสุดสงคราม" ซึ่งเขาได้กล่าวขอโทษต่อการปกครองแบบอาณานิคมและการรุกรานของญี่ปุ่นในอดีตต่อสาธารณะ

ในบรรดาอดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น 10 คน มูรายามะยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุมากที่สุดหลังการเสียชีวิตของยาซูฮิโระ นากาโซเนะเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 มูรายามะยังเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีคนเดียวที่มีชีวิตอยู่ที่เกิดในยุคไทโช

ชีวิตช่วงต้นและการศึกษา

แก้
 
มูรายามะวัยหนุ่มขณะทำงานที่บริษัทการพิมพ์

มูรายามะเกิดในจังหวัดโออิตะเมื่อวันที่ 3 มีนาคม ค.ศ. 1924 พ่อของเขาเป็นชาวประมง.[2][3] เขาเป็นบุตรชายคนที่ 6 จากลูกทั้งหมด 11 คน พ่อเสียชีวิตตอนเขาอายุ 14 ปี ทำให้เขาต้องส่งหนังสือพิมพ์และทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อหารายได้เลี้ยงชีพ[4] หลังจบจากโรงเรียนมัธยมเทศบาลโออิตะใน ค.ศ. 1938 เขาย้ายไปที่โตเกียวและเริ่มทำงานที่โรงงานตีพิมพ์ในเวลากลางวัน และไปเรียนที่โรงเรียนพาณิชยการเทศบาลโตเกียวในเวลากลางคืน

เขาเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเมจิใน ค.ศ. 1943 ในฐานะนักศึกษาสาขาปรัชญา แต่ถูกระดมพลใน ค.ศ. 1944 และได้รับมอบหมายให้ทำงานในอู่ต่อเรืออิชิกาวะจิมะ ต่อมาในปีนั้นเขาาถูกเกณฑ์เข้ากองทัพจักรวรรดิและได้รับมอบหมายให้ไปประจำการในกองทหารราบที่ 72 ในกองพลน้อยที่ 23 ของกองพลที่ 23 ในฐานะพลทหารชั้นประทวน เขาถูกปลดประจำการภายหลังการยอมจำนนของญี่ปุ่นด้วยยศเจ้าหน้าที่รับสมัคร และจบสงครามด้วยยศนักเรียนนายร้อยจ่าสิบเอก เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเมจิใน ค.ศ. 1946 และใน ค.ศ. 1948 เขาได้เป็นเลขาธิการสมาคมเยาวชนหมู่บ้านประมงจังหวัดโออิตะ หลังจากที่สหพันธ์เยาวชนหมู่บ้านประมงถูกยุบลงหลังประสบความสำเร็จในหลาย ๆ ด้าน เช่น การจัดตั้งสหกรณ์การประมง เขาก็ทำงานเป็นเลขาธิการสหภาพแรงงานของพนักงานจังหวัดโออิตะในเวลาต่อมา[5]

การเมือง

แก้

หลังการเมือง

แก้
 
มูรายามะกับโยชิฮิโกะ โอกาเบะ (28 พฤศจิกายน ค.ศ. 2015)

ใน ค.ศ. 2000 มูรายามะเกษียณตนเองจากการเมือง ตัวเขาและมุตสึโกะ มิกิเดินทางไปประเทศเกาหลีเหนือใน ค.ศ. 2000 เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสองประเทศให้ดีขึ้น[6]

มูรายามะกลายเป็นประธาน Asian Women's Fund หน่วยงานกึ่งรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นเพื่อจ่ายค่าชดเชยแก่อดีตนางบำเรอ[7] หลังให้ค่าชดเชยและดำเนินโครงการต่าง ๆ แล้ว กองทุนดังกล่าวจึงถูกยุบเลิกในวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 2007[8]

มูรายะมะมีอายุถึง 100 ปีในวันที่ 3 มีนาคม ค.ศ. 2024[9]

อ้างอิง

แก้
  1. "Tomiichi Murayama".
  2. Profile of Tomiichi Murayama
  3. "Japan gets first Socialist PM in 46 years". The Independent. 30 June 1994. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 5 November 2012. สืบค้นเมื่อ 10 December 2010.
  4. 本田雅俊 (2008-07-29). 総理の辞め方. PHP研究所. pp. 222–231. ISBN 978-4-569-70085-4.
  5. 村山富市「私の政治人生」村山富市・佐高信『「村山談話」とは何か』角川書店2009年、113頁。
  6. "Mutsuko Miki, activist, wife of former prime minister, dies at 95". The Asahi Shimbun. 4 August 2011. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 8 August 2012. สืบค้นเมื่อ 31 July 2012.
  7. 8.5 million yen given to sex slave fund 2 Feb 2001 The Japan Times Retrieved 17 August 2012
  8. Closing of the Asian Women's Fund Asian Women's Fund Online Museum Retrieved 17 August 2012
  9. 村山富市元首相 きょう100歳の誕生日「日本がどこまでも平和な国であるように」 FNN (Japanese) March 3, 2024

บทความนี้นำข้อความมาจาก OpenHistory

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้