โจโก๋ (อังกฤษ: Cao Song; จีน: 曹嵩) เป็นตัวละครในวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์เรื่องสามก๊กที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ในยุคสามก๊ก เป็นคหบดีในยุคราชวงศ์ฮั่นตอนปลาย เป็นบิดาของโจโฉ อัครมหาเสนาบดีและผู้ก่อตั้งวุยก๊กในเวลาต่อมา

โจโก๋ (เฉาซง)
曹嵩
ภาพโจโก๋จากนวนิยายภาพสามก๊ก (ค.ศ. 1957)
ผู้บัญญาการทหารสูงสุด (太尉)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. 187 (187) – ค.ศ. 188 (188)
กษัตริย์พระเจ้าเลนเต้
ก่อนหน้าชุย เลี่ย
รัฐมนตรีกระทรวงปฏิคม (大鴻臚)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. ? (?) – ค.ศ. 187 (187)
กษัตริย์พระเจ้าเลนเต้
รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง (大司農)
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. ? (?) – ค.ศ. ? (?)
กษัตริย์พระเจ้าเลนเต้
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิดไม่ทราบ
โป๋โจว มณฑลอันฮุย
เสียชีวิต193[1]
หลินอี๋ มณฑลชานตง
บุตร
  • โจโฉ
  • โจปิน
  • โจเต๊ก
  • ไห่หยางไอโหว
อาชีพขุนนาง
ชื่อรองจวี้เกา (巨高)

ประวัติ แก้

โจโก๋เกิดในตระกูลแฮหัว แต่ต่อมาขันทีโจเท้งได้นำโจโก๋เลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม โจโก๋เปลี่ยนมาถือแซ่โจ ทำให้โจโฉต้องถือแซ่โจตามไปด้วย โจโก๋มีบทบาทในเรื่องสามก๊กอยู่ 2-3 ครั้ง ครั้งแรกสุดคือตอนที่กล่าวถึงประวัติของโจโฉในวัยเด็ก โจโฉในวัยเด็กนั้นเป็นเด็กเกเร ชอบหนีไปเที่ยวเล่น โจเต๊ก น้องชายโจโก๋จึงเอาความนี้ไปฟ้องพี่ชายบ่อยๆ โจโก๋จึงทำโทษโจโฉ โจโฉจึงโกรธเคืองอาคิดจะแก้แค้นอยู่เนืองๆ วันหนึ่ง โจโฉเห็นโจเต๊กจึงแกล้งทำเป็นล้มลงทำทีว่าจะมีอันเป็นไป โจเต๊กตกใจรีบไปบอกโจโก๋ให้ทราบ โจโก๋ตกใจรีบวิ่งมาดูเห็นโจโฉวิ่งเล่นเป็นปกติ โจโก๋ถามโจโฉว่า "อาเอ็งไปบอกว่าเอ็งมีอันเป็นไป บัดนี้หายแล้วหรือ" โจโฉจึงตอบว่า "แต่น้อยมาข้าหาเจ็บป่วยสิ่งใดไม่ เพราะอาชังข้าจึงเอาความมิดีมาใส่" [2]โจโก๋ก็เชื่อโจโฉ ตั้งแต่นั้นมา ไม่ว่าโจเต๊กจะพูดเกี่ยวกับโจโฉในทางไม่ดี โจโก๋ก็ไม่เชื่ออีกเลย

โจโก๋มีบทบาทครั้งต่อมา เมื่อโจโฉคิดตั้งกองทัพเพื่อปราบตั๋งโต๊ะ จึงได้หลบหนีจากเมืองหลวงกลับมาเมืองตันลิวซึ่งโจโก๋อยู่ที่นั่น โจโฉได้ขอทรัพย์สินของโจโก๋ส่วนหนึ่งเพื่อใช้ตั้งกองทัพ โจโก่แนะนำบอกว่า "เงินทองเรามีอยู่บ้างเห็นจะไม่พอการ เราเห็นคนหนึ่งชื่ออุยหองมีทรัพย์สินเป็นอันมาก น้ำใจก็กว้างขวางซื่อสัตย์ต่อแผ่นดิน ถ้าได้ไปบอกเนื้อความทั้งปวงก็เห็นจะลงใจด้วย จะให้เงินทองมาจ่ายอาวุธแลม้า จะได้เป็นกำลังสืบไป"[3] โจโฉเชื่อคำโจโก๋แล้วเชิญอุยหองมากินโต๊ะ และกล่าวขอทรัพย์สินเพื่อตั้งกองทัพ อุยหองเห็นดีด้วยจึงให้ทรัพย์สินแก่โจโฉในการตั้งกองทัพ

โจโก๋ได้มีบทบาทเป็นครั้งสุดท้าย เมื่อโจโฉได้เป็นแม่ทัพแห่งภาคตะวันออก มีอำนาจในแคว้นกุนจิ๋ว ทั้งยังเกลี้ยกล่อมผู้คน เสาะแสวงหาคนมีปัญญามาเป็นพวกเป็นจำนวนมาก แล้วให้คนไปรับโจโก๋ซึ่งอยู่ที่ตันลิวให้มาอยู่ด้วยกันที่กุนจิ๋ว โจโก๋จึงได้พาครอบครัวและบริวารออกเดินทางไปกุนจิ๋ว ระหว่างทาง ได้แวะพักที่เมืองชีจิ๋ว โตเกี๋ยมเจ้าเมืองต้อนรับโจโก๋เป็นอย่างดี แล้วยังให้เตียวคีและทหารในสังกัดเป็นองครักษ์คุ้มกันโจโก๋ไปถึงเมืองกุนจิ๋ว

ระหว่างเดินทางเกิดฝนตก ขบวนของโจโก๋จึงหยุดพักที่วัดร้างแห่งหนึ่ง เตียวคีซึ่งเป็นเคยเป็นโจรโพกผ้าเหลือง เกิดละโมบอยากได้ทรัพย์สมบัติของโจโก๋ จึงพาทหารในสังกัดเข้าไปฆ่าโจโก๋ พร้อมครอบครัวและบริวารเสียสิ้น และขโมยทรัพย์สมบัติหนีไป จากเหตุการณ์นี้ ทำให้โจโฉเข้าใจว่าโตเกี๋ยมใช้ให้ทหารของตัวไปฆ่าโจโก๋ จึงได้ยกทัพไปตีเมืองชีจิ๋ว แต่ต่อมาก็ต้องยกทัพกลับ เพราะลิโป้ยกทัพไปยึดแคว้นกุนจิ๋ว

ในปีค.ศ.220 โจผีได้สถาปนาปู่ของตนเป็นจักรพรรดิไท่เว่ยซึ่งหมายถึงจักรพรรดิบรรพชนแห่งเว่ย และพร้อมกันนั้นก็สถาปนาโจเท้งทวดบุญธรรมเป็นจักรพรรดิเกาแห่งเว่ยซึงหมายถึงจักรพรรดิต้นวงศ์แห่งเว่ย

ครอบครัว แก้

จากหลักบันทึกทางประวัติศาสตร์จีนระบุว่า โจโก๋มีโจเท้งเป็นบิดาบุญธรรม และมีโจเต๊กเป็นน้องชาย มีบุตรชายหนึ่งคนคือโจโฉ และมีหลานชายห้าคนได้แก่ โจงั่ง โจผี โจเจียง โจสิด โจหิม โดยมีโจผีเป็นผู้สถาปนาราชวงศ์วุย

อ้างอิง แก้

  1. de Crespigny (2007), p. 48.
  2. ประวัติโจโฉในวัยเด็ก ,สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) เล่ม 1, เจ้าพระยาพระคลัง (หน) , สำนักพิมพ์ศิลปาบรรณาคาร, พ.ศ. 2544
  3. โจโฉตั้งกองทัพเพื่อปราบตั๋งโต๊ะ,สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยาพระคลัง (หน) เล่ม 1, เจ้าพระยาพระคลัง (หน) , สำนักพิมพ์ศิลปาบรรณาคาร, พ.ศ. 2544

ดูเพิ่ม แก้